EMC... โลกนี้คือละคร เปิดตำนาน "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" ลือกระฉ่อน เป้าหมาย 5.50 บาทไปไม่ถึงดวงดาว เมื่อมีกลุ่มเพื่อนบางคนหักหลังกระหน่ำเทขายหุ้นอย่างหนัก เพราะทนความเย้ายวนของราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นไม่ไหว ทำราคารูดลึกเกือบติดฟลอร์ ประเด็นใหม่ล่าสุดระบุ ทุกฝ่ายใช้สื่อเป็นเครื่องมือปล่อยข่าวทุบหุ้น หวังเก็บของถูกรอทำราคารอบใหม่ ปล่อยนักลงทุนรายย่อยติดกับเพียงลำพัง.. ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร แต่ให้ข้อคิดนักลงทุนเป็นอย่างดี รักจะลุยหุ้นเก็งกำไรต้องใจเด็ด!

ใช่ว่า "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" จะเป็นแค่นวนิยายฮ่องกง ที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อย่างโด่งดังไปแล้วหลายยุคหลายสมัย แต่ขณะนี้ "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" กำลังเกิดขึ้นจริงกับ บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) (EMC) ที่กำลังถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในห้องค้าหลักทรัพย์ และบนเวบบอร์ดในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัย รวดเร็ว และได้รับความนิยมสูงในขณะนี้
EMC ถูกนำกลับมาเป็นหัวข้อสนทนาของนักลงทุนอีกครั้งวานนี้ (11 ก.ย.) ซึ่งตรงกับอดีตวันโศกนาฎกรรมตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ครบรอบ 6 ปีเต็ม เมื่อราคาหุ้นปรับลดลงอย่างรุนแรงและรวดเร็วทั้งหุ้นแม่และหุ้นลูก
โดยราคาหุ้น EMC ปรับลดลงต่ำสุดของวันที่ระดับ 2.84 บาท ก่อนจะดีดตัวมาปิด 3.16 บาท ลดลง 0.52 บาท หรือ 14.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 954.04 ล้านบาท สูงสุดอันดับ 3 ของตลาด ซึ่งในระหว่างวัน EMC มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดอันดับ 1 ของตลาด ส่วน EMC-W1 ลดลงต่ำสุดที่ระดับ 1.87 บาท ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.93 บาท ลดลง 0.75% หรือ 27.99% มูลค่าการซื้อขาย 307.87 ล้านบาท

ประเด็นหัวข้อสนทนาและการตั้งข้อสังเกตุของนักลงทุน ทั้งในห้องค้าหลักทรัพย์และบนเวบบอร์ดแบ่งออกเป็น 2 กระแส แต่ทุกกระแสล้วนแล้วแต่จบด้วยข้อสรุปว่า EMC มีโศกนาฏกรรม "เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด" เกิดขึ้นอีกรอบแล้ว
กระแสแรก ระบุว่า EMC ที่กลายมาเป็นบริษัทของเสี่ย "ชนะชัย ลีนะบรรจง" ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร ขณะที่เจ้าของเดิม คือ "โกมล วงศ์พรเพ็ญภาพ" ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ได้หันมาจูบปากกันแล้วนั้น กำลังถูกหมายมั่นปั้นมือจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ 4 ราย คือ เสี่ยชนะชัย, โกมล, เสี่ยโทนี่ หรืออดีตเสี่ยสอง และธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ในฐานะผู้ถือหุ้นที่มาจากการปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีเป้าหมายจะดันราคา EMC ถึง 5.50 บาท
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ราคาหุ้นกำลังดีดตัวกลับครั้งใหม่ล่าสุด หลังร่วงจากระดับสูงสุดที่ 4.80 บาทจากกระแสข่าวความขัดแย้งของ เสี่ยชนะชัย กับโกมล ก่อนหน้านั้น คือ แรงขายที่ยังมีปรากฏเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีกครั้งขณะที่ราคาหุ้นกำลังปรับตัวขึ้น ทำให้ทั้ง 4 คนเริ่มไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับราคาหุ้น EMC
กระแสข่าวระบุด้วยว่า การขายหุ้นรอบนี้มาจากการส่งคำสั่งขายของ โกมล กับพรรคพวก และ BBL ทำให้ เสี่ยโทนี่ ต้องตัดสินใจเทขายตาม ส่งผลให้ราคาหุ้น EMC ที่กำลังขยับเข้าสู่ราคา 3.76 บาทในรอบนี้ ได้ปรับลดลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว รวมทั้ง EMC-W1 และน่าจะทำให้นักลงทุนรายย่อยอื่นๆ ต้องตัดใจเทขายตามมาในที่สุด

กระแสที่ 2 คือ โกมล และเสี่ยโทนี่ ร่วมมือกันขาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการดัมพ์ราคาอีกครั้ง แล้วรอเก็บหุ้นราคาถูกรอบใหม่
ปล่อยให้ เสี่ยชนะชัย บาดเจ็บเพียงลำพัง เมื่อต้องทนดูเพื่อนๆ ร่วมก๊วน เทขายหุ้นที่ตัวเองตั้งใจจะเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มที่ และได้โชว์ผลงานไปแล้วหลายรายการ โดยเฉพาะโครงการใหม่ๆ อาทิ โครงการ THE LINK สุขุมวิท 50 (อาคาร 1), โครงการเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส จำนวน 50 สาขา, โครงการ The PRIME, โครงการ THE KRIS 3, โครงการ THE LINK สุขุมวิท 50 (อาคาร 2)
โครงการ เทสโก้ โลตัส แฝล-ยู เดชอุดม, โครงการ เทสโก้ โลตัส ซุปเปอร์มาร์เก็ต ดำเนินสะดวก, โครงการ เทสโก้ โลตัส แฝล-ยู กันทรลักษ์ และ โครงการ CONSTRUCTION OF THE COLLEGE OF BUSINESS & COMPUTER SCIENCE (CMU) at Doha, State of Qatar รวมมูลค่านับพันล้านบาท

