*"โมนิก้า" พูดไม่ทันขาดคำดัชนีก็เหินทะยานขึ้นมาทำจุดสูงสุดในรอบ -- ปี ที่ระดับ 875.10 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นถึง 2.77 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดีปรีดาสำหรับคนที่มีหุ้นบลูชิพติดพอร์ตไว้เป็นจำนวนมาก เพราะแค่ถือหุ้นไว้สัปดาห์เดียวผลกำไรงอกเงยถึง 5-10% เชียวน่า

*ยิ่งมีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เท่ากับเป็นแรงขับเคลื่อนให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปท new high ได้อีกในไม่ช้า และถ้าดูตามรูปการณ์ตอนนี้ดัชนีคงยังไม่ลดความร้อนแรงหรอกค่ะ

*เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศก็เป็นใจ แถมได้ข่าวผลประกอบการเป็นแรงสนับสนุนและยังได้เสียงจากโบรกเกอร์จากสำนักต่างๆ เชียร์ให้ซื้อหุ้นกันสุดใจขาดดิ้นแบบนี้ ดัชนีจะอ่อนตัวลงไปได้อย่างไรกัน "โมนิก้า" ถึงไม่มีความจำเป็นต้องแนะนำให้นักลงทุนเทขายเอากำไรมานอนกอดนะซี

*ครั้นเดี๊ยนชำเลืองมองสัญญาณทางเทคนิคถึงร้องเสียงหลง แถมยังต้องครางซี๊ดซ๊าดไม่ขาดปาก เพราะสัญญาณทางเทคนิคฟ้องว่าหุ้นเข้าเขตซื้อมากเกินไปมาหลายวันแล้ว โอกาสที่หุ้นจะกระชากขึ้นแรงๆ เหมือนวันก่อนคงไม่มีให้เห็นอีกแล้ว...เนื่องจากหลังจากนี้จะมีแรงเทขายทำกำไรทยอยออกมาเป็นระยะ

*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นที่ขึ้นแรงวันก่อนอาจไปต่อไม่ไหว ยกเว้นหุ้นกลุ่มพลังงานกลุ่มเดินเรือ และกลุ่มปิโตรเคมี เพราะหุ้นเหล่านี้ยังมีแก๊ปราคาให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อได้ไม่อั้น...ที่สำคัญหากซื้อหุ้นในกระดานยังไม่สะใจ ก็สามารถซื้อหุ้นผ่านทาง NVDRได้ไม่อั้นอีกนะค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของ BANPU "โมนิก้า" ไปพลิกหาสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงติดต่อกันหลายวัน จนได้คำตอบที่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่า นักลงทุนต่างชาติเข้ามาไล่ซื้อหุ้นผ่านช่องทาง NVDR เหมือนที่คาดคิดไว้ทุกประการแบบนี้ เดี๊ยนคิดว่าราคาหุ้นคงไม่อ่อนตัวลงมาง่ายๆ เพราะราคาปิดที่ 392 บาท บวกไป 28 บาท ไม่แพงเกินไปในสายตานักลงทุนต่างชาติหรอกค่ะ

*แถมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันว่า วอลุ่มเทรดหุ้นในแต่ละวันกว่า 60-70% มาจากกระดาน NVDR เท่ากับเป็นการยอมรับโดยดุษฎีว่า ฝรั่งหัวทองเป็นคนเข้ามาทำราคาราคาหุ้นถึงพุ่งทะยานไม่หยุด...ยิ่งมีการหยิบตัวเลขหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ถ่านหินระดับโลกซื้อขายกันที่ค่า P/E ระดับ 30 เท่า ขณะที่หุ้นตัวนี้ซื้อขายที่ค่า P/E ระดับ 20 เท่า ยิ่งเป็นแรงหนุนให้หุ้นทะยานขึ้นไปอีกนะจ๊ะ

*เมื่อกระแสหุ้นถ่านหินมาแรงสุดๆ LANNA ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบริษัทถ่านหินชั้นนำของประเทศ ก็พลอยได้รับอนิสงส์ผลบุญครั้งนี้เต็มๆ กับเขาด้วย ราคาหุ้นถึงพุ่งทะยานขึ้นมายืนถึงระดับ 19.90 บาท บวกไป 1.10 บาท พร้อมกับขึ้นมาติดในกระดาน Most Activeถือเป็นการส่งสัญญาณให้ขาประจำรู้ว่า ขาขึ้นรอบใหม่กำลังเกิดขึ้นแล้วนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับบ้านปูน้อย UMS อาศัยความได้เปรียบเป็นหุ้นขนาดเล็ก ราคาย่อมเยาว์ นักลงทุนกลุ่มต่างๆ ก็เลยสมานฉันท์ในลักษณะร่วมด้วยช่วยกันเสียว ดันราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 33.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไปเกือบ 6% อย่างรวดเร็ว...เดี๊ยนสงสัยราคาหุ้นจะแรลลี่ยาวถึง 40 บาทเหมือนที่ข่าวหุ้นพาดหัวหน้า 1 ไปเมื่อวันจันทร์

*สำหรับในรายของ TTA เห็นๆ กันว่า มีข่าวดีรองรับเต็มลำเรือ ราคาหุ้นถึงกระชากขึ้นทำ new high นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยและหากถามว่าราคาหุ้นจะหยุดขึ้นเมื่อไหร่ ก็ขอตอบว่าอีกนาน เพราะเม็ดเงินของนักลงทุนต่างชาติยังไหลเข้ามาไม่ขาดสาย วานนี้หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 64 บาท บวกไป 5 บาท หรือขึ้นไปถึง 8% อย่างง่ายดายพะยะค่ะ

*ส่วนดาวเด่นแห่งวงการปิโตรเคมีต้องยกให้ PTTCH แม้ช่วงนี้จะอยู่ในระหว่างย่ำฐาน ทดสอบแรงเทขายให้สะเด็ดเสียก่อน แต่โดยรวมทิศทางของหุ้นก็ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นเหมือนเดิมทุกประการ "โมนิก้า" ถึงกล้าแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะช้อนซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมาไงหล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ TRUE เดือนก่อนอาจเห็นราคาหุ้นย่ำต๊อกต๋อยไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แต่เผลอแป๊บเดียวราคาหุ้นพุ่งชึ้นมาปิดที่ 7.70 บาท บวกไป 0.35 บาทพร้อมกับวิ่งทะลุเส้นแนวต้านสำคัญได้หมดทุกแนวแบบนี้ "โมนิก้า" บอกได้คำเดียวว่า เลิศสะแมนแต๋นสุดๆ

*KGI กลายเป็นหุ้นม้ามืดที่ควรจับตามากสุด เพราะมักฉวยโอกาสปรับตัวขึ้นแรงทุกครั้งที่ภาวะการลงทุนคึกคัก "โมนิก้า" ถึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.10บาท บวกไป 0.14 บาทอย่างง่ายดาย เพราะขนาด KEST ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ยังกระชากขึ้นมาปิดที่ 27 บาท บวกไป 1.25 บาทได้เลย...แล้วหุ้นโบรกเกอร์ตัวอื่นๆ จะไม่ขึ้นตามได้อย่างไรกัน

*ก่อนจากกันขอตบท้ายกันที่ RICH เผลอแป๊บเดียวผู้บริหารโอนหุ้นออกไปให้คนอื่นอีกแล้ว และที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้มาหลายเสียด้วย "โมนิก้า" จึงอยากเตือนว่า ทำอะไรไว้อย่านึกว่าเดี๊ยนไม่รู้นะ เพราะคำพังเพยโบราณที่ว่า หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ยังใช้ได้ดีเจ้าค่ะ...อิอิอิ


:lol: