May 14, 2024   2:02:28 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปีหน้าหุ้นพุ่งพันจุด จริงหรือ...
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 10/10/2007 @ 10:14:15
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยฟันธงต้นปีหน้าดัชนีแตะ 1,000 จุด หลังได้รัฐบาลชุดใหม่ เชื่อเงินทุนนอกยังไหลเข้าตลาดเอเชีย และตลาดเกิดใหม่ต่อเนื่องเพราะผลตอบแทนสูง ส่วนนักวิชาการทำนายเศรษฐกิจปีนี้โต 4-4.5% คาดวันนี้กนง.คงดอกเบี้ย 3.25% จี้รัฐเร่งอัดฉีดเมกะโปรเจ็กต์กระตุ้นลงทุนเพราะเอกชนอ่อนแรง

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซียพลัส จำกัด(มหาชน) ASP และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยต้นปีหน้าภายหลังเลือกตั้งมีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,000 จุด โดยคาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่า 10%ขึ้นไป ซึ่งหลังจากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่เรียบร้อยแล้ว จะช่วยขจัดความอ่อนไหวจากสถานการณ์การเมืองที่กดดันตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้

นอกจากนี้ จำนวนหุ้นกว่าครึ่งในตลาดหุ้นไทยเกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาอ้างอิงตลาดโลก จึงคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศมากนัก ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวได้รวดเร็ว อีกทั้ง แนวโน้มที่เงินทุนจะเคลื่อนย้ายมายังตลาดเอเชียในปีหน้ามีมากขึ้นเพราะตลาดหุ้นเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนสูง อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยอีกเพื่อแก้ปัญหาซับไพรม์ จะส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในเอเชียมากขึ้น และหนุนตลาดหุ้นในเอเชียมีโอกาสขยับสูงขึ้น

สำหรับปัญหาซับไพรม์ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป เห็นได้จากธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลกที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศประเภท CDO ที่เกี่ยวข้องกับซับไพรม์ได้รับความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท แต่การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งล่าสุดเพื่อแก้ไขปัญหาซับไพรม์สะท้อนให้เห็นว่าประธานเฟดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจมากขึ้น

ส่วนปีนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกขยายตัว 30-50% โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนสูงขึ้นจากปีก่อนถึง 200% ตลาดหุ้นไทยเติบโต 20% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ดี แม้ว่าต้นทุนพลังงานอยู่ระดับสูง แต่รัฐบาลในแต่ละประเทศสามารถดูแลจัดการเงินเฟ้อไม่ให้สูงมาก ทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง โดยเฉพาะสหรัฐ

ด้านนายสมภพ มานะรังสรรค์ คณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจส่วนรวม กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะปัจจัยการเมืองที่เป็นปัจจัยเสี่ยง แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคใดจะมีโอกาสเข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หรือเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคหรือไม่ ซึ่งจะส่งต่อการกำหนดนโยบายด้านต่าง ๆ

ส่วนการที่ผู้ประกอบการเอกชนเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้า ทำให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้นการลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่ช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก จึงคาดว่าโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีน้อยลง รัฐบาลต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นมาทดแทน เช่น เร่งการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์เพื่อเป็นหลักกระตุ้นการลงทุนเนื่องจากการลงทุนของเอกชนยังอ่อนแรงในระยะ 2-3 ปีจากนี้
ทั้งนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยทั้งปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 4.0-4.5% เนื่องจากส่งออกช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีน่าจะขยายตัวได้ดี แต่ปีหน้าอาจจะขยายตัวได้ขั้นต่ำ 4%

ทันหุ้น[/size:7bcb7a1e07">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com