May 4, 2024   5:15:15 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : ครบรอบ 6 ปี 911
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 11/09/2007 @ 09:32:16
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*แม้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกจะไม่สดใส หลังต้องเผชิญกับปัญหาซับไพร์มร่วมเดือนแต่เมื่อนึกเหตุการณ์ 911 ที่เวียนมาบรรจบครบรอบ "โมนิก้า" ถึงกับขนพองสยองเกล้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกรงจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงซ้ำรอยประวัติศาสตร์ จึงรู้สึกใจคอไม่ดีอย่างไรก้ไม่รู้

*เนื่องจาก บิลาเดน ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะไม่มีวันก้มหัวให้สหรัฐฯและพร้อมจะตอบโต้แบบถึงพริกถึงขิง ผู้จัดการกองทุนต่างชาติที่ไหนก็กลัวหัวหดทั้งนั้นแหล่ะ...เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกแดงเถือกกันถ้วนหน้า จนตลาดหลักทรัพย์เกือบต้องนำมาตรการ เซอร์กิจเบรกเกอร์ มาใช้เจ้าค่ะ

*"โมนิก้า" จึงถือโอกาสนี้รำลึกถึงเหตุการณ์เหนือความหมาย 911 อีกสักหน เพราะทุกครั้งที่เหตุการณ์ดังกล่าวหมุนเวียนมาบรรจบทีไร มันทำให้หัวใจเดี๊ยนหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเป็นประจำ และหวังว่าในวันครบรอบ 6 ปี คงไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรงเกิดขึ้นอีกนะค่ะ

*เนื่องจากบรรยากศการลงทุนยามนี้ก็ย่ำแย่เต็มที แถมวอลุ่มการซื้อขายก็ลดลงเรื่อยๆ"โมนิก้า" ถึงรู้สึกสับสน และเป็นกังวลว่า ดัชนีจะกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 800 จุดอย่างมั่นคงได้อย่างไรกัน ในเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า แนวรับดังกล่าวอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งลนไฟนะซี

*ขนาดหุ้นบลูชิพที่ว่าแน่ๆ ยังโดนกระหน่ำเทขายเสียเละเทะ "โมนิก้า" จึงไม่ค่อยแน่ใจว่า ดัชนีจะเด้งกลับได้อย่างบูรณาการ เพราะที่ผ่านก็เห็นเป็นแค่รีบาวนด์เพื่อลงต่อทั้งนั้น โดยเฉพาะในรายของ BBL SCB และ KBANK มีแรงเทขายทยอยออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็นแบบนี้...ท่าจะไม่ดีนะค่ะ

*เนื่องจากใครๆ ก็รู้ว่า ฝรั่งหัวดำ ฝรั่งหัวทอง ซื้อหุ้นกลุ่มดังกล่าวเก็บไว้ในรูป NVDRเป็นจำนวนมาก การที่หุ้นอ่อนตัวลงเรื่อยๆ พร้อมกับปรากฎชื่อนักลงทุนต่างชาติเป็นคนขายสุทธิ เท่ากับบอกเป็นนัยให้รู้ว่า ยังมีแรงเทขายรออีกเป็นจำนวนมาก จึงไม่ควรหวังว่าหุ้นจะขึ้นได้นะจ๊ะ

*ผิดกับในรายของ PTT และ PTTEP แม้จะมีแรงเทขายไหลบ่าออกมาตลอดทั้งวัน แต่ท้ายที่สุดก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นหุ้นยอดนิยมด้วยการขึ้นมาปิดเสมอตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นการสื่อความหมายให้รู้ว่า ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟได้เป็นอย่างดี และไม่ต้องกลัวว่าหุ้นจะอ่อนตัวลงไปอีกนะค่ะ

