May 15, 2024   3:32:34 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สังคมหุ้น และสัญญาณหุ้นค่ะ
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 29/08/2007 @ 08:55:57
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

....วานนี้ตลาด หุ้นไทยวอลุ่มบางไม่ถึงหมื่นล้านบาท ปิดที่ระดับ 788.21 จุด ลดลง 2.96 จุด ติดลบไป0.37% พันฐานชั่วคราว ก่อนขึ้นรอบใหม่

...ขณะที่หุ้น ACL คึกปิดที่ 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หลังแบงก์กรุงเทพประกาศจะขายหุ้น ACL ให้แก่พันธมิตรใหม่ที่เป็น สถาบันการเงินจากประเทศจีน และจะทยอยขายให้แล้วเสร็จภายในปีนี้

...แต่หุ้น BBL กลับร่วงลงไป 2 บาท ปิดที่ 116 บาท ตลาดไม่ขานรับข่าวดี แม้ประกาศจ่ายเงินปันผล 1 บาทก็ตาม

...ส่วน BAY-W1 หลังจากที่ขึ้นมาหลายวัน วานนี้ก็ได้เวลาร่วง นักลง ทุนเริ่มเปลี่ยนตัวเล่น จากหุ้นลูกมาเล่นแม่ เพราะมองว่าซื้อลูกไปก็ไม่คุ้ม ราคาเป้าหมาย หุ้นแม่คาดว่าจะไปได้ถึง 33 บาท

...กลุ่มโรงกลั่นเริ่มมาหลังราคาน้ำมันพุ่ง TOP 7 7.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
... UCOM ร่วงติดฟลอร์ 30% นักลงทุนกลัวนำ ไปสว็อปหุ้น DTAC เพราะไม่ทันเวลาแล้ว สิ้นสุดทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ 30 ส.ค. นี้

..SAM ยังแรงราคาเพิ่มกว่า 8% ทำนิวไฮ ราคาปรับขึ้นติดๆกัน 5 วันแล้ว ผู้บริหารคาด เล่นข่าววอแรนต์

...บอร์ดบมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT) อนุมัติจ่ายเงินปัน ผลระหว่างกาลประจำปี 2550 จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2550 ใน อัตราหุ้นละ 0.05 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 กันยายน 2550

... บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON) เผยว่า บริษัทตัดสินใจปรับลดงบลงทุนในปี นี้เหลือ 2.0-2.5 พันล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้ 3 พันล้านบาท หลังจากสภาพเศรษฐกิจชะลอ ตัวส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุน

...บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส(ADVANC) เผย เลขหมายใหม่ที่ได้รับจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จำนวน 2 ล้านเลขหมายนั้นคงไม่เพียงพอสำหรับปีนี้ โดยคงต้องมีการขออีก เลขหมายที่เพียงพอต้องตก เดือนละ 1 ล้านเลขหมาย

...บมจ.โมเดิร์นฟอร์มกรุ๊ป(MODERN)คาดว่าในงวดปี 50 จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในระดับ 3 บาทต่อหุ้น โดยจะมีการปันผลระหว่างกา ลงวด 6 เดือนแรกในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น

...ยอดจองพันธบัตรออมทรัพย์ของ แบงก์ชาติ ขายดีเกินคาด และจะขยายวงเงินพันธบัตรออมทรัพย์เป็นไม่เกิน 1 แสนล้านบาท

...บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ(BAFS)เตรียมปรับเป้ารายได้ปี 50 เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ประเมินไว้ 2 พันล้านบาท เติบโตราว 7% หลังจากพบว่าปริมาณเติมน้ำมันในงวด ครึ่งปีแรกเติบโตถึง 7% เกินกว่าที่คาดไว้ที่ 5% แต่อาจปรับเพิ่มขึ้นได้ไม่มากเนื่องจากได้รับ ผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น

...บอร์ดบมจ.วีนิไทย (VNT) อนุมัติวงเงินที่จะใช้ ซื้อทรัพย์สิน(ที่ดิน อาคาร โรงงาน และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับโรงงาน)จากบริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมิคอล จำกัด 3,250 ล้านบาท บริษัทจะจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการซื้อสินทรัพย์ดัง กล่าวโดยการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง

...อาปิโก ไฮเทค(AH) คาดว่า ในปีนี้จะมีรายได้ 9.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการลดลงจากเป้าเดิมที่บริษัทตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในประเทศที่ อัตราการเติบโตของรถยนต์ลดลง 1-2% แต่ส่งออกเพิ่มขึ้น 20%

...บมจ. เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEN) คาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 72 ล้านบาทได้ หมดภายในปีนี้ หากในงวดปี 51 บริษัทมีกำไรที่ดีก็เชื่อว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือ หุ้นได้ในปี 52

...นางภัทรียา มั่นใจว่าแบงก์ชาติจะให้คำตอบกับตลท.ก่อนวันที่ 6 ก.ย. 50 ว่าจะยกเว้นมาตรการสำรอง 30% สำหรับเงินที่จะเข้ามาลงทุนในหน่วยลงทุนของ ETF หรือไม่ เนื่องจากเป็นกำหนดที่กองทุน ETF จะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่นักลงทุน หลายรายโดยเฉพาะต่างชาติที่แสดงความสนใจเข้ามา เนื่องจากการลงทุนของกองทุนดัง กล่าวมีลักษณะคล้ายตะกร้าหุ้น

....ข่าวร้ายของคอเหล้า-สิงห์อมควัน วานนี้ครม. อนุมัติขึ้นภาษีสุรากลั่นขวดละ 9-12 บาท บุหรี่ซองละ 1-2 บาทมีผลทันที ส่วนเสี่ยเจริญเจ้า พ่อน้ำมันงานนี้โดนกับเขาด้วยเพราะเป็นผู้ผลิตเหล้าขาวรายใหญ่ ถ้าแฟนคลับใจไม่สู้ยอดขาย คงดิ่งเหว แต่ก็ยังดีที่เบียร์ไม่ปรับเพิ่มขึ้นด้วย ไม่นั้นคงโดน 2 เด้งแน่ๆ

...ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบ เจ้าหน้าที่การตลาด ของนางสาวสุทธาสินี สิทธิ มีผลตั้งแต่ วันที่ 28 สิงหาคม 2550 ฐานยักยอกทรัพย์สินลูกค้า
...ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศให้ POWER เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน พร้อมขึ้น NC 29 ส.ค.

 กลับขึ้นบน
Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
#1 วันที่: 29/08/2007 @ 08:57:13 :
บล.บัวหลวงแนะนำซื้อเก็งกำไรPTTCHราคาเป้าหมาย 121.00 บาท
ตามการปรับประมาณการล่าสุดของ CMAI ส่วนต่างราคาHDPE- นาฟทาคาดว่าจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันจนสิ้นทศวรรษ เนื่องจากปริมาณความต้องการเอทีลีนของกลุ่ม PTTCH อยู่ในระดับสูงที่ 82% เรามองว่าส่วนต่างกำไรโดยรวมของบริษัทน่าจะมีความผันผวนน้อยกว่าส่วนต่างกำไรของผู้ผลิตเอทีลีนเพียงอย่างเดียวเนื่องจากกำลังการผลิต HDPE เพิ่มเติมของ BPE จะเริ่มเปิดดำเนินงานในไตรมาส 4/52PTTCH จะรับรู้ผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ในปี 2553 เราคาดว่าการขยายกำลังการผลิตจะทำให้ EPS ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 0.50 บาทต่อปี เพื่อที่จะสะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของเรา เราจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสำหรับปี 2551 ตามวิธี DCF มาอยู่ที่ 121บาทจากเดิมที่ 116 บาท คิดกลับเป็น PER 10.1 เท่าสำหรับปี 2551 ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาค และ P/BR 1.4 เท่า (อยู่ที่ระดับต่ำกว่าหุ้นปิโตรเคมีอื่นๆในภูมิภาค) ราคาหุ้น PTTCH นั้นกลับมาปรับตัวอยู่ในทิศทางบวกในช่วงเดือนที่ผ่านมาจากส่วนต่างราคาเอทีลีน-นาฟทาและ HDPE ที่ฟื้นตัว เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะยังคง outperformต่อไปจากส่วนต่างราคาเอทีลีน-นาฟทาและ HDPE ที่ปรับตัวสูงขึ้นอีกและประมาณการกำไรที่น่าประทับใจในครึ่งปีหลัง ทางด้านมูลค่า PTTCH มีการซื้อขายอยู่ที่ระดับต่ำกว่าหุ้นปิโตรเคมีอื่นๆในภูมิภาค โดยซื้อขายอยู่ที่ PER 8.8 เท่าสำหรับปี 2550 เทียบกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ 9.9 เท่า ดังนั้น เรายังคงแนะนำซื้อเก็งกำไรด้วยราคาเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2551 ที่ 121 บาท

บล.เกียรตินาคินแนะนำถือUBISราคาเป้าหมาย 3.45 บาท
จากยอดการส่งออกของบริษัทยังคงมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกในงวดครึ่งปีแรก 50 (100 ลบ.) คิดเป็นถึง 70% ของยอดการส่งออกทั้งปี 49 (142 ลบ.) ของบริษัทแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังมีการขายสิทธิการผลิตและจำหน่ายยางยาแนวฝากระป๋องที่ใช้ในทวีปยุโรปให้กับบริษัท HENKEL KGaA (ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นและน้ำยาในการล้างเพื่อการขึ้นรูปกระป๋องโดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 50% ของทั้งโลก) เพื่อช่วยในการทำการตลาดในต่างประเทศให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอีกด้วย

กำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรกคิดเป็น 69% ของประมาณการปี 50 เดิมของเรา จากการเติบโตของยอดขายจากการส่งออก และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด (คาด 28%) เราจึงมีการปรับประมาณการผลการดำเนินงานปี 50 ของบริษัทเพิ่มขึ้น คาดยอดขายเท่ากับ 503ลบ. เพิ่มขึ้น 12% yoy (เดิมคาด 482 ลบ.) คาดอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 31% (เดิมคาด 28%) คาดกำไรสุทธิเท่ากับ 55 ลบ. เพิ่มขึ้น 36% yoy (เดิมคาด 45 ลบ.)

คาดบริษัทจะเติบโตจากการส่งออกอย่างต่อเนื่อง คาดสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 46% ของยอดขาย คาดยอดขายปี 51 เท่ากับ 566 ลบ. เพิ่มขึ้น 12%yoy คาดอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 30% คาดกำไรสุทธิเท่ากับ 66 ลบ. เพิ่มขึ้น 19% yoyคาดกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.35 บาท คาดเงินปันผลจ่ายปี 51 เท่ากับ 0.14 บาท/หุ้นคิดเป็น Div Yield เท่ากับ 4.32% (คาดเงินปันผลจ่ายปี 50 เท่ากับ 0.12 บาท/หุ้นคิดเป็น Div Yield เท่ากับ 3.63%)