อีกประเด็นที่ถูกนำมาตั้งข้อสังเกตุ คือ หากรอบนี้ BBL ขายหุ้นจริง เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาหุ้น EMC ในกระดาน ทำไมไม่ขายในลักษณะบิ๊กล็อต หรือทำไมไม่ติดต่อขายหุ้น EMC ให้กับ เสี่ยชนะ โดยตรง เพราะเสี่ยชนะชัยเอง ได้เคยติดต่อซื้อหุ้นจาก BBL ไปแล้วก่อนหน้านี้
และเป็นไปได้หรือไม่ถ้า เสี่ยชนะชัย จะจับมือ โกมล ร่วมทุบหุ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะมีข่าวลือหนาหูระบุว่า วานนี้ ทั้งเสี่ยชนะชัย และโกมล ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาจนถึงช่วงค่ำ ซึ่งในช่วงบ่ายของวันมีสื่อมวลชนโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อมูลมากมายจากทั้งสองท่าน และได้รับการปฏิเสธข่าวที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่น่ากังขาคือ ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ไม่ว่าจะใคร ก็จะได้ยินเสียงทั้งคู่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา และข้อสนทนาที่เล็ดลอดตามสายล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นทั้งสิ้น

ฝั่ง eFinanceThai.com เอง ยังได้ข้อมูลจาก เสี่ยชนะชัย โดยตรงว่า ราคาหุ้น EMC และ EMC-W1 ที่ปรับตัวลดลงแรงวันนี้ น่าจะเกิดจากการเทขายหุ้นของนักลงทุนรายใหญ่ และไม่น่าจะเกิดจากการเทขายหุ้น EMC ที่ธนาคาร กรุงเทพ(BBL) ถืออยู่มากกว่า 3% ออกมา และคุณโกมล วงศ์พรเพ็ญภาพ ไม่ขายหุ้นที่เหลืออยู่บางส่วนออกมาแน่ และยืนยันด้วยว่า...
"ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงวันนี้ไม่น่าจะใช้ผู้บริหาร EMC ขายหุ้นออกมา ตัวผมเองก็อยู่กับคุณโกมลตลอดเวลา และสไตล์ไม่น่าจะใช่แบงก์กรุงเทพ ผมก็ไม่รู้จะตรวจสอบยังไง ราคาลงแรงอย่างนี้น่าจะเป็นขาใหญ่ทิ้งลงมา"

ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ มีกระแสข่าวที่ระบุว่า ทั้ง 4 กลุ่ม รวมทั้งนักลงทุนรายใหญ่ต่างปล่อยข่าวเพื่อ "ทุบหุ้น" หวังเก็บของถูกเพื่อเตรียมทำราคารอบใหม่ โดยทุกคนต่างใช้สื่อมวลชนที่ใกล้ชิดเป็นตัวกลางปล่อยข่าวร้าย
ขณะที่สื่อมวลชนเองก็จะได้ข่าว ซึ่งแม้จะรู้อยู่ในใจว่าตกเป็นเครื่องมือ แต่ข่าวเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ "ขายได้" ทั้งสิ้น ก็พร้อมยินดีที่จะนำเสนอออกไป บทสรุปสุดท้ายก็จะ win win win แล้วก็ win ปล่อยให้นักลงทุนที่หลงตกใจข่าวลือ ตกเป็นเครื่องมือแต่เพียงผู้เดียว
ความจริงจะเป็นอย่างไรคงไม่มีใครรู้ นอกจากบุคคลนั้นๆ เอง แต่สิ่งที่น่าตั้งข้อสังเกตุอีกประการหนึ่ง คือ EMC ได้แจ้งในวันเดียวกันว่า นางราศรี วิภาดาพิสุทธิ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการตรวจสอบแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 เป็นต้นไป
ข่าวฮ็อตวันนี้ ขอมอบเพลง "โลกนี้ คือ ละคร" ให้กับ EMC ด้วยใจปรารถนาดียิ่ง

"โลกนี้ คือ ละคร"

โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร ถึงบทเมื่อตอนเร้า..(หรือร้าว?)ใจ
บทบาทลีลาแตกต่างกันไป ถึงสูงเพียงใด ต่างจบลงไปเหมือนกัน
เกิดมาต้องตายร่างกายผุพัง ผู้คนเขาชัง คิดยิ่งระวังไหวหวั่น
ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน ถือผิวชังพรรณ บ้างเหยียดหยามกันเหลือเกิน
โลกนี้คือละคร บทบาทบางตอน ชีวิตยอกย้อนยับเยิน
ชีวิตบางคนรุ่งเรืองจำเริญ แสนเพลิน เหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน
โลกนี้นี่ดูยิ่งดูเศร้าใจ ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไปเหมือนม่าน
เปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ ครั้นแล้วไม่นาน เปิดผ่านเป็นความเศร้าใจ



:lol: