May 14, 2024   1:00:14 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเศรษฐี...VS?หุ้นวณิพก ?
 

konthai
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 55
วันที่: 15/10/2007 @ 13:21:58
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นักลงทุนส่วนหนึ่งอาจจะตั้งกฎให้กับตัวเองเมื่อลงทุนในตลาดหุ้น ทั้งนี้เพราะหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่หุ้นบริษัทที่มีผลประกอบการชั้นนำ จนถึงหุ้นประเภท ผลประกอบการ ?ขาดทุนแบบถาวร? แต่ทั้งนี้ไม่ได้เปรียบเทียบว่าหุ้นขนาดเล็กส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นประเภท ?วณิพก? แบบถาวร เพราะตัวแปรดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ หากผลการดำเนินงานดี พฤติกรรมการลงทุนน่าติดตามก็กลาย ?หุ้นที่น่าสนใจ? สำหรับนักลงทุน

พฤติกรรมการซื้อขายของหุ้นชนิดใดเรียกว่า ?หุ้นเศรษฐี? คงต้องยอมรับว่า ?ราคาหุ้นขึ้นได้ด้วยเงิน และความเชื่อมั่น? แต่หากมีแต่ความเชื่อมั่นอย่างเดียวแต่ไม่ใส่เงินเข้าไปลงทุนก็สะท้อนว่า เป็นเรื่องที่ ?ผิดคาด? เพราะหุ้นคงไม่ขึ้น ปริมาณการซื้อขายก็ต่ำ ซื้อง่าย ขายยาก แต่หากตรงกันข้าม หุ้นซื้อง่ายขายคล่อง ซื้อขายกันไม้ละแสน ไม้ละล้านก็แสดงว่า คนที่อยู่เบื้องหลังกิจกรรมดังกล่าว มีอำนาจทางการเงินสนับสนุน นี่คือที่มาของหุ้นเศรษฐี

ในทางกลับกัน หุ้นตัวใดซื้อขายกันราคากว่าจะผ่านแต่ละช่อง กว่าจะกินกันได้ ?หืดขึ้นคอ?บางตัวตั้งกันข้ามวันข้ามสัปดาห์ยังขายไม่ได้ ราคาหุ้นก็ย่ำอยู่กับที่ ใช่เลย หุ้น ?วณิพก? ที่แปลว่าเล่นหุ้นยังกับ ?ขอทาน? ซึ่งหากวิเคราะห์ย้อนถึงพฤติกรรมของผู้ที่อยู่เบื้องหลังหุ้นเหล่านั้นก็คงบอกได้ว่า ?ไม่น่าสนใจ? เพราะเป็นหุ้นประเภท ?ขี้เกียจ? ไม่ค่อยเคลื่อนไหวและหรืออยู่เฉย ๆ นาน ๆ ครั้งอาจจะมีใครมายกเล่น แต่ก็อาจจะเจอแรงขายอย่างรุนแรงอะไรประมาณนั้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ ?นิยาม? เหล่านี้มาประกอบกับหลักทรัพย์ที่เราถือครองอยู่ว่าจัดอยู่ในหุ้นประเภทใด

หากนักลงทุนโชคดี เล่นหุ้นประเภท ?เศรษฐีเล่น? หรือ ?เจ้าบุญทุ่มเล่น? ก็มีโอกาสเห็นพฤติกรรมที่ซื้อขายกันที่สนุก ตื่นเต้นเร้าใจ แต่หากไปเจอกับหุ้นประเภทตรงกันข้ามก็มีทางเลือกแค่ไม่กี่อย่าง เช่น ทนถือหากคิดว่าแนวโน้มดี มีอนาคต หรือไม่ก็ต้องขายคืนเขาไป และหาตัวเลือกใหม่ที่ดีกว่า เพราะการกล้าตัดสินใจดังกล่าวนั้นทำให้เงินที่ซื้อหุ้นนั้นไม่กลายเป็น ?หุ้น NPL? ซึ่งหมายความว่าหุ้นไม่ทำกำไร หรือไม่สร้างผลตอบแทนซึ่งควรจะต้อง ?จัดการ? อย่างใดอย่างหนึ่งเพราะเก็บไว้อาจจะสร้างปัญหาระยะยาวได้ เพราะนอกจากทำให้ ?เสียเวลาแล้ว ยังเสียเงินอีกต่างหาก? หากถือหุ้นประเภทนี้นานเป็นปี ๆ แต่ไม่ได้ผลตอบแทนก็คงเป็นเรื่องน่าเศร้าพอสมควร เพราะเหลือไม่ถึง 3 เดือนจะสิ้นปีแล้วครับ

