* "โมนิก้า" ค่อนข้างดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นนักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อหลักในตลาดหุ้นไทย เพราะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ดัชนีสามารถยืนหยัดเหนือแนวรับ 850 จุดได้อย่างมั่นคง และหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เดี๊ยนมั่นใจว่าดัชนีจะไต่ระดับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน860 จุดได้ในไม่ช้า

*ฉะนั้นการที่ช่วงเช้าดัชนีวิ่งขึ้นไปถึงระดับ 862.28 จุด แต่สุดท้ายอ่อนตัวลงมาปิดที่853.43 จุด บวกไปเพียง 0.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.80 หมื่นล้านบาทเท่ากับเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่า ตลาดหุ้นกำลังทดสอบแรงเทขายทำกำไรมีมากขนาดไหนนะค่ะ

*ที่สำคัญหากดัชนีสามารถยืนหยัดเหนือแนวรับดังกล่าวได้ตลอดทั้งสัปดาห์ ก็จะทำให้แนวรับบริเวณ 850 จุดกลายเป็นแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาไปในทันที ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสให้ดัชนีทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 900 จุดได้สะดวกโยธิน เพราะสามารถยกแนวรับใหม่ให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแข็งแกร่ง

*เดี๊ยนถึงไม่กังวลใจว่าหุ้นตัวไหนจะ over value เพราะท้ายที่สุดก็จะมีคนเข้ามารับหุ้นต่อกันเป็นทอดๆ หลังเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนอยู่ในทิศทางที่ดี"โมนิก้า" ถึงพยายามแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นทุกครั้งที่อ่อนตัวลงมา หลังเห็นราคาหุ้นมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปทำ new high นะซี

*ยิ่งช่วงนี้แบงก์ทางฝั่งอเมริกาเริ่มคลายความกังวลเรื่องซับไพร์ม เพราะมีการประกาศมูลค่าเงินลงทุนที่ได้รับผลกระทบที่แท้จริงให้แบงก์ทั่วโลกรับทราบกันโดยถ้วนหน้ายิ่งเป็นแรงผลักดันให้กองทุนต่างๆ นำเงินสดที่มีอยู่ในพอร์ตมาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปิดเขียวปี๋นะจะบอกให้

*สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นจริงๆ "โมนิก้า" ยังคงแนะนำให้เล่นหุ้นกลุ่ม PTTเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา หลังมีศักยภาพการทำธุรกิจเหนือกว่าหุ้นตัวอื่นๆ รวมทั้งมีโปรเจ็คทำเงินเข้าตัวบริษัทอีกหลายหมื่นล้านบาท หากไม่แนะนำให้ซื้อหุ้นตอนที่อ่อนตัวลงมาแล้วจะไปแนะนำตอนไหนมิทราบเจ้าค่ะ

*งานนี้ไม่ต้องถามถึงราคาเป้าหมาย หรือแนวรับให้เสียเวลา เพราะเท่าที่เดี๊ยนรวบรวมการถือหุ้นกลุ่ม ปตท. ในรอบ 1 เดือนเต็มๆ พบว่า ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนชนะดัชนีกันทั้งนั้นนะจ๊ะ

*ส่วนในรายของ SCC "โมนิก้า" มองว่าหุ้นควรจะปรับตัวขึ้นได้ตั้งนานแล้ว แต่ที่ผ่านมาติดที่กองทุนโยกเงินไปหุ้นกลุ่มพลังงานจนเพลิน ครั้นหุ้นกลุ่มพลังเริ่มอืดเป็นเรือเกลือจึงหันกลับมาลงทุนในหุ้นปูนใหญ่อีกครั้ง จนดันราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 272 บาท บวกไป 6บาท...หากถามว่าราคาหุ้นถึงจุดอิ่มตัวแล้วหรือยัง เดี๊ยนขอตอบว่าจริงๆ ราคาเป้าหมายควรอยู่สูงถึง 290 บาทนะจ๊ะ

*ไล่บี้กันมันหยดคงเป็นรายของ SCB และ KBANK เพราะรายแรกกระชากขึ้นมาปิดราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 82 บาท ขณะที่รายหลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ได้แค่ระดับ 83 บาทเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า แบงก์ตราใบโพธิ์กำลังจะวิ่งแซงแบงก์เคฮีโร่ ในไม่ช้านะจะบอกให้

*ส่วนจะเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน อันนี้ต้องติดตามดูกันเอาเอง เพราะแบ๊คกราวหุ้นเคฮีโร่มีภาษีดีกว่าเยอะ "โมนิก้า" ถึงไม่แน่ใจว่าหุ้นตราใบโพธิ์จะมีกำลังภายในดันราคาหุ้นขึ้นไปได้ไกลนะซี

*สำหรับน้องใหม่ไฟแรงอย่าง TNDT ช่วงเช้าแสดงความแข็งแกร่งด้วยการกระชากขึ้นมาถึงระดับ 6.95 บาท แต่พอตกบ่ายอ่อนตัวลงมาปิดที่ 6.60 บาท บวกไปแค่ 0.05บาท แสดงงานรุมโทรม เฮ้ย...งานเลี้ยงกำลังจะเลิก ใครยังออกของไม่หมดก็ระวังจะติดยอดดอย เพราะแท้ที่จริองหุ้นตัวนี้ไม่มีอะไรเป็นแบ๊คกราวป้องกันการอ่อนตัวลงมาเลยนะจ๊ะที่รัก

*เช่นเดียวกับในรายของ TUCC ช่วงเช้าอาศัยเฮียใหญ่มาดันก้น ราคาหุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 10.20 บาท แต่พออาเฮียเริ่มเบื่อและเตรียมไปซบอกหุ้นตัวอื่น ราคาหุ้นถึงกับทรุดตัวลงมาปิดที่ 9.75 บาท ลบไป 0.05 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นมันหมายความว่า กำลังมีคนต้องติดหุ้นยอดดอยอีกเยอะนะจ๊ะ

*ทางด้านหุ้น RASA กระชากขึ้นพรวดเดียว 9% หรือ บวกไป 0.60 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 7.20 บาท ดูผิวเผินน่าไล่ตามเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพิจารณาถึงสัญาณทางเทคนิค"โมนิก้า" ถึงกับต้องขอบายโดยด่วน หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาชนเส้นแนวต้านที่ 25 วันพอดี ทำให้โอกาสที่หุ้นจะไปต่อมีน้อยมากเจ้าค่ะ

*ก่อนจากกันกันขอตบท้ายกันที่ TDEX เนื่องจากใกล้ถึงวันครบรอบ 1 เดือนที่เปิดเทรดให้ซาบซึ้งใจเป็นการด่วน เนื่องจากคนที่จองซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าวรับทรัพย์กันกระเป๋ากันตุงเลยทีเดียว เพราะเมื่อคิดมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้หุ้นละ 5.68 บาท เมื่อกับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 6.31 บาท ฟาดกำไรเหนาะๆ ไปแล้วถึง 11% "โมนิก้า" ไม่พูดถึงก็คงเสียหน้าแย่เลย หลังเห็นกันจะๆ ว่าของเฮียสมจินต์ ศรไพศาล เขาดีจริงๆ

:lol: