April 29, 2024   10:48:54 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จัด 3 โมเดลลงทุน
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 30/08/2007 @ 20:23:08
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โดยวรวรรณ ธาราภูมิ : บลจ.บัวหลวง

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่คุณพงษ์เทพส่งพอร์ตมาถามค่ะ ขณะนี้ คุณอายุ 48 ปี ทำงานเอกชน เงินเดือนประมาณ 70,000 บาท โดยหักเงินสำรองเลี้ยงชีพ 10% ทุกเดือน และลงทุนในกองทุน RMF และ LTF ทุกปีๆ ละ 100,000 บาท มีเงินเก็บอยู่ 600,000 บาท จะลงทุนอย่างไรดี

เนื่องจากคุณพงษ์เทพให้อีเมลมาด้วย จึงขออนุญาตส่งโมเดลคำนวณเงินในอนาคตให้คุณพงษ์เทพ เพื่อจะได้รายละเอียดมากขึ้นค่ะ ในโมเดลนี้พอเป็นแนวทางได้ว่า เราควรจัดเงินอย่างไร โดยตั้งเป้าว่าเราจะเกษียณเมื่ออายุ 60 ปี

วิธีการใช้โมเดลที่ดิฉันใช้สำหรับตนเอง คือ จะคำนวณก่อนว่าเมื่อเกษียณแล้วเราต้องการมีเงินใช้เดือนละเท่าไร สมมติว่า 50,000 บาทแล้ว ดิฉันเดาเอาว่าตนเองอาจมีอายุขัย 80 ปี คือหลังเกษียณแล้วจะดูบ้านเมืองทะเลาะกันไม่เลิกไปอีก 20 ปี ดังนั้น เงินก้อนที่ต้องมีตามเป้าหมาย ณ วันที่ ดิฉันเกษียณ คือ 50,000 X 12 X 20 = 12 ล้านบาท

ถึงตรงนี้อาจถามว่า แล้ว เงินเฟ้อ ละ?

ต้องตอบว่าเนื่องจากเราประมาณการเงินเฟ้อลำบาก และจะวุ่นวายมากไป เราสมมติตามข้างต้นก็พอ โดยหวังว่า ณ วันเกษียณ เรามีเงิน 12 ล้านบาท แล้วเอาไปลงทุนในที่ความเสี่ยงต่ำที่สุด ที่ให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าเงินเฟ้อก็ใช้ได้แล้วค่ะ (ในความเป็นจริง เราคงสำรวจตนเองสักปีละครั้งว่า 50,000 บาท ที่เราต้องการมีใช้ต่อเดือนเมื่อเกษียณนั้น ผ่านไปหนึ่งปี เราคิดว่าพอไหม บางครั้งเราอาจปรับขึ้นไปตามราคาข้าวของที่แพงขึ้นในแต่ละปีได้)

เมื่อเรารู้เป้าหมายในอนาคต ณ วันเกษียณแล้ว เราก็ย้อนกลับมาดูวันนี้ ดูว่าเรามีเงินเท่าไรแล้ว อยู่ที่ไหนบ้าง เช่น มีอยู่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1,500,000 บาท เราก็สมมติต่อว่าเจ้า 1,500,000 นี้จะได้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยต่อปีเท่าใด โดยยังมีการถูกหักเงินเดือนไปใส่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเดือนละ 10% นายจ้างก็ต้องสะสม 10% ด้วย

ดังนั้น แต่ละเดือนคุณจะมีเงินใหม่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 14,000 บาท ผลตอบแทนขั้นต่ำควรไม่ต่ำกว่า 5.00% ต่อปี เราก็จะได้ว่า ณ วันเกษียณ เฉพาะจากสำรองเลี้ยงชีพ น่าจะเป็น 8,498,757 บาท (Model 1 ที่แนบมาค่ะ)

ทีนี้ก็ไปดู RMF ที่ลงทุนทุกปี ว่าปัจจุบันนี้มียอดเท่าไรแล้ว สมมติว่ามีอยู่ 400,000 บาท โดยปีนี้ยังไม่ได้ลงทุน ก็เดาว่าจะลงทุนปีนี้อีก 100,000 บาท และทุกปี ปีละแสน ถ้าเป็นตราสารหนี้ ผลตอบแทนอาจจะต่ำหน่อย เราก็คาดไว้ที่ 4.00% ต่อปี (พยายามคิดผลตอบแทนต่ำๆ ไว้ก่อนค่ะ) ลองคำนวณเล่นๆ ได้เป็น 3,374,868 บาท (Model 2 ที่แนบมาค่ะ)

แล้วก็ไปดู RMF ที่ลงทุนทุกปี ว่าปัจจุบันนี้มียอดเท่าไรแล้ว สมมติว่ามีอยู่ 300,000 บาท โดยปีนี้ยังไม่ได้ลงทุน ก็เดาว่าจะลงทุนปีนี้อีก 100,000 บาท และทุกปี ปีละแสน เมื่อ LTF เป็นหุ้น ขอให้คิดผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีที่ 10.00% บางปีมาก บางปีน้อย บางปีขาดทุน ไม่เป็นไร ให้คิดเฉลี่ยต่อปีที่ 10.00% ไว้ ลองคำนวณเล่นๆ ได้เป็น 6,227,893 บาท (Model 3 ที่แนบมาค่ะ)

รวม 3 พอร์ต ณ วันเกษียณ เราคาดเดาว่าคุณพงษ์เทพจะมีเงินประมาณ 18 ล้านบาท เป้าหมายคือ 12 ล้านบาท นับว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว

เมื่อเห็นตัวเลข เราก็อุ่นใจว่าเราพอเพียงในยามพักผ่อนของชีวิต แต่คุณพงษ์เทพก็ยังมีเงินเหลือในขณะนี้อีก 600,000 บาทที่จะลงทุนได้อีก นับว่าเป็นข่าวดีจริงๆ เพราะคุณสามารถเพิ่มความมั่งคั่งให้ตนเองได้ด้วยการรับความเสี่ยงจากหุ้นได้ หรือไม่เอาแล้ว พอแล้ว ก็ไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ หรือกองผสมก็ได้ โชคดีกว่าใครเลยนะคะ

ดิฉันอยากแนะนำให้กระจายการลงทุนไปยังหลักทรัพย์ต่างประเทศบ้าง เพื่อลดความเสี่ยง กองทุน FIF คือกองทุนที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ก็มีทั้งกองหุ้น กองผสม กองตราสารหนี้ ต่อไปอาจมีการอนุญาตให้ตั้งกอง FIF ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ก็ได้

ส่วนตัวแล้วดิฉันไปลงทุนใน FIF ที่เป็นหุ้นค่ะ คุณพงษ์เทพควรจัดพอร์ตตนเองให้อยู่ในตราสารหนี้ประมาณ 50-60% ที่เหลือเป็นหุ้น และในส่วนหุ้นนั้น อาจจัดให้ครึ่งหนึ่งเป็นกองทุน FIF ค่ะ

ได้แนบเรื่องราวของกองทุน FIF ของ บลจ.บัวหลวง มาให้ดูเป็นตัวอย่าง BCARE อาจจะน่าสนใจนะคะ เพราะลงทุนระยะยาวใน Health Care Sector ทั่วโลก

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com