ตัวอย่างหุ้นที่พฤติกรรมการซื้อขายเข้าข่ายที่ผู้อยู่เบื้องหลังการซื้อ หรือการขายประเภท หุ้นเศรษฐี เช่น PTT PTTEP BANPU ATC BBL SCB KABNK LH TRUE TPIPL SCC ซึ่งหุ้นเหล่านี้การซื้อขายแต่ละครั้งแม้ว่าจำนวนหุ้นต่ำแต่ใช้เงินทุนค่อนข้างสูง เช่น หากซื้อ PTT จำนวน 10,000 หุ้นก็อาจจะต้องใช้เงินถึง 3 ล้านบาท หากยกกันเป็นแสนหุ้นนั้น ก็ต้องใช้เงินถึง 33 ล้านบาท หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับราคาตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจะสะท้อนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังกิจกรรมเป็นใคร เงินหนาขนาดไหน พฤติกรรมเป็นอย่างไร เช่น เล่นช้า เล่นเร็ว

ส่วนหุ้นที่ตรงกันข้ามนั้น หากสังเกตพฤติกรรมการซื้อขายจะเห็นภาพว่าราคาหุ้นนิ่งอยู่กับที่ ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่วันดี คืนดีอาจจะมีมวลชนเข้ามาเก็งกำไร หรืออาจจะต้องอาศัย ?ตัวช่วย? เช่น บรรยากาศที่ดี หรือภาวะตลาดเป็นกระทิงอย่างรุนแรงจึงขับเคลื่อนราคาหุ้นเหล่านี้ได้ ตัวอย่างหุ้นที่เข้าข่าย ?รับประทานยาก? แบบภาษาชาวบ้าน เช่น TMB BT JAS GSTEEL SSI BSBM NSM BLAND JTS N-PARK EPCO SUSCO เป็นต้น แต่ก็มีเหมือนกันว่าบางครั้งมีการหยิบยกหุ้นเหล่านี้มาประเภทมีข่าว หรือมีนักลงทุนรายใหญ่เกิดเงินเหลือเข้ามาเก็งกำไรในภาวะที่ตลาดหุ้นดี ๆ อาจจะทำให้ราคาหุ้นเหล่านี้พุ่งปรี๊ดขึ้นมาได้บ้าง ดังนั้นหากคิดจะเก็งกำไรหุ้นประเภทนี้ อาจจะต้องพิจารณาตัวช่วยและบรรยากาศการลงทุนเป็นหลัก แต่หากเป็นหุ้นกลุ่มแรก นักลงทุนเพียงแค่จับจังหวะเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ดีก็ตีตั๋วเข้าลงทุนไดแบบไม่ต้องห่วงพฤติกรรมแปลก ๆ ของเจ้าภาพหุ้นเหล่านี้

TCAP หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินแนวโน้มเริ่มน่าสนใจ แถมมีเงินปันผลรออีกหุ้นละ 0.30 บาท ซึ่งปกติมักจะจัดอยู่ในหุ้นเกรดลงทุน และมักเป็นเป้าหมายสำหรับนักลงทุนประเภทเน้นการลงทุนเป็นรอบ ๆ หรือตามสภาพตลาดกรอบการลงทุนในไตรมาส 4 คาดว่าราคาน่าจะแกว่งตัวระหว่าง 15.20 ? 17 บาท

RACTH หุ้นกลุ่มพลังงานประเภทผลิตไฟฟ้าซึ่งผลประกอบการค่อนข้างสม่ำเสมอไม่หวือหวาเหมาะสำหรับการลงทุน และเน้นผลตอบแทนระยะกลางถึงระยะยาว แนวโน้มยังเป็นแนวโน้มขึ้นโดยกรอบการลงทุน 46 ? 54 บาท แต่ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทซื้อเร็วขายเร็ว

LH หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เกรดลงทุนสภาพคล่องค่อนข้างดี แต่การเคลื่อนไหวของราคาอาจจะไม่หวือหวานัก แนวโน้มระยะสั้นเริ่มเป็นแนวโน้มกระทิง แต่ยังตีกรอบการซื้อขายแคบ ๆ ระหว่าง 7 ? 8 บาท (แสดงความคิดเห็น Email : cnantawat@yahoo.com )

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com