April 29, 2024   11:35:17 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สินค้าตัวใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 05/09/2007 @ 09:11:09
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

แม้ในวันพรุ่งนี้( 6 ก.ย.)ตลาดหลักทรัพย์ฯ และบลจ.วรรณ จำกัด จะทำการเปิดตัวThaiDEX SET50 ETF ซึ่งเป็นอีทีเอฟ กองแรกของไทย แต่ดูเหมือนนักลงทุนรายย่อยจะไม่ค่อยสนใจทางเลือกของการลงทุนในส่วนนี้มากนัก ซึ่งเห็นได้จากยอดจองซื้อกอทุนดังกล่าวมีเข้ามาแค่ 1 พันล้านบาท ทั้งที่ตั้องเป้าไว้สูงถึงระดับ 3 พันล้านบาท

โดยปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยหมางเมินกาลงทุนรูปแบบใหม่ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าแต่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง น่าเป็นผลมาจากนักลงทุนรายย่อยลงทุนในกองทุน SET50ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับกับ กองทุนETF ผ่านทาง บลจ. กันเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนในกองทุนดังกล่าว
ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนก็มองว่า ตนเองลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 อยู่แล้ว จึงมองไม่เห็นประโยชน์ในการเข้าไปลงทุน เพราะเมื่อเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกับการลงทุนในกองทุนETF วันต่อวัน การลงทุนในหุ้นย่อมให้ผลตอบแทนดีกว่าเห็น

ในทางกลับกันหากนักลงทุนลองรับฟังเหตุผลของ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด ที่มองว่า กองทุนอีทีเอฟจะมีขนาดเพิ่มขึ้นได้ เพราะกองทุนดังกล่าวควรจะมีขนาดกองทุนที่ไม่น้อยกว่ากองทุนหุ้นที่มีการซื้อขายอยู่ที่ระดับ 10,000-12,000 ล้านบาท ก็น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนมากก็น้อย
ที่สำคัญ คือ กองทุนอีทีเอฟมีความเสี่ยงต่ำสุด เนื่องจากมีการอ้างอิงการลงทุนจากหุ้น50 ตัวแรกที่มีขนาดใหญ่สุด ขณะเดียวก็มีสภาพคล่องในการซื้อขายค่อนข้างสูง เพราะมีมาร์เก็ตเมกเกอร์คอยดูแลสภาพคล่องการซื้อขายในแต่ละวัน อีกทั้งยังมีการคิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายแค่ 0.10% เท่านั้น

โดยเฉพาะภาวะตลาดหุ้นไทยที่มีความผันผวนถือเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนในการเข้าลงทุนในกองทุนETF ซึ่งอ้างอิงกับดัชนีSET 50 ในระดับราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และมีความสมเหตุสมผลพียงพอ ต่างจากช่วงที่ตลาดมีเสถียรภาพ ซึ่งนักลงทุนจะไม่สามารถเข้าซื้อในระดับพีอี หรือราคาเดียวกับในปัจจุบัน
เห็นได้จากจากสถิติการลงทุนในSET50ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2545-2549)พบว่าจะได้รับผลตอบแทนการลงทุน 188.60 ซึ่งสูงที่สุด รองมาการลงทุนในตลาหุ้น(SET) จะได้รับผลตอบแทน 169.85% ส่วนการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ (Bond Index)ละผลตอบแทนจากเงินฝาก(Fixed1ปี )ผลตอบแทนอยู่ที่ 11.20%
เครื่องมือพัฒนาตลาดทุน

ความน่าสนใจของกองทุน ETF ไม่ได้เป็นแค่ทางเลือกของการลงทุนสำหรับนักลงทุนเพราะการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย)จำกัด รวมทั้งทีม บลจ.วรรณ เพื่อการออกอิควิตี้ อีทีเอฟ กองแรกในไทย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีตราสารประเภทใหม่ พร้อมทั้งยังสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่บริษัทจัดการกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์ และธนาคารพาณิชย์ด้วย
เนื่องจากกองทุนอีทีเอฟเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอร์สำคัญี่จะทำให้ตลาดทุนไทยกำลังก้าวไปสู่การเป็นศูนย์รวมการลงทุนที่ครบวงจร พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และระบบและบริการที่ทันสมัย มีศักยภาพในการแข่งขันกับนานาประเทศทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก
โดยการออกอิควิตี้อีทีเอฟ ในครั้งนี้ นับเป็นปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งสำคัญของหน่วยงานในตลาดทุนไทยที่มุ่งไปสู่การเป็นตลาดรองที่ครบวงจร ครบถ้วน หลากหลาย และมีคุณภาพ ตามแผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 2 และแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะทำให้ก้าวไปสู่การเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญของภูมิภาคในอนาคต

นอกจากนี้ยังเชื่อว่าอีทีเอฟจะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั้งสถาบันและผู้ลงทุนบุคคลอย่างแน่นอนเนื่องจากซื้อขายได้สะดวก ติดตามราคาได้แบบ real time มีผู้ดูแลสภาพคล่อง เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นแต่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นโดยตรง
เห็นได้จาก กองทุน ETF ทั่วโลกมีการขยายตัวของมูลค่าทรัพย์สิน (asset undermanagement) ในอัตราการเติบโตแบบสะสม (Compound Annual Growth Rate)ประมาณร้อยละ 70 หรือเกือบเท่าตัวทุกปีตั้งแต่ปี 2536 โดย ณ พฤษภาคมปี 2550 มูลค่าสินทรัพย์ของทุกกองทุน ETF ทั่วโลกมีรวมกันกว่า 22 ล้านล้านบาท โดยทุกตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียไม่ว่าจะเป็นตลาดเกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ หรือแม้กระทั่งตลาดใหม่อย่างจีน ได้มีการจัดตั้ง และซื้อขาย ETF กันเป็นที่เรียบร้อยหมดแล้ว
กองทุน ETF จึงเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ผสมผสานจุดเด่นทั้งของหุ้นและกองทุนรวมนับเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นกองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและสามารถซื้อขายได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งอ้างอิงกับดัชนี SET50โดยการลงทุนแบบตะกร้าหุ้น ที่อำนวยความสะดวก เพิ่มศักยภาพ และตอบสนองความต้องการในการลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน

โดยบลจ.วรรณ เป็นผู้จัดการกองทุน มีหน้าที่บริหารพอร์ตการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนการลงทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง มีบล.เคจีไอ (มหาชน) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องหรือมาร์เก็ต เมกเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่สร้างสภาพคล่องในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะทำให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและแพร่หลายในที่สุดซื้อง่ายขายคล่อง
ดูหมือนว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนจะเข้ามาอำนยความสะดวกการซื้อขายกองทุนETF กันอย่างเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้มีการปรับปรุงเกณฑ์ต่าง ๆ อาทิ การกำหนดให้อิควิตี้ อีทีเอฟ ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯต้องมี Market Maker เพื่อช่วยสร้างสภาพคล่อง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของอิควิตี้ อีทีเอฟ และลดปัญหาการเกิดส่วนลดหรือ discount ราคาของหน่วยลงทุน
รวมทั้ง ให้บริษัทจัดการลงทุนโดยความเห็นชอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้กำหนดว่าลักษณะใดที่จะเกิดความแตกต่างมากระหว่างราคาเสนอซื้อสูงสุดและราคาเสนอขายสูงสุด(Wide Spread) ซึ่ง Market Maker ต้องเข้ามามีบทบาท เพื่อให้เกณฑ์มีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับอิควิตี้ อีทีเอฟ อื่น ๆ ได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้อิควิตี้ อีทีเอฟ เป็นตราสารที่สามารถขายชอร์ตได้ รวมถึงอนุญาตให้สมาชิกที่เป็นผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุน ส่งคำสั่งแบบ Basket Order หรือคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายประเภทกลุ่มหลักทรัพย์ได้ โดยไม่กำหนดมูลค่าซื้อขายต่อ Basket
ในขณะเดียวกันยังอนุญาตให้ใช้โปรแกรมซื้อขาย (Program Trading) ที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อประโยชน์ในการทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องของอิควิตี้ อีทีเอฟ ของ Market Maker อีกด้วย

น่าสนใจตรงที่การปรับปรุงเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้นผ่านการพิจารณา และศึกษาเทียบเคียงจากตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่มีการซื้อขายอิควิตี้ อีทีเอฟ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่ยืดหยุ่นและสามารถรองรับอิควิตี้ อีทีเอฟ กองอื่น ๆ ในอนาคตได้ รวมถึงตอบสนองต่อการเสริมสร้างสภาพคล่อง และความน่าสนใจ และความสำเร็จของอิควิตี้ อีทีเอฟเพื่อให้อิควิตี้ อีทีเอฟ เป็นสินค้าที่มีความน่าสนใจของตลาดทุนไทย
สำหรับราคาซื้อขายของกองทุน ETF ซึ่งจะเปิดทำการซื้อขายครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ จะใช้ราคาเปิดเทรดอิงกับดัชนี SET50 อาทิ วานนี้ดัชนี SET50 ปิดที่ 585 จุด ราคาซื้อขายกองทุน ETF ก็อยู่ที่ราวๆ 5.80-5.90 บาท ซึ่งง่ายต่อการจดจำและซื้อขายเป็นอย่างมาก
กองทุน ETF จึงเป็นทางเลือกของการลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม

ข่าวหุ้น[/size:d0e1495e10">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com