*แม้ดัชนีจะแกว่งตัวผันผวนไปมาตลอดทั้งภาคเช้า แต่ไม่ได้ทำให้กองทุน ETF ที่มีชื่อเทรดในตลาดว่า TDEX ม่อยกระรอกตามไปแต่อย่างใด เพราะทันทีที่เปิดเทรดราคาหน่วยกองทุนก็พุ่งขึ้นไปที่ระดับ 5.95 บาท หลังจากนั้นก็เทรดกันสนั่นเมืองก่อนจะมาปิดที่ 5.88บาท พร้อมด้วยมูลค่าซื้อขาย 196 ล้านบาท ถือว่าเลิศหรูสุดๆ พะยะค่ะ

*งานนี้ทำเอานักลงทุนที่จองซื้อหน่วยลงทุนช่วงไอพีโอฟันกำไรตุนไว้ในกระเป๋าทันทีราว 0.20 บาท และมีโอกาสจะได้กำไรมากขึ้น หากดัชนีอ้างอิง SET50 มีแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นะจ๊ะ

*"โมนิก้า" ถึงขอปรบมือดังๆ ฉลองความสำเร็จให้แก่คุณพี่ปกรณ์ เจ๊ภัทรียา และดร.สมจินต์ ที่ช่วยกันผลักดันให้ตลาดหุ้นมีสินค้าดีๆ ไว้เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนกลุ่มต่างๆซึ่งในไม่ช้าคงได้เห็นนักลงทุนต่างชาติหันมาลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

*ในระหว่างนี้เดี๊ยนขอเป็นกำลังให้กับทีมงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วยกันพัฒนาสินค้าดีๆออกมาแยอะๆ เพราะตลาดหุ้นกำลังเปิดกว้างรอรับสินค้ารูปแบบต่างๆ มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนเริ่มเข้าใจว่า ตลาดหุ้นเป็นแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงิน หลังมีสินค้าที่มีความเสี่ยงต่ำรองรับนักลงทุนที่ไม่ชอบอะไรเสี่ยงๆ เจ้าค่ะ

*เดี๊ยนถึงมั่นใจ 100% ว่า ตลาดหุ้นไทยยามนี้เลิศสุดๆ ไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านยิ่งตลาดหุ้นไทยกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาสินค้า ยิ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องกลับมามองตลาดหุ้นไทยมากขึ้นนะจะบอกให้

*น่าเสียดายตรงที่เป้าบริษัทจดทะเบียนน้องใหม่ซึ่งตั้งไว้ 64 บริษัท ดันหลุดเป้าที่ตั้งไว้เยอะ แถมไม่มีหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียน ดัชนีถึงยืนต็อกต๊อยได้แค่แถว 800 จุด"โมนิก้า" ถึงไม่เคยคาดหวังว่าตลาดหุ้นจะวิ่งขึ้นไป 900-1,000 จุด เพราะมันเพียงตัวเลขภายใต้สมมุติฐานที่ว่า การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจไม่มีปัญหานะจ๊ะ

*ฉะนั้นการอ่อนตัวของดัชนีวานนี้ถึงไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะสินค้าตัวใหม่ที่เข้าเทรดวานนี้ ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดีเดียว "โมนิก้า" คงต้องเจียดเวลาไปดู TDEX และ TFEX มากขึ้น เพราะได้รับความสนใจจากนักลงทุนกลุ่มต่างๆ มากเหลือเกินนั่นเอง

*วกกกลับมาที่การลงทุนในตลาดหุ้นบ้างดีกว่า เพราะดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง TCJ ทำท่าจะไม่รอดสันดอนเสียแล้ว เพราะดันมีคนรู้ประวัติปูมหลังที่ไม่ค่อยใสสะอาดของผู้ถือหุ้นใหญ่หลังจากฉวยโอกาสเทขายหุ้นในช่วงที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 2-3 ปีก่อนเป็นประจำ "โมนิก้า" ถึงอยากเตือนนักลงทุนให้ระวังให้ดีเป็นพิเศษเจ้าค่ะ

*เนื่องจากราคาหุ้นวานนี้อ่อนตัวลงมาปิดที่ 6.50 บาท บวกไปแค่ 0.10 บาท ทั้งที่ช่วงเช้ากระโจนขึ้นไปถึงระดับ 7.15 บาท หลังจากนั้นก็ออ่นตัวลงเรื่อยๆ และเมื่อบวกลบไปกลับออกมาเบ็ดเสร็จ ราคาหุ้นเหวี่ยงตัวลงไปเกือบ 1 บาทแบบนี้...คงทำให้คนที่ออกของไม่ทันหน้าซีดเป็นได่ต้มแหงๆๆๆๆ

*ผิดกลับในรายของ THL อาศัยจังหวะที่บรรยากาศการลงทุนขมุกขมัวทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.75 บาท บวกไป 0.10 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขาย 90 ล้านบาท แสดงท้อนถึงนักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่มกำลังเข้ามาดันราคาอย่างไม่ต้องสงสัย "โมนิก้า" ถึงไม่อยากชายตามอง เพราะมองทีไรเสียสายตาทุกที

*งานนี้ใครยังคิดว่าหุ้นตัวนี้เหมาะที่จะเล่นฆ่าเวลาไปพลางๆ เดี๊ยนคงไม่สามารถขัดศรัทธา เพราะมันไม่ใช่เงินของอิฉัน รวมทั้งไม่สามารถไปบังคับขู่เข็นให้ใครเชื่อตามในสิ่งที่บอกได้ทุกคนเจ้าค่ะ

*กรณีของ EVER ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งให้ชี้แจงนั้น "โมนิก้า" ก็ขอปรบมือดังๆให้กับหน่วยงานตรวจสอบที่ไม่ได้นิ่งดูดายเรื่องดังกล่าว ถึงแม้บทสรุปสุดท้ายคงไม่มีอะไรยับยั้งธุรกรรมดังกล่าวได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการเปิดโปงเรื่องฉาวโฉ่ของกลุ่มผู้บริหารโลจายะได้ทีเลยทีเดียวเจ้าค่ะ

*ส่วนควันหลงเรื่องวอแรนต์ของ MME และ DE ภายใต้การบริหารงานของเฮียกมล ที่ยืดเยื้อมานานนั้น "โมนิก้า" สอบถามไปยัง กลต. ก็ได้รับคำตอบว่า เพิ่งยืนเรื่องมาเมื่อเดือนพฤษภาคม และตอนนี้ก็กำลังตรวจสอบรายละเอียดอีกนิดหน่อย และหากไม่มีอะไรติดขัด ในเร็วๆ คงได้รับการอนุมัติ...ยกเว้นแต่ว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ อันนี้อาจต้องโดนดองเป็นปีนะจ๊ะ...ทราบแล้วเปลี่ยน

*ก่อนจากกัน "โมนิก็" ได้ยิน Market Maker เม้าท์แตกกว่านักลงทุนต่างชาติแสดงความต้องการเข้ามาลงทุนใน ETF เพิ่มเติมแบบนี้...แสดงว่า 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีโบรกเกอร์เข้ามาไล่เก็บหุ้นในกลุ่ม SET50 อย่างแน่นอนนะจ๊ะ

*ในระหว่างนี้ควรหาจังหวะช้อนซื้อหุ้นกลุ่มบลูชิพด่วนจี๋ เพื่อจะได้ทำกำไรทั้ง 2 ขาไปพร้อมๆ กัน...อิอิอิ


:lol: