April 29, 2024   4:53:50 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เปิดโผหุ้น MAI เดือนส.ค.
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 03/09/2007 @ 22:53:20
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เปิดโผหุ้น MAI เดือนส.ค.พบ UBIS ให้ผลตอบแทนสูงสุดราคาหุ้นพุ่งเกือบ 33% ตามติดด้วย LVT-W1 และ CIG-W1 ที่แรงไม่น้อยหน้าราคาวิ่งไม่หยุด เซียนหุ้นชี้ นลท.แห่เล่นหุ้นเล็ก หนีตลาดหุ้นสุดผันผวน เล่นหุ้นเล็กได้กำไรเร็ว ด้านกูรู ชี้หุ้น MAI เสน่ห์แรงในสายตา นลท.เฉพาะกลุ่มชื่นชอบ เพราะสภาพคล่องต่ำ Control ง่าย เตือนรายย่อย คิดจะลุยต้อง Cut Loss ได้ - เก่งเทคนิค - เกาะติด story แนะจับตารอบหน้าถึงที 2 พี่น้องตระกูล U อย่าง UBIS และ UKEM หลังรอบนี้ปล่อย S2Y โชว์ลีลานำหน้าไปก่อน

วินาทีนี้ต้องยกนิ้วให้หุ้นเล็กในตลาด เอ็ม เอ ไอ ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นยกทีมแรลลี่ ฝุ่นตลบ ทำเอาหุ้นบิ๊กแคปหลายตัวต้องหลบทางให้ทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง (UMS) , แม่ลูก บมจ. ซี.ไอ กรุ๊ป (CIG) และ CIG-W1 , บมจ.ยูบิส(เอเชีย) (UBIS) ,บมจ. ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง (UEC) ราคาหุ้นเริ่มออกวิ่งตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา และเริ่มวันแรกของเดือนนี้( 3 ก.ย.) ราคาหุ้นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งอาจได้รับอานิสงส์จากภาพรวมของตลาดหุ้นบ้านเราที่เริ่มสดใส แม้ช่วงเช้าจะปรับตัวลดลงไประดับหนึ่งก็ตาม

หลังจากที่ นายเบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาระบุว่า เฟดจะไม่ช่วยเหลือกลุ่มนักลงทุนที่ทำความผิด แต่โดยรวมแล้วความเห็นของเขาสนับสนุนมุมมองที่ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ ส่งผลให้เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมาตลาดหุ้นนิวยอร์คปรับตัวเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า แม้ว่าหลายคนจะแปลกใจว่า เพราะอะไรหุ้นในตลาด เอ็ม เอ ไอ ถึงปรับตัวขึ้นแรงแซงหุ้นใหญ่ แต่หากมาพิจารณาผลการดำเนินงานของบริษัทหลายแห่งในตลาดเอ็ม เอ ไอ แล้วจะพบว่าไม่น่าแปลกใจมากนัก เพราะหลายบริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่น อย่างเช่น UMS, TWZ, CIG,UEC และอีกหลายๆตัว

แต่ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งที่หุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ เป็นที่ชื่นชอบของนักเก็งกำไร ที่รวมตัวกันเป็นขบวนการ เพราะปริมาณหุ้นหมุนเวียนจะต่ำ การไล่เก็บหุ้นไว้ล่วงหน้าแล้วโยนกันเองระหว่างกลุ่ม ส่งผลให้การ Control ทำได้ง่าย และคนในกลุ่มก็ได้กำไรกันถ้วนหน้าเช่นกัน

อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนที่ชื่นชอบหุ้นเล็กในตลาดเอ็ม เอ ไอ ควรต้องระมัดระวังหากจะเข้าไปเก็งกำไร เพราะบางตัวสภาพคล่องต่ำและจะมาเป็นรอบๆ ต้องรู้จักพฤติกรรมหุ้นตัวนั้นพอสมควรจึงจะเล่นกำไรได้อย่างสบายใจ หากจะเข้าเก็งกำไร เพราะเห็นว่าราคาหุ้นยังขึ้นมาไม่มาก คงจะเป็นเหตุผลที่ไม่เพียงพอจะใช้ตัดสินใจ

*** UBIS เจ๊ง เดือน ส.ค.ราคาหุ้นพุ่งแรงเกือบ 33%

จากการสำรวจหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในตลาด เอ็ม เอ ไอ จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เ อ ไอ(mai) จำนวนทั้งสิ้น 44 บริษัท พบว่า หุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ 10 อันดับแรกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในเดือนสิงหาคม2550 (1ส.ค. - 31 ส.ค.50) พบว่า หลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดอันดับ 1 คือ บริษัท ยูบิส(เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UBIS ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 32.79 % มาอยู่ที่ 3.24 บาทต่อหุ้นซึ่งราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกล่าวกล่าวนั้นเนื่องจากบริษัทมีผลประกอบการอยู่ในทิศทางที่ดีหลังจากขยายตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้นและได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาททำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น

อันดับที่ 2 ใบสำคัญแสดงสิทธิชุดที่ 1 ของบริษัทแอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT-W1 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.50% มาอยู่ที่ 1.02 บาทต่อหุ้นเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทได้ประกาศงบไตรมาส 2/2550 ออกมารายได้รวมถึงกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากส่วน

อันดับที่ 3 ใบสำคัญแสดงสิทธิชุดที่ 1 ของบริษัทซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ CIG-W1 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 28.30 % มาอยู่ที่ 2.00บาทต่อหุ้นแม้จะเข้ามาซื้อขายได้ไม่นานนักแต่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่น้อยส่วนการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นครั้งนี้เป็นการปรับตัวตามหุ้นแม่ที่แคร์เรียร์ยุโรป ได้เลือกให้ CIG เป็นซัพพลายเออร์ผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศเป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขณะที่อันดับ 4 คือ บริษัท ธนมิตร แฟคตอริ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ DM ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.00 % มาอยู่ที่ 12.30 บาทต่อหุ้นการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นดังกล่าวเนื่องจากเป็นหนึ่งในบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดmaiที่ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2550ทั้งรายได้และกำไรสุทธิออกมาค่อนข้างดีเนื่องมาจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ของบริษัทเข้ามาใช้สินเชื่อมากขึ้น

อันดับที่ 5 บริษัทซี.ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.39 % ประเด็นหลักที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นคือผลประกอบการไตรมาส2/2550ที่เติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีประกอบการมีข่าวดีได้รับการว่าข้างจาก?แคร์เรียร์ยุโรป?เป็นซัพพลายเออร์ ผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ

อันดับที่ 6 ได้แก่ บริษัท แพค เดลต้า จำกัด (มหาชน)(PD) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.24% อันดับที่ 7 ได้แก่ บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จำกัด (มหาชน)(TPAC) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.89%

อันดับที่ 8 ได้แก่ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)( SLC) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.67% อันดับที่ 9 ได้แก่ บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จำกัด (มหาชน) (UKEM) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.15% และอันดับที่ 10 ได้แก่ บริษัท เชอร์วู้ด เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (SWC) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.74%

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 03/09/2007 @ 22:54:28 :
***กูรู ชี้นักลงทุนเแพากลุ่มชอบลุยหุ้น MAI เหตุ Contontrol ง่าย

นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า ปกติแล้วนักลงทุนเฉพาะจะนิยมเข้ามาเล่นหุ้นในตลาดเอ็น เอ ไอ เพราะสภาพคล่องต้องสามารถสร้าง Bid - Offer และโยนกันในกลุ่มได้ง่าย ทำให้ราคาหุ้นในตลาดเอ็มเอไอ ในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างหวือหวา โดยนักลงทุนในกลุ่มนี้มักจะเลือกเล่นหุ้นที่มี Story สนับสนุน
"ต้องยอมรับว่าหุ้นในตลาด เอ็มเอไอ มักจะนิยมในวงนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม เพราะสภาพคล่องของหุ้นต่ำสามารถ Control ได้ง่าย "นักวิเคราะห์กล่าว

***นักวิเคราะห์ แนะจับตา UBIS-UKEM รอบหน้าถึงคิววิ่ง

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บล.แอ๊ดคินซัน เปิดเผยว่า สาเหตุที่นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมเล่นเก็งกำไรหุ้นในตลาดเอ็มเอไอ เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจภาวะตลาดจึงเข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นนาดเล็ก เพราะหุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ สภาพคล่องต่ำ โอกาสในการทำกำไรจึงง่ายกว่า ทั้งที่พื้นฐานหุ้นบางตัวไม่ได้โดดเด่นมาก แต่ส่วนใหญ่จะมี Story เข้ามาประกอบเสียมากกว่า

ยกตัวอย่างหุ้นที่เมื่อวานนี้ราคาปรับตัวขึ้นแรงเช่น UMS ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาถ่านหินเริ่มขยับขึ้น ส่งผลให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามา หรือ CIG หลังได้ข่าวดี ?แคร์เรียร์ยุโรป?เป็นซัพพลายเออร์ ผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ

"หุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ ถ้าไม่มี Story ก็ไม่มีคนเล่น นักลงทุนที่เข้าไปซื้อตามควรติดตามข้อมูลและต้องเล่นสั้นเท่านั้น ถือยาวไม่ได้ เพราะบางตัววอลุ่มบาง ราคาผันผวนเร็ว อย่างเช่น S2Y พื้นฐานไม่ได้มีอะไรคืบหน้า"นายรณกฤตกล่าว

อย่างไรก็ดี นักลงทุนที่ต้องการเล่นหุ้นในตลาดเอ็มเอไอ ต้อง Cut loss เป็น ดูเทคนิคได้ และมีกระแสข่าวสนับสนุนการเล่นสั้น นอกจากนี้ หุ้น เอ็ม เอ ไอ จะนิยมเล่นกันเป็นรอบๆ ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตามหุ้นที่มีรอบของการเล่น และในรอบนี้หุ้นในตลาดเอ็ม เอ ไอ ที่น่าจับตา และสัญญาณเทคนิคยังสามารถเข้าเก็งกำไรได้ คือ S2Y โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 1.85 บาท และแนวต้าน 2.20 บาท

ส่วนหุ้นที่มีรอบการเล่นอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าได้แก่ UBIS โดยช่วงนี้ต้องรอให้ราคาหุ้นปรับฐาน หลังจากช่วงก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรง โดยแนวรับอยู่ที่ระดับ 3.10 บาท แนวต้านอยู่ที่ 3.40 บาท และ UKEM ให้รอรับที่ 1.80 บาท แนวต้านอยู่ที่ 2 บาท

***จับตาสิ้นปีวอลุ่ม MAI แตะ 3 หมื่นลบ.ตามลมปากผู้จัดการตลาดหรือไม่

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกตลาดmaiได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองไม่มากนักโดยดัชนีตลาดmai ปรับเพิ่มขึ้นถึง 20-30%ส่วนมูลค่าตลาด(มาร์เก็ตแคป)เพิ่มขึ้น 2 เท่า ใกล้แตะ30,000 ล้านบาทซึ่งมั่นใจว่าสิ้นปีนี้มาร์เก็ตแคปของตลาดmaiจะมีตัวเลขตามเป้าหมายที่ 30,000 ล้านบาทได้เนื่องจากบริษัทที่จดทะเบียน(บจ.)ในตลาดmaiมีกำไรที่ดีขึ้นและมีบจ.ที่เพิ่มทุนคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าแต่บจ.หลายแห่งปรับตัวได้ดีซึ่งช่วงครึ่งปีหลังหากมีการเลือกตั้งเชื่อว่าน่าจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนให้ปรับตัวดีขึ้นและผลประกอบการของบจ.ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้นตามด้วยเช่นกัน

นายชนิตรกล่าวต่อว่าปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาด mai ประมาณ 10-12 บริษัท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งเป้าไว้ 24บริษัท ซึ่ง 10-12บริษัทนั้นคาดว่าจะมีทุนจดทะเบียนประมาณ 100-200ล้านบาทต่อบริษัทและมีมูลค่าตลาด(มาร์เก็ตแคป)เฉลี่ยบริษัทละประมาณ 500ล้านบาท โดยบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมและให้บริการด้านวิศวกรรม?เป้าหมายเดิมทั้งปีจะมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาด mai 24บริษัทแต่จากการประเมินสถานการณ์โดยรวมที่ยังชะลอตัวแล้วเชื่อว่าคงทำได้เพียงแค่10-12 บริษัท โดยครึ่งปีแรกมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนแล้ว2 บริษัทและยื่นไฟลิ่งแล้ว 5บริษัทและคาดว่าช่วงที่เหลือจะยื่นอีก 5 บริษัท

ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีแรกมีเพียง 2บริษัทที่เข้ามาซื้อขายในตลาดmai คือ บริษัท มัลติแบกซ์จำกัด(มหาชน)หรือ MBAXและบริษัทยูบิส(เอเชีย)จำกัด(มหาชน) หรือ UBIS ส่วนอีก 5บริษัทที่ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แล้วประกอบด้วย บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด(มหาชน)ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ให้บริการจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และพัฒนาโปรแกรมการใช้งานคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่แบบครบวงจรโดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ)จำนวน18.75 ล้านหุ้น

นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด(มหาชน)ประกอบการธุรกิจการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัยด้วยกระบวนการวิธีทดสอบโดยไม่ทำลายโดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน20 ล้านหุ้น, บริษัทไทยง้วน เอทานอล จำกัด(มหาชน)บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงซึ่งบริษัทจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 98 ล้านหุ้นราคาพาร์1 บาท

และบริษัท บอดี้ โกลฟ(ประเทศไทย)จำกัด(มหาชน)ประกอบธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้เครื่องหมายการค้า Body Glove เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO)จำนวนไม่เกิน 20 ล้านหุ้น และบริษัทมิลล์คอนสตรีลอินดัสทรีส์ จำกัด(มหาชน)ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเหล็กเส้นและเหล็กแปรรูปอย่างไรก็ตามมีหลายบริษัทที่ชะลอการยื่นแบบไฟลิ่ง

เพราะช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ทางการเมืองไม่แน่นอน,เศรษฐกิจที่ชะลอตัว,การบริโภคในประเทศลดลงร่วมถึงปัญหาเงินบาทแข็งค่ามากและบริษัทยังรอผลของการเลือกตั้ง จึงส่งผลให้บางบริษัทมีผลประกอบการลดลงส่วนภาคอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกก็ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งซึ่งบริษัทเหล่านี้ต้องการรอให้ผลประกอบการออกมาดีก่อนซึ่งในปีหน้ามีแผนจะนำบริษัทที่อยู่ในต่างจังหวัดเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้นนอกเหนือจากบริษัทที่ตั้งอยู่ใน เขตกรุงเทพและปริมณฑล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้( 3 ก.ย.) ดัชนีตลาด MAI ผิดที่ระดับ 257.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.93 จุด หรือ+2.636% มูลค่าการซื้อขาย 528.42 ล้านบาท


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com