*การที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงไปบ้างเล็กน้อยหลังจากปรับตัวขึ้นมามาก "โมนิก้า" ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พบเห็นได้เป็นประจำ เพราะดัชนีต้องผ่านการทดสอบแรงเทขายเสียก่อน ถึงจะมีสิทธิ์กระชากขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม...ในระหว่างนี้ถึงต้องลุ้นกันว่า สัปดาห์นี้จะมีวิ่งโอกาสทะลุแนวต้าน 900 จุดไหมเอ่ย

*เนื่องจากก่อนหน้านี้ดัชนีก็ไม่สามารถทะลุแนวต้าน 895 จุดขึ้นไปได้ "โมนิก้า" ถึงต้องการให้นักลงทุนติดตามดูภาวะการลงทุนอย่างกระชั้นชิด เพราะเผลอแป๊บเดียวราคาหุ้นตัวนั้น ตัวนี้ ก็กระชากขึ้นไปทำ new high อย่างรวดเร็ว...เดี๊ยนถึงไม่ต้องการให้มิตรรักแฟน "ข่าวหุ้น" ตกขบวนรถด่วนเที่ยสำคัญ

*คิดดูแล้วกันว่า เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติยังไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยไม่ขาดสาย มันก็น่าจะทำให้ดัชนีทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 900 จุดอีกครั้ง...ส่วนจะผ่านไปได้หรือไม่ได้ อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...แต่ในระหว่างนี้นักลงทุนมีหน้าที่หาทางทำกำไรให้ได้ทุกวิถีทาง ก็ควรเลือกเฟ้นหุ้นที่จะลงทุนได้แล้วหล่ะ

*หากไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นตัวไหนดี "โมนิก้า" ขอแนะนำให้นักลงทุนลองไปสัมผัสกลิ่นไอของตลาดหุ้นอนุพันธ์ดูบ้าง เพราะสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลง แถมยังจำกัดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี หากรู้จักวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง...อิอิอิ

*สัปดาห์ที่ผ่านมา "โมนิก้า" ถึงเห็นนักลงทุนที่เข้าเล่น TFEX รวยกันอื้อซ่าเพราะตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีบวกขึ้นมาถึง 30 จุด และการเปลี่ยนแปลงของดัชนี 1 จุดมีมูลค่า 1,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมเบ็ดเสร็จคนเข้ามาเล่นฟาดกำไรเข้ากระเป๋าไปถึง 30,000 บาทต่อ 1 สัญญาโดยใช้เงินลงทุนแค่ 50,000 บาท...น่าสนไหมหล่ะ

*ยิ่งได้กูรูสำนักต่างๆ ออกมาฟันธงฉับว่า ตลาดอนุพันธ์ของไทย น่าลงทุนอย่างมากเพราะการซื้อขายเริ่มมีสภาพคล่องมากขึ้น จึงมีการนำเงินก้อนใหม่เข้ามาลงทุนในตลาดอนุพันธ์มากขึ้น เพราะสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลง...เหตุไฉนถึงต้องจำเจกับการลงทุนรูปแบบเดิมๆ ด้วยเล่า

*แรงสุดๆ ต้องยกใหญ่ PTT เพราะเป็นหุ้นบลูชิพเพียงไม่กี่ตัวที่สามารถกระชากขึ้นสวนกระแสขาลงได้อย่างแข็งแกร่ง อีกทั้ง "โมนิก้า" ก็ปลื้มฝีมือการบริหารงานของเฮียประเสริฐ บุญสัมพันธ์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงมองว่าราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 352 บาทบวกไป 4 บาท ไม่แพงเกินไปหรอกค่ะ

*เหมือนกับในรายของ PTTEP พอสบช่องได้โอกาสวิ่ง ก็วิ่งจนฝุ่นตลบเลยหล่ะยิ่งวันศุกร์แหวกกระแสแรงเทขายทำกำไรขึ้นมาปิดที่ 158 บาท บวกไป 7 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 2.47 พันล้านบาท ยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องอิดออดรออะไรอีกต่อไปเพราะเทรนด์ของหุ้นเป็นขาขึ้นอย่างบูรณาการแล้วเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ BANPU พอหมดแรงเก็งกำไรจากฝรั่งหัวทองที่ผสมโรงกับฝรั่งหัวดำ ราคาหุ้นก็รูดไถลลงเรื่อยๆ แม้ในระหว่างวันจะพยายามยื้อไม่ให้อ่อนตัวลงไปอีก แต่สุดท้ายก็ต้านทานแรงเทขายที่มีออกมาตลอดทั้งวันไม่ได้ ราคาหุ้นก็เลยอ่อนตัวลงมาปิดที่ 396บาท ลบไป 16 บาทเจ้าค่ะ

*หากถามว่าราคาหุ้นมีโอกาสดีดตัวขึ้นไปอีกรอบไหม เดี๊ยนขอตอบว่ามีแน่นอน แต่ที่วิ่งขึ้นได้ก็เป็นผลมาจากการปั่นราคา ไม่ใช่โครงสร้างทางด้านพื้นฐานเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญนะจะบอกให้

*เมื่อหุ้นใหญ่ๆ หมดพลังลมปราณ หุ้นเล็กๆ ที่มีข่าวดีรองรับเต็มดกดัง จึงได้โอกาสขึ้นมาเฉิดฉายในกระดาน Most Active อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในรายของ LANNAอาศัยมีเรื่องราคาถ่านหินค้ำยัน ผนวกกับราคาหุ้นถูกที่สุดในกลุ่มนี้(เดี๊ยนเคยพูดไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน) หุ้นถึงกระชากขึ้นมาปิดที่ 21.50 บาท บวกไป 0.50 บาทเท่านั้นเองซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะหากบรรยากาสเป็นใจสักหน่อย ราคาหุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อแน่นอน

*ทางด้าน SAM ทะยานขึ้นมาปิดที่ 8.50 บาท บวกไป 0.45 บาท มองจากมุมไหนด้านไหน "โมนิก้า" ก็คิดว่าเป็นการปั่นราคาของคนบางกลุ่มอยู่วันยันค่ำ เพราะฐานะทางการเงินไม่ซับพอร์ตการทะยานขึ้นเลยแม้แต่น้อย แถมประวัติเก่าๆ ก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก "โมนิก้า" ถึงไม่แน่ใจว่าหุ้นจะไปต่อได้...แต่ถ้านักลงทุนคิดว่า หุ้นจะไปต่อหล่ะก้อ ก็เชิญลุยกันตามสบายได้ เพราะเดี๊ยนไม่อยากโดนกล่าวหาว่า ยุ่งกับเงินของคนอื่นมากเกินไปนะซี

*สำหรับ MIDA ที่มีอาการถอดใจ และยอมขายหุ้นที่ลงทุนคืนเจ้าของหมดเกลี้ยงแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า ไม่อยากตอบคำถามตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะหลักฐานหลายๆอย่างกระชั้นตัวเข้ามามากทุกที การตัดใจขายหุ้นออกไปทั้งหมดจึงเป็นทางรอดเดียวที่ไม่มีทางสาวมาถึงตัวเฮียกมล

*ส่วนข่าวดังกล่าวจะจริงเท็จประการใดไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ เจ๊สุธาสินี ออกมาพูดเสียงดังฟังชัดว่า ขายหุ้นคืนนั้นเรื่องหนึ่ง ส่วนความผิดเรื่องปลอมแปลงเอกสารไม่สามารถยอมความกันได้ เพราะเจ๊แกต้องการลากคอ CFO ของ บ.ไมด้า มาขึ้นศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง...ทราบแล้วเปลี่ยน

*ตบท้ายกันที่ดีลเพิ่มทุนของ TMB ว่ากันว่า หากตัวธนาคารไม่ตั้งสำรอง 3 หมื่นล้านบาทตามที่ ไอเอ็นจีฯ ต้องการหล่ะก้อ...สงสัยสัปดาห์นี้อาจมีการล้มโต๊ะเจรจากันแน่ๆเพราะมันไม่เป็นไปตามที่คุยกันไว้เบื้องต้น ซึ่งจะทำให้การประชุมบอร์ดวันที่ 18 ต.ค.ร้อนระอุขึ้นมาทันทีนะจะบอกให้


:lol: