May 15, 2024   12:38:08 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > """"" เก็งกำไรเดือด ""
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 27/08/2007 @ 21:22:50
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลาดหุ้นโลกคืนสู่ฝันที่เป็นจริงอีกครั้ง หลัง BOJ คงดอกเบี้ย เฟดคงดอกเบี้ยนโยบาย ฟากตลาดหุ้นไทยเริ่มตั้งหลักได้ หลังข่าวดีเริ่มโผล่ ดึงทุนนอกกลับมาอีกรอบ ทั้งกำหนดวันเลือกตั้งชัด 23 ธ.ค.นี้ - งานไทยแลนด์โฟกัส เดือน ก.ย.นี้ แม้การประชุม กนง. วันที่ 29 ส.ค.นี้วงการยังเสียงแตกลด-ไม่ลดดอกเบี้ยนโยบาย ด้านหุ้นบิ๊กแคปเริ่มตั้งหลักได้ หุ้นเก็งกำไรเทรดสนั่นจอทั้ง S2Y-EMC-EWC-ASL เหตุมี Story รออีกเพียบ

หุ้นไทยเริ่มกระเตื้อง หลังสถานการณ์ต่างเริ่มผ่อนคลาย ทั้งปัญหาซับไพร์มสหรัฐ หลังจากที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) รอบหน้าเดือนก.ย.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจาก BOJ ซึ่งคงอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ปัญหา Unwinding yen carry trade ที่หลายฝ่ายกังวลคลี่คลายลงไป ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ สหรัฐจะประกาศข้อมูลยอดขายบ้านแบบครอบครัวเดี่ยว และยอดสินค้าคงทนที่เพิ่มขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ดีเราคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น แต่ตลาดยังต้องติดตามข้อมูลอีกหลายอย่างเพื่อให้ภาพเศรษฐกิจสหรัฐมีความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ได้แก่1) ยอดขายบ้านมือสอง (Mon) และ 2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Tue) 3) การจ้างงาน (Thu) และ4) รายได้ครัวเรือน (Fri) เพราะปัจจัยข้างต้นจะส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น

ส่วนปัจจัยบวกในประเทศยังรออีกเพียบไม่ว่าจะเป็น การกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปที่ชัดเจนในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ช่วยให้บรรยากาศทางการเมืองที่ดูอึมครึมเริ่มสดใส นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ยังเตรียมจะจัดงานไทยแลนด์ โฟกัส โดยเชิยนักลงทุนต่างประเทศเข้ามารับฟังข้อมูลทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และข้อมูลของบรรดาบริษัทจดทะเบียนของไทย อาทิเช่น บมจ.ปตท.(PTT) , บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC), บมจ.บ้านปู (BANPU) และบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่อื่นๆ อีกมากมายหลายแห่ง ซึ่งงานนี้จะมีขึ้นในเดือนก.ย.นี้

สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย นั้น บทวิเคราะหืของ บล.พัฒนสิน ระบุว่า สำรวจนักวิเคราะห์ 7 รายจากจำนวน 12 รายคาดว่า กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 25bp ในการประชุมวันที่ 29 ส.ค. นี้ ซึ่งอาจเป็น sentiment ที่ดีต่อตลาดฯในระยะสั้นแต่ในระยะปานกลาง-ยาวอาจกระทบเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อ การออม (หากทำอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงกลับไปติดลบ)และการลงทุนภาคเอกชนการลดดอกเบี้ยจึงต้องทำด้วยความรอบคอบเพื่อไม่ให้แก้ปัญหาหนึ่ง แต่สร้างปัญหาใหม่และไม่ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของไทยสะเปะสะปะจนเพ่มความเสี่ยงให้กับการลงทุนของต่างชาติในไทย ทั้งการลงทุนในตลาดหุ้น

และจากปัจจัยข้างต้นทำให้เริ่มเห็นสัญญาณการซื้อกลับของนักลงทุนต่างชาติ จากการสำรวจพบว่า นักลงทุนต่างชาติเริ่มซื้อสุทธิตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.จนถึงวานนี้( 27 ส.ค.) ซื้อสุทธิ 3,593.73 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,952.61 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 5ล551.34 ล้านบาท เป็นการซื้อกลับหลายวันทำการติดต่อกัน หลังจากช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้กระหน่ำขายยกใหญ่ ขณะที่ราคาหุ้นบิ๊กแคปหลายตัว เช่น PTT, PTTEP, BANPU, TOP, SCC หากไม่นับปัจจัยเฉพาะทางที่เข้ามากระทบ จะพบว่าเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว

ฟากหุ้นเก็งกำไรหลายตัว อาทิเช่น บมจ.บลิส-เทล (BLISS) , บมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC ), บมจ.อีเอ็มซี (EMC) ,บมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE), บมจ.เอเวอร์แลนด์ (EVER), บมจ.สยามทูยู (S2Y), บมจ. อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ( APURE),บมจ.นวนคร (NNCL) ,บมจ. อีสเทิร์นไวร์ (EWC) และบมจ.ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ (TUCC) ราคาหุ้นต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า ต้อนรับตลาดหุ้นที่เริ่มสดใสอีกครั้ง

และหากสำรวจลงไปจะพบว่า หุ้นเก็งกำไรหลายตัวที่ปรับเพิ่มขึ้นต่างมี Story ที่น่าสนใจ ในส่วนของ S2Y นั้น บริษัทเริ่มหันมารุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง โดยทุ่มเงิน 65 ล้านบาทซื้อหุ้น 2 บริษัท เพื่อรุกธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุย BLISS เองก็เริ่เห็นสัญญาณการฟท่นตัวของผลประกอบการ หลังจากที่เริ่มโชว์กำไร IEc คงไม่ต้องพูดถึง หลังจากถูกถอดวิซ่าห้ามเน็ต-มาร์จิ้น ราคาหุ้นก็กำลังสะสมพลังเพื่อแรลลี่ต่อ

APURE นั้นหากไม่มีอะไรผิดพลาดวันนี้น่าจะได้เทรดตามปกติ โดยที่ ตลท.ไม่ต่อวีซ่าห้ามเน็ต - มาร์จิ้น ตามมาติดๆ ก็ TUCC ต้องลุ้นศุกร์นี้( 31 ส.ค.) หากไม่มีอะไรผิดพลาด(เช่นกัน) นักลงทุนจะสามารถเล่นเน็ต - มาร์จิ้นได้ตามปกติในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ด้าน EWC เองก็ได้ข่าวดี เพราะทางบริษัทเตรียมที่จะล้างขาดทุนสะสม แถม SGF เตรียมชำระหนี้คืนเร็วนี้อีกด้วย ส่วน LIVE นั้นต้องรอลุ้นวันที่ 6 ส.ค.นี้ ว่า ตลท.จะชี้ชะตาเช่นไร ด้าน NNCL เรียกได้ว่าแจกข่าวดีปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.10 บาท เป็นการเซอร์ไพร์ซ ส่วน ASL นั้นรอลุ้นข่าวดีขายไลเซ่นส์ บล.เอเพ็กซ์ ซึ่งใกล้จะได้ข้อสรุปแล้วเร็วๆนี้

** ฟินันซ่า มอง ประชุมเฟดรอบหน้าหั่นดอกเบี้ยอีก 0.25%

บทวิเคราะห์ของบล.ฟินันซ่า ระบุว่า JPY เทียบกับ USD, AUD และ NZD มีแนวโน้มของการอ่อนค่าลงในระยะสั้นจากการทำ Carry Trade มากขึ้น ขณะที่ความผันผวนอันเนื่องมาจากข่าวความเสียหายของสถาบันการเงินที่ลงทุนใน CDOs ยังคงมีผลต่อการเคลื่อนไหว JPY ในระดับสูง ทั้งนี้ตลาดคาดหวังว่า FOMCอาจจะลดดอกเบี้ย 0.25-0.50% ในเดือนหน้า

ขณะที่ไทยเองจะมีการประชุม กนง. ในวันพุธนี้ ซึ่งเราคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และคาดว่าจะเป็นระดับต่ำสุดของปี เนื่องจาก 1) หากลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่านี้อาจทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ 2) บาทเทียบกับสหรัฐมีแนวโน้มการอ่อนค่าลงเรื่อยๆ โดยอ่านค่าลงจากการประชุมเดือนที่แล้ว 3.06% เพราะฉะนั้นผลลัพธ์จากการลดดอกเบี้ยเริ่มเห็นผลแล้ว 3) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ลดแรงดึงดูดใจในการเก็งกำไร และ 4)ระดับอัตราดอกเบี้ยที่ 3% หลังลดแล้ว จะมีความสามารถในการกระตุ้นการลงทุน และการบริโภคเพียงมากเพียงพอ หากมีการเลือกตั้งปลายปี เราจึงคาดว่าผลในระยะสั้นของมติการประชุมจะไม่ส่งผลต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศจะมีมากกว่า

***เซียนหุ้นแนะเก็งกำไรหุ้นเล็กที่มี Story หนุน

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ไม่ใช่จังหวะที่นักลงทุนจะเข้าไปซื้อหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ เนื่องจากวอลุ่มยังคงเบาบาง ขณะเดียวกันปัจจัยเรื่องซับไพร์มยังไม่คลี่คลาย รวมทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะจบได้เมื่อไหร่ นอกจากนี้ถึงแม้รัฐบาลจะมีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนคือวันที่ 23 ธ.ค.2550 แต่ต้องดูความพร้อมของพรรคการเมืองด้วยว่าการเลือกตั้งดังกล่าวจะเกิดขึ้นหรือไม่

"ดูจากวอลุ่มที่ยังคงเบาบางนักลงทุนต่างชาติยังไม่เข้ามาเล่นหุ้น ถึงแม้การเลือกตั้งจะมีการกำหนดวันที่ชัดเจนแต่ก็ยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าไปเล่นหุ้นบิ๊กแคป อีกอย่างราคาหุ้นบิ๊กแคปยังสูงราคาไม่ได้ถูกเลย ขณะที่ความกังวลเรื่องซับไพร์มก็ยังคงมีอยู่" นายรณกฤต กล่าว

อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงเล่นหุ้นขนาดใหญ่และรอให้วอลุ่มตลาดหนาแน่นกว่านี้ก่อน ดังนั้นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กหรือหุ้นเก็งกำไรที่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนจึงเหมาะที่จะลงทุนในช่วงนี้






:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com