SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 853.43 จุด เพิ่มขึ้น 0.96 จุด(+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 28,044.18 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ตามตลาดต่างประเทศ หลังปัญหาซับไพร์มเริ่มผ่อนคลายลง คาดเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุม FOMC ปลายต.ค.นี้ แต่ช่วงบ่ายการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยถูกถ่วงด้วยหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลง อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ส่วนพรุ่งนี้คาดตลาดปรับขึ้นต่อ แต่มีกรอบจำกัดการขึ้น เหตุตลาดฯขึ้นหลายวัน โดยให้แนวรับ 850 แนวต้าน 860, 870 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 853.43 จุด เพิ่มขึ้น 0.96 จุด(+0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 28,044.18 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่แดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 862.28 จุด และแตะจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 853.43 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 184 หลักทรัพย์ ลดลง 139 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 137 หลักทรัพย์

น.ส.อาภาพร แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ตามตลาดต่างประเทศ ภายหลังจากปัญหาซับไพร์มผ่อนคลายลง และตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุม FOMC ปลายเดือนนี้(ต.ค.)เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา

หากอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง จะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนในตลาดเงินลดลงด้วย ซึ่งก็จะทำให้มีโอกาสที่เม็ดเงินจะไหลออกมาลงทุนในตลาดหุ้น และตลาดโภคภัณฑ์มากขึ้น

วันนี้ตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเชียจึงปรับตัวขึ้นกันอย่างทั่วหน้า รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย แม้ว่าตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้จะปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค อันเป็นผลจากตลาดหุ้นไทยมีน้ำหนักหุ้นในกลุ่มพลังงานมาก และล่าสุดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวลงทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงมาด้วย จึงเป็นตัวถ่วงตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ มองว่าตลาดฯยังมีความเสี่ยงจากการปรับฐานราคาน้ำมันดิบ และการปรับฐานค่าระวางเรือในช่วงนี้

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(3 ต.ค.)คาดว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่อาจจะจำกัดกรอบการปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดฯได้ปรับขึ้นมาหลายวันแล้ว โดยให้แนวรับไว้ที่ 850 จุด แนวต้าน 860, 870 จุด พร้อมแนะนำให้น้ำหนักลงทุนมากขึ้นในกลุ่มแบงก์, อสังหาฯ, รับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง และบันเทิง เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้น

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,459.09 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
RRC มูลค่าการซื้อขาย 1,839.60 ล้านบาท ปิดที่ 24.80 บาท ลดลง 0.95 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,436.93 ล้านบาท ปิดที่ 272.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,321.24 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ATC มูลค่าการซื้อขาย 1,308.87 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา

:lol:

ภาวะตลาดอนุพันธ์: ปิดวันนี้ ปริมาณการซื้อขาย 5,687 สัญญา

รายงานการซื้อขายตลาดอนุพันธ์ (TFEX) วันนี้มีการซื้อขายทั้งหมดอยู่ที่ 5,687 สัญญา เพิ่มขึ้น 1,812 สัญญา จาก
การซื้อขายครั้งก่อน (1 ต.ค.)ที่มีการซื้อขาย 3,875 สัญญา

สัญญา S50Z07 มีปริมาณการซื้อขาย สัญญา 5,588 สัญญา S50H08 มีปริมาณการซื้อขาย 80 สัญญา, สัญญา
S50M08 มีปริมาณการซื้อขาย 13 สัญญา ส่วนสัญญา S50U08 มีปริมาณการซื้อขาย 6 สัญญา

ปิดตลาดวันนี้ดัชนีอ้างอิง SET50 Index อยู่ที่ 622.03 บวก 0.15 จุด (+0.02%)

ชื่อย่อสัญญา เดือนที่สัญญา ล่าสุด ปริมาณ สถานะคงค้าง ราคาที่ใช้
สิ้นสุดอายุ ชำระราคา
วันก่อนหน้า
SET50 Index Futures

S50Z07 ธ.ค.50 630.90 5,588 13,158 626.80
S50H08 มี.ค.51 630.50 80 365 626.80
S50M08 มิ.ย.51 632.00 13 163 628.00
S50U08 ก.ย.51 630.00 6 5 625.00
รวมทั้งสิ้น 5,687 13,691
รวมทั้งสิ้น (ทั้งตลาด) 5,687 13,691

--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน

:lol: