April 29, 2024   7:49:21 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สามวันดี....สี่วันไข้
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 04/09/2007 @ 13:46:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นไทยระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 800 ? 840 โดยระยะสั้นตลาดยังมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะ ?ประคองตัว? แต่หากคัดเลือกหุ้นกันแบบกล้าได้กล้าเสียแล้ว ยังพอมีตัวเลือกให้เก็งกำไรแบบหวาดเสียวกันตามปกติ แต่ให้ผลตอบแทนการเก็งกำไรแบบ ?ไม่เต็มใจให้? ส่วนหุ้นประเภทลงทุนนั้นอาจจะยังคงเป็นการรอคอยที่ไม่สามารถกำหนดเงื่อนเวลาได้ว่าเมื่อไหร่หุ้นจะให้ผลตอบแทนตามที่นักลงทุนคาดหวัง แต่เชื่อมั่นว่าเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีก็คงต้องยกให้เวลาเป็นตัวตัดสินว่า จะจริงตามที่คาดการณ์หรือไม่ ภายใต้ความผันผวนของสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกเช่นปัจจุบัน

การอ่อนตัวของตลาดหุ้นไทยวานนี้อยู่ในคาดการณ์ว่าแนวรับระหว่างวันทำการดัชนีไม่ควรจะต่ำกว่าระดับ 805 ? 800 จุดเพราะแนวดังกล่าวเป็นแนว ?เรียกแขก? ให้เข้ามารับหุ้น หากรับไม่อยู่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ราคาหุ้นจะต้องปรับลงมาด้วยเหตุผลด้านจิตวิทยา การสร้างภาพว่าแนวดังกล่าวรับอยู่คาดว่าจะสร้างแรงซื้อให้อีกระดับหนึ่งทำให้หากเจ้าภาพต้องการขายหุ้นก็สามารถ ?เทกองได้? แบบเต็ม ๆ ซึ่งจะตรงกันข้ามกับตลาดที่ลงขาเดียว โอกาสที่จะขายหุ้นในลักษณะที่เสียราคามาก ๆ นั้นจะมีสูงกว่า เพราะพื้นฐานความคิดของนักลงทุนจะมองหาแนวรับที่ปลอดภัย หรือมั่นใจมากกว่า ดังนั้นบริเวณดัชนี 800 จุดจึงยังเป็น ?จุดพลิกผัน? ของตลาดหุ้น ระหว่างขึ้นเหนือกับล่องใต้ชนิดกระพริบตาไม่ได้เช่นกัน

มุมมองทางขึ้นนั้นมีเป้าหมายกันบริเวณดัชนี 825 ? 840 +/-10 จุด ขณะที่ทางลงนั้นมีแนวรับบริเวณ 800 จุด กับ 785 จุดเป็นจุดวัดใจสำหรับการเล่นระยะสั้น ๆ ซึ่งทางขึ้นนั้น คาดว่านักลงทุนเล่นประเภท ?ตามน้ำ? ไล่จับปลาฉลามกันโดยเล่นกับสภาพคล่องและเจ้าภาพของหุ้นประเภทเก็งกำไร โดยอ้างอิงข่าว ปัจจัยทางเทคนิค และจิตวิทยาการลงทุนของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐเป็นปัจจัยชี้นำหลัก รองลงมาอาจจะอ้างอิงตลาดหุ้นฮ่องกงและญี่ปุ่นเป็นเหมือนตัวชี้นำอีกตัวหนึ่งสำหรับการลงทุนในช่วงนี้

หลายคนอาจจะมองว่า ปัญหาภาคการเงินของสหรัฐที่กำลังอ่อนแอ ซึ่งเป็นผลพวงจากปัญหา Subprime นั้น อาจจะนำมาสู่การดำเนินนโยบายด้านการเงิน โดยเฉพาะดอกเบี้ยของสหรัฐน่าจะมีแนวโน้มของการอ่อนตัว และธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ คงเฝ้าจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อคอยหาทางช่วยเหลือ ซึ่งดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำอาจจะทำให้ตลาดหุ้นน่าสนใจเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าธนาคารกลางของแต่ละประเทศก็หันไปจับตาเกี่ยวกับเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดเช่นกัน เพราะ ค่าเงินที่แข็งขึ้นของแต่ละประเทศนั้น อาจจะสร้างปัญหาเรื่องดุลการค้าได้ เพราะสินค้าส่งออกราคาแพงแต่สินค้านำเข้าราคาถูก เพราะค่าเงินแข็ง ขณะที่การใช้กำแพงภาษีทางการค้าในเวทีการค้าโลกเริ่มไม่เป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะไม่เป็นธรรม ดังนั้นการใช้กลยุทธ์ด้านดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยนจึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญเช่นกัน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นยังใช้กลยุทธ์ ?เต้นรำเร็ว ดนตรีจบถือเงินสด? วัดผลกันชนิดรายวันหรือรายสัปดาห์สำหรับหุ้นเกรดเก็งกำไร ส่วนหุ้นประเภทลงทุนนั้นคาดว่ายังคงใช้กลยุทธ์ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว หากหุ้นตัวนั้นโครงสร้างด้านการเงินหรือปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลงในทางลบจนถึงขั้นต้องปรับระดับความน่าเชื่อถือในการลงทุน ส่วนปัจจัยที่กระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นได้กล่าวแล้วว่า ขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นต่างประเทศ และมุมมองด้านเทคนิคเป็นตัวแปรสำคัญ ส่วนตัวแปรอื่น ๆที่น่าจับตาคือ การซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ และมาตราการของทางการที่มีหน้าที่กำกับดูแลด้านตลาดทุน ส่วนตัวแปรด้านการเมืองนั้น ยังคงสภาพ ?น้ำนิ่งไหลลึก? เพราะตอนนี้ คนส่วนใหญ่กำลังเฝ้าจับตาเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งในช่วงปลายปี การโยกย้ายทหารซึ่งเกี่ยวพันกับขั้วอำนาจที่ยังไม่มีคำตอบสุดท้ายจนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณเดือนตุลาคม

สิ่งที่ท้ายทายคือ ผู้นำทางทหารที่กำลังจะสิ้นอำนาจเนื่องจากเกษียณอายุจะวางเดิมพันต่อไปอย่างไร เพราะหากวางผิด อำนาจเงินเข้ามาแทน อำนาจเก่ากลับคืนมา รายการ ?เช็คบิลย้อนหลัง? คงจะเป็นเรื่องที่ไม่อยู่เหนือการคาดเดา แต่หากวางไม่ได้รับการยอมรับก็จะเกิดปัญหาในการทำงาน และสร้างรอยร้าวได้ ดังนั้นโจทก์เกี่ยวกับอำนาจทางการทหาร และอำนาจทางการเมืองที่เกาะเกี่ยวกันอย่างใกล้ชิดเป็นสมการที่รอการแก้ไขอย่างเร่งด่วนพอ ๆ กับปัญหาของประเทศที่นักลงทุนส่วนหนึ่งมีการชะลอการตัดสินใจเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามคือ การเปิดการรับสมัครเลือกตั้งทั่วไปที่จะประกาศขึ้นอย่างเป็นทางการ จะเป็นเครื่องชี้ว่าจะเล่นหุ้นต่ออย่างไร กลุ่มไหน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวโยงกับกิจกรรมทางด้านการเมืองอาจจะถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเคลื่อนย้ายเงินทุนได้เช่นกัน

หุ้นการเมืองที่น่าจับตา แต่ต้องบอกว่าหุ้นเหล่านี้นั้น หากดูด้านการเงิน หรือธรรมาภิบาลนั้น คงต้อง ?ส่ายหน้า? แต่หากลุ้นกันว่า เก็งกำไรหุ้นประเภทนี้ ?ได้เสีย? กันชนิด ?หัวใจวายก็ยอม? เพราะไหนต้องเสี่ยงกับการตรวจสอบ ไหนต้องเสี่ยงกับภาวะตลาด และเสี่ยงกับผลการดำเนินงานซึ่งอาจจะไม่เป็นที่พึงประสงค์ของนักลงทุนประเภทระยะยะยาว เพราะยอมรับความผันผวนไม่ได้ หุ้นเกรดเก็งกำไรประเภท ?ไม่ครบบาท? และเกินบาทที่น่าติดตามเช่น EVER MDX BCP ASL JAS GEN NNCL เป็นหุ้นที่น่าติดตาม ส่วนหุ้นประเภท ?ลุงทน? (ลงทุน) เช่น AMATA LH IRPC MCOT เป็นต้น (แสดงความคิดเห็นผ่าน Email : cnantawat@yahoo.com)

ทันหุ้น

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com