*"โมนิก้า" ไม่ขอออกความเห็นว่าดัชนีจะขึ้นไปถึงระดับไหน หรือแนวรับบริเวณ 800จุดจะต้านทานแรงเทขายที่คาดว่าจะมีออกมาในอนาคตได้นานแค่ไหน เพราะสิ่งที่เดี๊ยนอยากจะพร่ำบอกเวลานี้ คือ ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มผงกขึ้นกันหมดแล้ว และปัญหาเรื่องซับไพร์มซังกะบ๊วยก็เป็นเพียงนิทานหลอกเด็ก

*คุณๆ คิดว่ามีเหตุผลอันใดที่ต้องทิ้งหุ้นเพียงเพราะได้ยินคำวิเคราะห์วิจารณ์โง่ๆ ด้วยเล่า เพราะสิ่งที่ปรากฎให้เห็นในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา กลับกลายเป็นนักลงทุนสถาบันที่สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ดีเก่งสุด จนผลตอบแทนกองทุนหลายกองโดดเด่นขึ้นจนผิดหูผิดตาเลยทีเดียว

*ฉะนั้นกูรูประเภทนกแก้วนกขุนทองอย่ามาคอมมเม้นท์อะไรที่ไม่เข้าท่าให้ได้ยินอีกเพราะเดี๊ยนได้ยินทีไรมักมีอาการคลื่นไส้(ไม่ได้แพ้ท้องนะจ๊ะ) จนอยากจะอ้วกแตก...กกกเป็นประจำ เพราะข่าวสารดังกล่าวเป็นช่องทางทุบหุ้น เพื่อเก็บหุ้นราคาถูกของบรรดานักลงทุนต่างชาติไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนนาๆ ชาตินะซี

*ส่วนประเด็นทางการเมืองที่หวั่นวิตกกันจะไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.ศกนี้ "โมนิก้า" จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายแบบหยาบๆ ว่า อย่าเพิ่งทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมเพราะก่อนหน้าบิ๊กบังก็เคยออกมาพูดอะไรทำนองนี้ แต่สุดท้ายก็ออกมายืนยันด้วยตนเองว่าไม่มีอะไรในก่อไผ่...มันน่ากลัวไหมหล่ะ

*ในระหว่างนี้ถึงอยากให้นักลงทุนนึกถึงบทเรียนเก่าๆ ในอดีตว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าปีก่อนขนาดไหน... หากเชื่อว่าในอนาคตตลาดหุ้นยังให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน ก็ไม่ควรคิดมาก เพราะคิดมากทีไรเสียจริตกันทุกทีนะซี

*ดูตัวอย่างการตัดแบ่งขายบริษัทของ EVER ภายใต้การบริหารงานของ สัณจุฑายังทำได้อย่างหน้าตาเฉย เพราะคนที่เข้ามาซื้อโครงการมูลค่า 8 พันล้านบาทอย่างนายสุชาติ โปรา ซึ่งเป็นเจ้าของ บริษัท นิวฮาร์เบอร์วิลล์ จำกัด มีทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาทแถมผลประกอบการปี 2549 ขาดทุน 5 พันบาท แบบนี้ไงเล่า...จิ้งจกแถวตึกที่ผู้บริหารตระกูลโลจายะนั่งทำงานถึงร้องทักว่า...ไซ่ฟ่อน...ไซซ่อน...ไซฟ่อน...กันเจี้ยวจ๊าว

*แย่ไปกว่านั้นก็คือ ตัวบริษัทไม่ได้มีรายได้ในการดำเนินงานแบบนี้ ใครๆถึงพูดว่าเป็นบริษัทกระดาษไงหล่ะ...งานนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเข้าไปตรวจสอบการทำธุรกรรมของหมอนี่สักหน่อย เพราะพฤติกรรมการทำธุรกิจไม่ชอบมาพากลอย่างแรง

*เนื่องจากเดี๊ยนต้องการทราบว่า แบงก์ไหนจะเป็นคนปล่อยกู้ให้หมอนี่เข้าไปซื้อที่ดินดังกล่าว จะได้ไม่ไปใช้แบงก์นั้นอีก เพราะแสดงถึงธรรมมาภิบาลสุดแสนจะหย่อนยาน ขืนนำเงินไปฝากก็มีแต่บรรลัยลูกเดียว...กรณีของอีเว่อร์ถึงเป็นข้อยกเว้น เพราะถ้าไม่คิดอะไรมาก มีหวังหมดเนื้อหมดตัวกันพอดีเจ้าค่ะ

*ผิดกับในรายของ MPT อันนี้โดนเทคโอเว่อร์อย่างมีแบบแผน เพราะผู้ถือหุ้นใหม่ชาวญี่ปุ่นมีแผนงานชัดเจน และขึ้นชื่อเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยีอยู่แล้ว จึงพอคาดความหวังว่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ไม่มากก็น้อย ส่วนราคาหุ้นจะรับข่าวดังกล่าวมากน้อยเพียงใด อันนี้คงขึ้นอยู่กับความนิยมจะมีมากหรือน้อยแล้วหล่ะ

*เหมือนเช่นในรายของ MDX ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็บอกว่าเป็นหุ้นเก็งกำไรประเภทดาวรุ่งผีพุ่งใต้ตัวใหม่ของวงการ "โมนิก้า" ถึงเข้าไปแกะงบการเงิน และศึกษารายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหุ้น...จนในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า การทะยานขึ้นรอบนี้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานล้วนๆ แถมราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 5 บาท บวกไป 0.38 บาท ไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบผลกำไรที่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นะจ๊ะ

*ทางด้าน LANNA ก็กลายเป็นหุ้นม้ามืดของวงการพลังงานไปอย่างเต็มตัว เพราะการกระชากขึ้นมาปิดที่ 17.80 บาท บวกไป 0.90 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น อีกทั้งราคาหุ้นก็ฝ่าทะลุแนวต้านสำคัญขึ้นมาหมดทุกแนว หาก "โมนิก้า" ไม่แนะนำให้เข้าซื้อตั้งแต่หัววันก็อาจสายเกินแกง จึงขอแนะนำหุ้นตัวนี้ให้นักลงทุนไว้พิจารณาด้วยค่ะ

*ขนาด MCOT "โมนิก้า" แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหลายครั้งหลายคราก่อนหน้านี้เพราะเห็นศักยภาพในการสร้างรายได้และทำกำไรยังดีเหมือนเดิม แต่ที่ผ่านมาโดนปัจจัยลบนอกตลาดรุมเร้าไม่ขาดสาย ราคาหุ้นถึงได้ร่วงหล่นเป็นนกปีกหัก การทะยานขึ้นมาปิดที่ 32 บาท บวกไป 1.75 ถึงมีความหมายมากกว่าครั้งไหนๆ...เนื่องจากเป็นการเตรียมตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดใหม่ๆ นะจ๊ะ *ตบท้ายกันที่เรื่อง EFT "โมนิก้า" ได้ยินพวกนกกระจอกแถวตลาดหลักทรัพย์ฯ พูดกันให้แซ่ดว่า โดนช๊อตเซล์ทุบไม่เหลือซากแน่ ก็เลยแปลกใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อคุณต้องทุบหุ้นในกระดานให้ได้เสียก่อน ราคาหน่วยลงทุนถึงจะอ่อนตัวลงตาม หากทุบราคาหุ้นในกระดานไม่ลง ราคาหน่วยลงทุนจะอ่อนตัวได้อย่างไรหล่ะจ๊ะ

*งานนี้นักลงทุนลองเก็บไปคิดเป็นการบ้านเล่นๆ ดูว่า หากนักลงทุนสถาบันต้องการทำช๊อตเซลล์จริงๆ สู้ทำที่ตัวหุ้นตัวในกระดานไม่ง่ายกว่าเหรอ "โมนิก้า" ถึงเชื่อว่าเป็นเพียงการคิดเล่นๆ ไม่มีนัยสำคัญอะไรทั้งสิ้น

*แย่สุดๆ ก็เป็นเรื่องที่เจ๊หนุ่ย ตาคมเพิ่งออกมาการันตรีเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะได้รับการยกเว้น 30% แต่วานนี้คุณพี่ธีระชัย กลับตอกกลับแบบหน้าตายว่า ไม่มีทางได้รับการยกเว้น...มันหมายความว่าจังใด


:lol: