May 14, 2024   5:12:30 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > แตกพาร์..?
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 09/10/2007 @ 10:18:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ช่วงนี้ มีบริษัทจดทะเบียนบางแห่งในตลาดหุ้นไทย ทำการแตกราคาพาร์ของหุ้นลงต่ำกว่า 1 บาท และหลายบริษัท ก็กำลังพิจารณากลยุทธ์การแตกพาร์ในลักษณะเดียวกันอีกเช่นกัน เป็นกระแสที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

การแตกพาร์ หรือ stock splitting เป็นกลยุทธ์สร้างมูลค่าผู้ถือหุ้นที่มิใช่เรื่องใหม่ แต่ในตลาดหุ้นทั่วโลก ใช้กันมายาวนานแล้ว เพียงแต่ไม่ได้กระทำกันเป็นล่ำเป็นสันบ่อยครั้งเท่านั้นทุกครั้งที่มีการแตกพาร์ ก็มักจะมีการตั้งคำถามตามมาเสมอว่า การแตกพาร์เป็นประโยชน์หรือโทษอย่างไรบ้าง
ผลการวิจัยและศึกษาส่วนใหญ่ มักจะลงความเห็นสอดคล้องกันว่า ผลเสียของการแตกพาร์นั้น แทบไม่มีเลย ส่วนข้อดีนั้น มีเพียบทีเดียว
ยกเว้นใน 2 กรณีเท่านั้นคือ 1) หุ้นที่คิดจะแตกพาร์นั้น มีราคาซื้อขายในตลาดใกล้เคียงกับราคาพาร์ 2) ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดล่วงหน้า อาจจะสร้างปัญหาได้สำหรับคนที่เล่นชอร์ตเซล หรือ short against port

เรื่องนี้ เมื่อสอบถามคณะผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นำโดยคุณภัทรียาเบญจพลชัย กรรมการผู้จัดการตลาดฯ ก็ได้รับคำตอบ และเอกสารการศึกษาล่าสุดเข้าพอดีที่ยืนยันว่า กลยุทธ์การแตกพาร์นั้น เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน ภายใต้เงื่อนไขว่า บริษัทที่คิดจะแตกพาร์นั้น จะต้องมีเหตุมีผล นั่นคือ ราคาหุ้นในตลาดเดิม สูงกว่าราคาพาร์มากเหลือเกินและหุ้นมีสภาพคล่องต่ำ
ผลการศึกษาของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดย อาจารย์ 2 คน ของภาคการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่ง?ข่าวหุ้นธุรกิจ?ใน หน้า 2 จะนำลงต่อเนื่องกันในสัปดาห์นี้ มีเนื้อหาน่าสนใจอย่างมาก
บทสรุป ของผลการศึกษาดังกล่าว กระทำการศึกษาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยระหว่างปี 2545-47 แล้วพบว่า ถึงแม้ทฤษฏีทางการเงินจะระบุว่า การแตกหุ้นไม่ควรจะมีผลต่อมูลค่าของหุ้น แต่หลักฐานที่การแตกหุ้นมีผลต่อการลดลงของผลกระทบต่อราคา (สภาพคล่องสูงขึ้น) และทำให้ระดับราคาสูงขึ้น (ราคาหลังปรับด้วยสัดส่วนการแตกหุ้น) และการที่สภาพคล่องดีขึ้นนั้นมาจากการ ลดลงของต้นทุนการซื้อขาย ไม่ใช่ปริมาณและมูลค่าของการซื้อขายหุ้น

งานวิจัยฉบับนี้ยังได้แสดงให้เห็นว่าการเลือกอัตราส่วนการแตกหุ้นที่สามารถจะทำให้ราคาหุ้นลงมาอยู่ที่ระดับที่พอใจของผู้ถือหุ้นแล้ว จะเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนให้สภาพคล่องและระดับราคาหุ้นดีขึ้น
การศึกษาข้างต้น สอดรับกับข้อสรุปทั่วไปก่อนหน้านี้อย่างเหมาะเจาะ และควรเผยแพร่ไปให้ทั่วถึงกัน
กลยุทธ์การแตกพาร์อย่างง่ายๆ มีคนเปรียบเอาไว้ว่า ก็เสมือนการแลกธนบัตร 100บาท กับเหรียญ 1 บาทนั่นเอง กล่าวคือ ไม่ได้ทำให้คนที่เคยถือธนบัตร ร่ำรวยขึ้นหรือยากจนลง เพียงแต่อาจจะมีเงินแยกย่อยให้สามารถจับจ่ายใช้สอยได้หลากหลายมากขึ้น
พูดอย่างนี้ อาจจะดูง่ายไป ความจริงแล้ว การแตกพาร์ คือ การที่บริษัทต้องการเพิ่มจำนวนหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดให้มากขึ้นโดยไม่ได้ส่งผลกระทบกับมูลค่าการตลาดหรือทรัพย์สินของบริษัท หรือต่อผลการดำเนินงานของบริษัท แต่ผู้ถือหุ้นจะถือใบหุ้นจำนวนมากขึ้น โดยที่ราคาหน้าใบหุ้นที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันมีราคาถูกลงทางจิตวิทยา

จากมุมมองของมาร์กซิสต์ การแตกพาร์ มีความหมายว่า มูลค่าใช้สอย หรือ useablevalue ของหุ้นบริษัท ยังเหมือนเดิมทุกประการ แต่ มูลค่าแลกเปลี่ยน หรือexchangeable value เปลี่ยนไปจากเดิม
การแตกพาร์ จึงมีส่วนทำให้สภาพคล่องของหุ้นดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกรณีของราคาหุ้นที่มีนักลงทุนนิยมซื้อขายกันมาก จนราคาหุ้นสูงเกินกวาราคาพาร์มากเกินขนาด และมีสภาพคล่องต่ำ
ในเชิงสัญญะ การแตกพาร์ ได้ทำให้ ราคาพาร์ (ซึ่งเป็นราคาที่ระบุไว้ว่าเป็นราคาที่จดทะเบียนเอาไว้)ลดความสำคัญลงไปอย่างเห็นได้ชัด และอนุญาตให้ผู้ถือหุ้น ต้องหันไปพิจารณามูลค่าของบริษัทที่แท้จริงได้จาก มูลค่าทางบัญชี หรือ บุ๊ค แวลลู หรือ ค่าพี/อี แทนซึ่งน่าจะเป็นผลดีกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะสะท้อนผลประกอบการที่แท้จริงของบริษัทออกมา

การแตกพาร์ สามารถกระทำได้หลายรูปแบบ และหลายอัตราส่วน เช่น จากหุ้นราคาพาร์ 100 บาท สามารถแตกเป็นราคาพาร์ 10 บาท ได้ 10 หุ้น หรือ อาจจะเป็นราคาพาร์ 5 บาท จำนวน 20 หุ้น หรือ ราคาพาร์ 1 บาท 100 หุ้น
มีการประมวลเหตุผลหลักในการแตกพาร์ที่เหมาะสมเอาไว้ดังนี้คือจิตวิทยาของนักลงทุน เพื่อป้องกันมิให้ราคาหุ้นที่ซื้อขายมีราคาสูงเกินขนาด จนนักลงทุนเบือนหน้าหนี และกลับลงมามีราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ซึ่งคำอธิบายนี้ เป็นตรรกะแบบมั่วนิ่มของนักลงทุน
ทำให้มีสภาพคล่องของหุ้นที่ซื้อขายสูงขึ้น ซึ่งผลพลอยได้คือ ราคาหุ้นจะไม่ปรับตัวลงตามจำนวนหุ้น ผลลัพธ์ท้ายที่สุดคือ จะทำให้มูลค่าซื้อขายหุ้นที่แตกพาร์สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น หากแตกพาร์จาก 10 เป็น 1 ราคาท้ายสุดจะมากกว่า 1 เสมอ

หากอธิบายด้วยทฤษฎีเกม การแตกพาร์คือการใช้ความไม่สมเหตุสมผลทางจิตวิทยามาเป็นประโยชน์กับราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหุ้นอย่างชาญฉลาด แบบเดียวกับเกมเผด็จการนั้นเอง
ยิ่งในปัจจุบันด้วยแล้ว การซื้อขายหุ้นจะกระทำผ่านอีเล็กทรอนิกส์มากกว่าในอดีต ยิ่งทำให้ต้นทุนของการแตกพาร์แทบจะไม่มีอะไรเลย มีก็แต่พอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนเก็งกำไรในตลาดหุ้นเท่านั้นเอง ที่จะทำให้กระเป๋าพองขึ้น หรือแฟบลงได้
ข่าวเรื่องการแตกพาร์ ก็เลยเป็นข่าวอีกประเภทหนึ่งที่นักลงทุนเก็งกำไรที่ชาญฉลาดในตลาดหุ้น ต้องคอยเงี่ยหูฟังอยู่เสมอ แล้วเอามาสร้างความได้เปรียบในการลงทุนในทางกลับกัน คนที่เสียเปรียบในการเก็งกำไรพลาด ก็ต้องมีเป็นเงาตามตัวไปด้วย

ข่าวหุ้น[/size:85ec00f8c7">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com