ความหวาดวิกตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบทั้งในตลาดหุ้น และนอกตลาดหุ้นยังคงเป็นตัวกัดกร่อนความมั่นใจในการลงทุนจนยากที่จะเลี่ยงได้ "โมนิก้า" จึงไม่ใแปลกใจที่เห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาในแดนลบตลอดทั้งวัน เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่เลือกรอซื้อหุ้นชวงอ่นตัวมากกว่ากระโจนเข้าไปไล่ซ้อหุ้นเหมือนก่อนหน้านี้นะซี

*แม้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องจะออกมาสำทับว่า ราคาหุ้นถูกๆ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วและเป็นระดับราคาที่เหมาะสม ก็ยังช่วยอะไรได้ไม่มาก แสดงให้เห็นว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีอาการกลัวขึ้นสมอง ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนหงอยเหงา และดัชนีออกอาการผันผวนอย่างหนักนั่นปะไร

*โชคดีที่ดัชนียังยืนปักหลักเหนือแนวรับสำคัญได้อย่างมั่นคง และตลอดทั้งวันมีแรงซื้อเข้ามาไม่ขาดสาย เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ดัชนีกำลังอยู่ในช่วงสร้างฐาน และหากมีข่าวดีเข้ามาผสมโรงอีกนิดหน่อย ก็เชื่อว่าดัชนีพร้อมจะพุ่งกระฉูดเจ้าค่ะ

*PTT ยืนซึมซังกะตายมาหลายวัน วันนี้ได้ลุ้นรีบาวนด์แน่นอน แต่คงจะไปได้ไม่ไกลเพราะแรงเทขายยังคงหนาแน่น จึงเป็นการยากที่หุ้นจะฝ่ากระแสขึ้นไปยืนบวกได้ถาวรงานนี้หากต้องการเก็บของเข้าพอร์ตจริงๆ "โมนิก้า" ขอแนะให้ไปทยอยซื้อไปเรื่อยๆดีกว่า เพราะโอกาสฝ่าขึ้นไปยืนแนวต้าน 300 บาทไม่หมูเหมือนแต่ก่อน

*ที่เลวร้ายเกินกว่าจะรับได้ น่าจะเป็นในรายของ MCOT ช่วงหลายเดือนโดนกระหน่ำย่ำยี่แบบมาราธอนตั้งแต่เช้าจรดเย็น ฉุดราคาหุ้นร่วงหล่นทำราคาต่ำสุดในรอบหลายเดือนเชียวน่า ที่แย่ไปกว่านั้น คือ หุ้นดันรูดทะลุแนวรับสำคัญมาทุกแนวมาหมดแล้ว หากวันนี้รีบาวนด์ได้ ก็แสดงถึงขาขึ้นรอบใหม่กำลังเกิดขึ้นนะจะบอกให้ที่รัก

*เช่นเดียวกับในรายของ BEC ก่อนหน้านี้ทำกำไรหกเรี่ยราด แถมภายในยังมีเรื่องวุ่นๆ เพราะผู้บริหารตระกูล "มาลีนนท์" ออกมาโวยวายเรื่องเร็ตติ้งที่บริษัทวิจัยแห่งหนึ่งรายงานขัดกับใจตัวเอง ก็เลยทำให้ราคาหุ้นนิวโลว์ไปนานพอสมควร แต่พอผลประกอบการเริ่มเข้าที่เข้าทาง และผู้บริหารออกมาให้ข่าวปลอบขวัญนักลงทุนเป็นมั่นเป็นเหมาะจะมีกำไรเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายแน่นอน ราคาหุ้นถึงพุ่งกระฉูดชนิดไม่เหลียวหลังให้เสียเวลา...อย่างนี้ซิที่เขาเรียกคุณพี่ประวิทย์ว่าเจ้าพ่อโทรทัศน์

*ทางด้าน DTAC อุตสาห์ฟอร์มตัวด้วยการย่ำฐานที่ 40 บาทจนแน่นปึ๊กหลายวันแต่กลับไม่มีใครสนเหลียวมอง ที่แย่ไปกวานั้นก็คือโดนสาดเสียเทเสียเหมือนไม่มีคุณค่าอะไรให้จดจำอีกต่อไป ราคาหุ้นจึงขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ ขณะเดียวกันก็มีแรงเทขายรออยู่อื้อซ่า บ่งชี้ว่าวันนี้หุ้นมีโอกาสลงต่อสูงเชียวนะค่ะ

*ยิ่งถ้าย้อนกลับมาดูหุ้นแบงก์ด้วยแล้วหล่ะก้อ "โมนิก้า" ขอบอกตามตรงว่า ดูไม่ได้เลยสักกะตัว ไล่เรียงตั้งแต่พี่เอื้อย KTB นับวันจะกลายเป็นสาละวันเตี้ยลง เตี้ยลง จนไม่ต้องพูดถึงแนวรับให้เสียเวลา เพราะตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันพี่ท่านไม่เคยยืนระยะได้นานสักที... การที่หุ้นอ่อนตัวลงไปเรื่อยๆ ถือเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้จนชินตานะค่ะ

*เช่นเดียวกับ BBL KBANKและ SCB พอหมดข่าวเรื่องผลประกอบการ ก็กลายเป็นหุ้นพื้นๆ ไม่มีอะไรน่าสนอก สนใจ นับตั้งแต่ต้นเดือนราคาหุ้นถึงได้ร่วงแบบไม่มีลิมิต แนวรับที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งก็จวนเจียนที่จะหลุดแหล่ มิหลุดแหล่ ...ผิดกับในรายของ BAY มีข่าวดีรองรับเต็มประตูแบบนี้ไงเล่า หุ้นตัวลูก BAY-W1 ถึงได้วิ่งกระฉูดตามก้นตัวแม่อย่างหวือหวา

*ส่วนหุ้นรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นหุ้นต้องห้ามสำหรับเซียนหุ้นทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่เหมือนเดิม เพราะพ่วงเรื่องต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นยังตามังคานไม่เลิก ทำให้ราคาหุ้นทั้งกลุ่ม แดงยกแผง มาร่วมเดือน ล่าสุดมีคนพยายามโยงเรื่องให้เกี่ยวข้องกับซับไพร์มแบบนี้...กว่าจะขึ้นได้คงเวลาอีกหลายเดือนเจ้าค่ะ

*ทางด้านหุ้นโรงพยบาล BH ถือว่ามีแบ็กหลังดี และมีคนอย่าง ชาตรี โสภณพานิชที่สามารถทำได้ทุกอย่างคอยกุมบังเหียนในการดำเนินธุรกิจ มิได้หมายความว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะกลับสู่จุด พีค ได้อีกครั้งหรอกนะ และการมีคนเชียร์ให้เล่นหุ้นตัวนี้หลายสำนัก ก็ไม่ได้หมายความว่า หุ้นจะทะยานขึ้นแบบรวดมิดซายนะจ๊ะ...เนื่องจากประวัติเก่าหุ้นตัวนี้เคยผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการมาแล้ว จึงเสี่ยงมากเกินไปหากทุ่มเงินไปกับหุ้นตัวนี้จนหมดหน้าตักนะจ๊ะ

*หากวันนี้ดัชนีสามารถยืนยันแนวรับที่ 780 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยไม่มีอาการอกสั่นขวัญแขวนให้เห็นอีกหล่ะก้อ "โมนิก้า" รับรองได้เลยว่า ตลาดหุ้นจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้งหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย...เพราะสงสัยกันทีไร พลาดขบวนรถด่วนกันเป็นประจำ


:lol: