May 4, 2024   1:41:50 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด่นเล่นสั้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 07/09/2007 @ 09:44:16
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET
ในระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา ดัชนีมีกรอบการแกว่งตัวช่วง 805-820 จุด ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และจุดสูงรอบสั้น สังเกตเห็นว่าการปรับฐานนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากการดีดกลับจาก 780 จุด เมื่อสัปดาห์ก่อน คาดว่าเป็นการพักตัวของแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง การที่สัญญาณ RSI และ MACD ยังเคลื่อนตัวในทิศทางขาขึ้น บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ของดัชนีที่จะดีดตัวทดสอบ Dead Cross บริเวณ 850 จุดได้ในระยะต่อไป

มุมมองระยะกลาง - KCE
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
KCE เริ่มปรับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาลงระยะยาวตั้งแต่ต้นปี 47 โดยราคาอ่อนตัวลงจาก 12.50 บาท สู่จุดต่ำสุดบริเวณ 2.28 บาท ที่ซึ่งพบรูปแบบ Tweezers Bottom จากนั้นเป็นต้นมาราคาสามารถดีดกลับ แต่ยังพบอุปสรรคคือเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ที่เคลื่อนผ่านบริเวณ 4.00 บาท อย่างไรก็ตามรูปแบบ Bullish Divergence ที่เกิดขึ้นทั้งใน RSI และ Stochastic รายสัปดาห์ แสดงถึงโอกาสการเปลี่ยนแนวโน้มระยะยาว โดยราคาจะสามารถฝ่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ ขึ้นไปได้ในที่สุด

หุ้นเด่น เล่นสั้น - CEI
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
จากกราฟรายวัน ราคามีรูปแบบการกลับตัว (Reversal pattern) ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน พร้อมกับการสะสมกำลังมาระยะหนึ่ง เพื่อรอการ break up ของราคา นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก RSI & Stochastic อีกด้วย อย่างไรก็ดี มีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.50-2.60 บาท ซึ่งเป็นบริเวณแนวต้าน ณ จุดสูงสุดในรอบที่ผ่านมา จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยให้แนวรับที่ 2.00-2.10 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 1.98 บาท เมื่อหลุดเส้นค่า parabolic

หุ้นเด่น เล่นสั้น - PRO
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
จากกราฟรายวัน ราคามีรูปแบบการกลับตัว (Reversal pattern) ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน พร้อมกับการสะสมกำลังมาระยะหนึ่ง เพื่อรอการ break up ของราคา นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก RSI & Stochastic อีกด้วย อย่างไรก็ดี มีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.33-1.35 บาท ซึ่งเป็นบริเวณแนวต้าน neckline ในรอบที่ผ่านมา จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยให้แนวรับที่ 1.10-1.12 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 1.08 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 07/09/2007 @ 09:53:29 :
Todays Strategy
ดัชนีอาจฟื้นตัวได้ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่น่าจะเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบ 805 - 815 จุด ระยะสั้นยังเก็งกำไรได้ หากดัชนียังยืนเหนือแนวรับ เน้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ทั้งกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และขนส่ง

Technical Analysis
ระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 805-820 จุด คาดว่าเป็นเพียงการพักตัวของแนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง การฟื้นตัวของสัญญาณ MACD และ RSI นั้น แสดงถึง การดีดตัวรอบปัจจุบันยังไม่เสร็จสิ้น โอกาสที่จะดีดตัวทดสอบ 850 จุด อันเป็นเป้าหมายหลักนั้นมีสูงมาก
หุ้นแนะนำระยะสั้น: CEI, PRO
หุ้นแนะนำระยะกลาง: KCE

News Comment
AIT: (ขาย/14.60 บาท/พื้นฐาน 14.60 บาท)
แจกวอร์แรนท์ แต่แนวโน้มกำไรไม่สดใส
กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ที่พักอาศัย)
เปิดโครงการใหม่เดือน ส.ค. 50 ยังลดลงต่อเนื่อง

Company Update
BEC: (ซื้อ/22.80 บาท/พื้นฐาน 25.75 บาท)
ยังมีโอกาสปรับขึ้นค่าโฆษณาปี 51

Statistic Info
ปฏิทินหุ้น
รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร
Commodities Move

AIT: แจกวอร์แรนท์ แต่แนวโน้มกำไรไม่สดใส - ขาย
" ขึ้นเครื่องหมาย XW 11 ก.ย. 50 เพื่อรับสิทธิวอร์แรนท์ ในสัดส่วน 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 วอร์แรนท์ฟรี AIT-W มีอายุ 5 ปี โดย 1 วอร์แรนท์ สามารถใช้สิทธิได้ 1 หุ้นในราคา 16.50 บาท/หุ้น โดยเราคำนวณมูลค่าวอร์แรนท์ได้ 2.20 บาท
" วอร์แรนท์ dilute ไม่มาก แต่แนวโน้มกำไรไม่สดใส การออกวอร์แรนท์นี้ เกิด dilution เพียงแค่ 10% แต่แนวโน้มกำไรไม่สดใส โดยเราคาดว่ากำไรจะลดลง 39%YoY ในปี 50 เหลือเพียง 121 ล้านบาท และคาดว่าจะทรงตัวในปี 51 ภายใต้สมมติฐานว่า งานภาครัฐจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจมีความเสี่ยงที่ต้องปรับลดประมาณการกำไรปี 51 ในอนาคต
" หากราคาหุ้นดีขานรับการแจกวอร์แรนท์ เป็นจังหวะ "ขาย" แม้ AIT จะมีจุดเด่นในแง่เงินปันผลจ่ายในอัตราเฉลี่ย 7-8% แต่แนวโน้มกำไรที่ไม่สดใส ทำให้เรายังคงคำแนะนำ "ขาย" ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 14.60 บาท (PER 7 เท่าปี 51)

วราภรณ์ วิบูลคณารักษ์ no. 2482, Warapornw@seamico.co.th

กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (ที่พักอาศัย): เปิดโครงการใหม่เดือนส.ค. 50 ยังลดลงต่อเนื่อง - เท่าตลาด
" โครงการเปิดใหม่เดือนส.ค. มีเพียง 18 โครงการมูลค่า 4.6 พันล้านบาทลดลง 50% บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่ในเดือนส.ค. 50 มีจำนวนเพียง 18 โครงการ มูลค่า 4.6 พันล้านบาท ซึ่งลดลง 50% เมื่อเทียบกับปกติที่จะมีมูลค่าโครงการเปิดใหม่ 1 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 30 โครงการต่อเดือน เป็นผลจากเศรษฐกิจชะลอตัว
" ยังให้น้ำหนักการลงทุนเท่าตลาด เราคาดว่าการชะลอการเปิดโครงการใหม่เป็นที่คาดหมายในตลาดอยู่แล้วเพราะยอดขายที่พักอาศัยยังค่อนข้างชะลอตัวตามความมั่นใจผู้บริโภคที่ยังอยู่ระดับต่ำ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าความมั่นใจผู้บริโภคจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นหลังการเลือกตั้งชัดเจน ส่งผลให้ยอดขายบ้านจะทยอยปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะแนวราบซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา เราจึงยังคงน้ำหนักเท่าตลาด หุ้น Top Pick คือ PS (ราคาตามปัจจัยพื้นฐาน 10.1 บาท) และ QH (ราคาตามปัจจัยพื้นฐาน 1.95 บาท) ซึ่งมีการสร้างยอดขายบ้านแนวราบได้ดีสวนกระแส

รุ่งรัตน์ สุนทรปกาสิต


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com