บล.กรุงศรีอยุธยาแนะนำขายTRUราคาเป้าหมา 3.42 บาท
ทางผู้บริหารได้แจ้งถึงการประกอบธุรกิจใหม่ในการผลิตรถบัส โดยทำตลาดร่วมกับบริษัท YOTONG ผู้ผลิตรถบัสรายใหญ่ของจีน ซึ่งช่วงแรกจะเป็นการนำเข้าจากจีนมาขายก่อน เพื่อทดลองตลาด คาดว่าปีนี้จะเริ่มนำเข้ามาประมาณ 10 คัน และเตรียมลงทุน 500-600 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตที่ ชลบุรี โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 15-20% ในช่วง 2-3ปีข้างหน้า โดยกลุ่มของลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ(ขสมก.) และรถประจำทางในโครงการ BRT ของ กทม. อย่างไรก็ตามธุรกิจดังกล่าวเรามองว่ายังมีความเสี่ยง จากการทำตลาด และความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐสำหรับโครงการในการปรับปรุงรถ ขสมก. รวมถึงโอกาสที่ทางบริษัทจะชนะประมูล

เนื่องจากผลประกอบการในงวดปี 50 เราประเมินว่ายังมีผลขาดทุนประมาณ 14ล้าน ในขณะที่แนวโน้มในปี 51 แม้คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไร แต่ความสามารถในการทำกำไรคาดว่ายังต่ำกว่าอุตสาหกรรม ส่วนธุรกิจใหม่ในการผลิตรถบัสยังมีความไม่แน่นอนสูงเราจึงยังไม่นับรวมรายได้ดังกล่าวในประมาณการ สำหรับมูลค่าที่เหมาะสมในปี 51 ที่ 3.42เราอิงวิธี P/BV ที่ 0.7 เท่า เหลือ Upside gain เพียง 2.9% ดังนั้น เราแนะนำขายและเปลี่ยนไปซื้อ หุ้น SAT (เป้าหมาย 17.60 บาท) และ STANLY (เป้าหมาย 165บาท) ซึ่งมีความน่าสนใจมากกว่า ในด้านการเติบโตของผลกำไร และยังมี Upside gainจากราคาปัจจุบัน 35.4% และ 15.4% ตามลำดับ

บล.ฟินันซาแนะนำBANPUราคาเป้าหมาย 323.00 บาท
ปัจจัยที่จะทำให้ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นคือ 1) ปี 07 เป็นปีแรกที่จีนกลายเป็นNet Import ถ่านหิน 2) Supply ตึงตัวจากฤดูฝนที่ยาวกว่าปกติในอินโดนีเชีย 3) มีท่าเรือไม่เพียงพอในการส่งถ่านหิน 3) มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถแปลงถ่านหินเป็นliquids ซึ่งปัจจุบันจีนมีแผนที่จะเปิดโครงการนี้ประมาณ 27 แห่ง และมีโครงการอื่นๆอีกในอินโดนีเชียและอินเดีย คาดว่าจะต้องใช้ถ่านหินเป็นจำนวนมากในการทำโครงการดังกล่าว นอกจากนี้ราคาน้ำมันดีที่ยังมีราคาแพงและทรงตัวอยู่ในระดับสูงจะทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้ถ่านหินที่มีต้นทุนต่ำมากยิ่งขึ้นซึ่งจะผลักให้ราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นไปอีกในอนาคต

ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside Gain กว่า 15.5% ซึ่งราคาเป้าหมาย 323 บาท/หุ้น เทรดที่ระดับP/E ที่ 11.5x ในปี 08 แม้ว่าจะสูงกว่า P/E เฉลี่ยของกลุ่มพลังงานที่ระดับ 9 -10 เท่า แต่เนื่องด้วยอัตราการขยายตัวของกำไรเฉลี่ยสูงถึง 16.3% ในอีก 3ปีข้างหน้า อีกทั้งยังสามารถเล่นเก็งกำไรจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาถ่านหินในตลาดโลกและการนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นอินโดนีเชีย รวมถึงแผนการขยายธุรกิจที่อยู่ระหว่างการเจรจา ทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าและธุรกิจถ่านหิน เนื่องจาก BANPU มีความพร้อมด้านการเงินและพร้อมที่จะลงทุนได้ทุกเมื่อหากโครงการใดให้ผลตอบแทนที่ดี
[/color:3942a4a851">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com