กองทุนเปิดไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) เป็นกองทุนรวม ประเภท ETF (Exchange Traded Fund)1 กองแรกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยเป็นการผสมผสาน ระหว่างกองทุนเปิด กับคุณลักษณะพิเศษของหุ้นเข้าไว้อย่างลงตัว

TDEX เปิดขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 - 28 ส.ค. ที่ผ่านมา ด้วยมูลค่ากองทุนจัดตั้ง 5 พันล้านบาท โดยปิดยอดการจองซื้อไปที่ 1 พันล้านบาท (178 ล้านหน่วย ที่ราคาพาร์ 5.68 โดยใช้ดัชนี SET50 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. เป็นฐานในการคำนวณ) ผู้จองซื้อส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบันในประเทศ เพราะนักลงทุนต่างประเทศขณะนั้นยังติดกฎการตั้งสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย


ลงทุน TDEX 1 หน่วย เหมือนได้หุ้น 50 ตัว
TDEX มีนโยบายการลงทุนอ้างอิงกับดัชนี SET50 กล่าวคือ ผู้จัดการกองทุนจะจัดและปรับสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์แต่ละตัวให้ใกล้เคียงกับสัดส่วนที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET50 การลงทุนใน TDEX จึงมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นโดยตรง เพราะสามารถได้ประโยชน์จากการกระจายความเสี่ยงในรูปของตะกร้าหุ้น ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ 50 แห่ง ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย มีมูลค่าตลาด และสภาพคล่องในการซื้อขายสูง ในขณะที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก เมื่อเทียบกับการสร้างพอร์ตในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น ผลตอบแทนการลงทุนจึงมีแนวโน้มที่จะล้อไปกับการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50

ซื้อง่ายขายคล่องเหมือนหุ้น
แม้ TDEX จะมีคุณลักษณะคล้ายการลงทุนในกองทุนเปิด แต่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้การซื้อขาย TDEX ไม่แตกต่างกับการซื้อขายหุ้น โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ การกำหนดราคาสูงสุดต่ำสุดในอัตรา 30% ของราคาปิดล่าสุด วิธีการชำระราคา แต่คิดค่าธรรมเนียมเพียง 0.1% ถูกกว่าค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้นราว 60%

อ้างอิงราคาแบบเรียลไทม์
ปัญหาประการหนึ่งของการซื้อขายกองทุนเปิด คือนักลงทุนจะไม่รู้ราคาซื้อขาย ณ ตอนที่ทำรายการ ต้องไปลุ้นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) เมื่อปิดสิ้นวัน ในขณะที่การซื้อขาย TDEX สามารถทำได้ ณ ราคา และเวลาที่ต้องการ (แบบเรียลไทม์) แม้ราคาซื้อขายจะสะท้อนจากปริมาณอุปสงค์และอุปทาน ณ ขณะนั้น แต่ขณะเดียวกัน นักลงทุนจะมีข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน ผ่านการคำนวณค่า NAV โดยประมาณ (Indicative NAV-INAV) ซึ่งบริษัทจัดการ (บลจ. วรรณ) จะคำนวณ และเปิดเผยทุก ๆ นาที ตามราคาเรียลไทม์ที่เปลี่ยนแปลงของหุ้นในตะกร้าหลักทรัพย์ (Portfolio Depository File: PDF) นอกจากนี้ ยังมี Market Maker (KGI) ทำหน้าที่เสนอซื้อและเสนอขายในราคาที่ใกล้เคียงกับ NAV ต่อหน่วยตลอดเวลา นอกจากจะทำให้ราคาซื้อขายเป็นไปอย่างยุติธรรมแล้ว ยังสร้างสภาพคล่องในการซื้อขายอีกด้วย TDEX จึงไม่น่าจะซื้อขาย discount จาก NAV เหมือนดังกรณีกองทุนปิดที่จดทะเบียนในตลาดฯ

:lol: