April 29, 2024   4:16:24 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เฟ้นหุ้นเด่นพื้นฐานแกร่ง
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 04/09/2007 @ 10:01:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกเกอร์คัดหุ้นเด่นmai ชู?TRT?มีหวังชิงส่วนแบ่งตลาดหม้อแปลง 300MVAเพิ่ม คาดครึ่งปีหลังรายได้โต 1.75 พันล้านบาท กำไรอยู่ที่ 75 ล้านบาท แนะ?เก็งกำไร?ราคาเป้าหมาย 5.14 บาท ขณะที่TIES แนะนำ?ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว? ราคาเป้าหมายปี50 อยู่ที่ 3.24 บาท เนื่องจากบริษัทมีความน่าสนใจจาก การเติบโตจากการก่อสร้างของการขยายตัวของโรงงาน และโรงพยาบาล
บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย จำกัด ประเมินหุ้น บริษัท ถิรไท จำกัด(มหาชน) หรือ TRT ว่า จากแผนการขยายสายการผลิตสู่หม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 300 MVA คาดว่าจะทำให้ TRT มีสัดส่วนในตลาดหม้อแปลงกำลังเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 30% เนื่องจากคู่แข่งอีก 2 รายในตลาดเดียวกัน คือ DAIHEN และ ABB มีเพียงABB ที่มีแนวโน้มจะขยายสายการผลิตสู่หม้อแปลงขนาดใหญ่ดังกล่าว ซึ่งทางฝ่ายเห็นว่าตลาดดังกล่าวมีศักยภาพในการเติบโตที่น่าสนใจ เนื่องจากตามแผน PDP หลังปี 2549 เป็นต้นไปคาดว่าการเปิดโรงไฟฟ้า IPPใหม่จะทยอยเข้ามาจนถึงปี 2560
ทั้งนี้คาดว่า TRT จะต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการสร้าง ความน่าเชื่อถือในการเจาะตลาดใหม่ส่วนนี้ ทั้งนี้แม้กำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 11 ล้านบาท จะคิดเป็นเพียง 17% ของประมาณการกำไรสุทธิในปี
2550 ซึ่งเกิดจากผลประกอบการที่ขาดทุนถึง 38 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 1/2550 จากงานที่มีอยู่ในมือ(Backlog) ที่ยังมีอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่า TRT จะทำรายได้เท่ากับ 1,756
ล้านบาทและกำไรได้ตามเป้าหมายที่ 75 ล้านบาท ดังนั้นจึงประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2550 ไว้ที่ 5.14 บาท
ซึ่งยังมี Upside จากราคาปัจจุบันประมาณ 22% ในเชิงผลประกอบการคาดว่าไตรมาสที่แย่ที่สุดน่าจะผ่านพ้นไปแล้วและแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ตาม TRT ยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของผลประกอบการในปีหน้า เนื่องจาก Backlog ในมือสำหรับปี 2551 ยังมีค่อนข้างน้อยเพียงประมาณ 270 ล้านบาท ดังนั้นจึงแนะนำ?ซื้อเก็งกำไร?
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด แนะนำ ? ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว?TIES เป้าเหมาะสมปี 50 อยู่ที่ 3.24 บาท คาดว่าให้ผลตอบแทน Div Yieldปี 50 ที่ 6.4% (DPS 0.20 บาท) เนื่องจากบริษัทมีความน่าสนใจจาก 1) การเติบโตจากการก่อสร้างของการขยายตัวของโรงงาน และโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทมีความถนัดในการวางระบบ และการก่อสร้าง 2) ถึงแม้ว่าบริษัทมีโอกาสเพิ่มทุนและหาเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเพื่อสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของบริษัทเพื่อรองรับงานในมือที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3)มีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าเก่าทำให้มีโอกาสรับงานต่อเนื่องเช่นกลุ่มโรงเบียร์ และกลุ่ม ไทยกลาส
โดยงานในมือหลักยังเป็นงานก่อสร้างอาคารโรงงาน และติดตั้งระบบต่างๆภายในโรงงาน จำนวน 340.52 ล้านบาท คิดเป็น 31% ของงานในมือ นอกจากนั้นจะเป็นงานโรงพยาบาล และงานก่อสร้างคอนโดมีเนียมทั้ง Low Rise ทำให้บริษัทมีโอกาสรับงานอย่างต่อเนื่อง โดยมี Backlog ในมือรอรับรู้รายได้ประมาณ 1,108.32 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 963.05 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้บิรหารมอง งานในมือปัจจุบันพอรับรู้รายได้ถึงสิ้นปี โดยมีงานอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะรับต่อเนื่องในปี 51 มูลค่าโครงการประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท คาดหวังงานสร้างกำไรเพิ่มมากกว่าปริมาณ พร้อมทั้งเลื่อนการพิจารณาการเพิ่มทุนออกไปหลังการเลือกตั้งป้องกันความเสี่ยงจากนโยบายใหม่ของภาครัฐ
ส่วนผลประกอบการครึ่งแรกปี 50 มีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% YoY มาจากรายได้จากการก่อสร้าง 808 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 54% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปรับลดเป็น 11.9% ลดลงเมื่อเทียบกับ1H49 ที่ 15.2% โดยมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเมื่อเทียบกับยอดขายที่ 7% ลดลงเมื่อเทียบกับ1H49 ที่9%
บริษัทมีโอกาสเพิ่มศักยภาพของเพื่อรองรับงานโดยการเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน มีความเป็นไปได้จากการกู้เพิ่มหรือการเพิ่มทุนโดยอยู่ระหว่างการศึกษา และดูแนวโน้มของอุตสาหกรรมพร้อมการเมือง คาดว่าจะชัดเจนในช่วง 4Q50 แนะนำ ?ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ? โดยมีราคาที่เหมาะสม 3.24 บาท ประมาณการในปี 50 คาดว่าจะมีรายได้จากการก่อสร้าง 1,750 ล้านบาท กำไรสุทธิ 55 ล้านบาท EPS 0.41 บาทต่อหุ้น และคาดจ่ายปันผล 0.20 บาท ( Div.Yield ปี 50 อยู่ที่ 6.4% ) อ้างอิง APER 8 เท่าโดยราคาที่เหมาะสมปี 50 อยู่ที่ 3.24 บาท

ทันหุ้น[/size:0a006bed6d">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com