*ยกเว้นในรายของ ADVANC หากหลุดเส้นแนวรับ 200 วัน พร้อมกับมีแรงเทขายไหลออกมาไม่ขาดสาย น่าจะทำให้แพทเทินของหุ้นเสียไปในทันที แต่เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติเก่าในรอบ 1-2 ปีกลับพบว่า ทุกครั้งที่ราคาหุ้นลงมาแตะเส้นแนวรับสุดท้ายทีไร ราคาหุ้นมักดีดตัวขึ้นแรงเป็นประจำนะจะบอกให้

*"โมนิก้า" ถึงอยากให้คุณๆ รับหุ้นสื่อสารรายนี้ไว้พิจารณาควบคู่กับหุ้นปูนใหญ่ SCCเพราะรอแค่เส้น 10,25,75, และ 200 วันมาบรรจบกันเมื่อไหร่ ราคาหุ้นถีบตัวออกจากฐานทันที 10% เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนหันมาเหลียวมองหุ้นตัวนี้สักเล็กน้อย เพื่อจะเป็นหุ้นทางเลือกในยามที่ตลาดหุ้นผันผวนไงหล่ะจ๊ะ

*ถัดจากหุ้นขนาดใหญ่ ลองหันมาดูหุ้นขนาดกลางๆ อย่าง KEST และ BLSเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับพวกเบี้ยน้อยหอยน้อยบ้างดีกว่า...โดยเฉพาะในรายของหุ้นตราดอกบัว(ไม่ใช่ปูนซีเมนต์) ถือเป็นหุ้นที่มีน้ำมีนวลมากสุดในกลุ่มโบรกเกอร์ เพราะยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด "โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนทยอยเก็บหุ้นตัวนี้ไว้ในพอร์ตให้ได้มากที่สุด

*เนื่องจากแผนธุรกิจที่นำออกมาใช้กวาดต้อนมาร์เก็ตติ้ง และเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ให้กับตัวเอง เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับโบรกเกอร์ที่มีแบงก์แม่คอยหนุนหลัง แถมพรายกระซิบบอกว่าอีกหน่อยมาร์เก็ตติ้งจากค่ายอื่นๆ จะหันซบอกโบรกเกอร์รายนี้มากขึ้น ในไม่ช้าราคาหุ้นจะดีดตัวกลับขึ้นไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัย

*ส่วนในรายของคุณพี่มนตรี ศรไพศาล อาการค่อนข้างหนักหนาสาหัสกว่าใครเพื่อน เนื่องจากฝั่งฝันที่ตั้งเป้าจะรักษามาร์เก็ตแชร์ให้ได้ในระดับ 8% คงไม่สำเร็จดั่งใจหวังเสียแล้วหลังวอลุ่มเทรดหดหายลงไปเรื่อยๆ แถมวานนี้ซื้อขายกันไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท...ก็คงเป็นฝันกลางตอนกลางวันแสกๆ อีกตามเคย... หวังว่าปีหน้าคุณพี่คงไม่ปรับเปลี่ยนเป้าเหลือแค่ 7% อีกนะ...อิอิอิอิ

*ถัดจากหุ้นพื้นฐานย้อนกลับมาดูหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมอย่าง MDX บ้างดีกว่า เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 4.96 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไปเกือบ 7% ย่อมไม่ใช่การไล่ราคาธรรมดาแล้วกระมั่ง เพราะข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทุกห้องค้าต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีเจ้ามือคอยปั่นราคา...นักลงทุนทั้งขาจรและขาประจำถึงกระโจนเข้าไล่ราคากันอย่างคึกคัก

*สำหรับในรายของ TCJ แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ว่า มีคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลังส่วนจะเป็นคนในกลุ่มไหนนั้น ก๊วนไหน ก็คงไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับแก๊งนี้จะดันราคาขึ้นไปถึงระดับไหน เพราะคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเล่นคิดกันอย่างนี้ "โมนิก้า" ถึงมองว่าราคาปิดที่ 7.65 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไปถึง 25% มันร้อนแรงเกินไปสำหรับหุ้นพื้นๆ ธรรมดาๆ ที่ผู้บริหารมักฉวยโอกาสเทขายหุ้นทำกำไรเป็นประจำนะค่ะ


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com