ช่วงนี้ภาวะตลาดหุ้นไทย นอกเหนือไปจากการให้น้ำหนักอยู่ที่หุ้นพลังงานแล้ว หุ้นกลุ่มแบงก์ถือว่าน่าจับมองเช่นกัน เพราะโบรกเกอร์หลายสำนักประเมินว่าตัวเลขกำไร Q3 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเกือบทุกแห่ง ประเดิมจาก KBANK เพิ่มขึ้นกว่า 10.39%

:ITDพลิกขาดทุนเป็นกำไร
หุ้น ITD ปีนี้แนวโน้มพลิกกำไร 1,010 ล้านบาท ไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากปีก่อนขาดทุนสุทธิ 2,145 ล้านบาทหลังจาก ITD เน้นลูกค้าภาครัฐค่อนข้างมากแต่ช่วงที่ผ่านมา งานภาครัฐบาลค่อนข้างน้อยและไม่มีความแน่นอน ทำให้มีกำไรค่อนข้างน้อย
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนซื้อเก็งกำไร เพราะราคาหุ้นค่อนข้างสูง นักลงทุนส่วนใหญ่เข้ามาเก็งกำไรตามประเด็นข่าวต่างๆ ส่วนราคาเหมาะสมปีหน้า 7 บาท
ปัจจัยเกื้อหนุนอยู่ที่วันนี้(16ต.ค.)ครม.จะพิจารณาโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนแบบราง (รถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต) ที่เป็นผลดีต่อบริษัรับเหมาทั้งระบบ แต่อาจส่งผลดีต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นๆต่อราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อหุ้นเพื่อรับข่าวไปบ้างส่วนแล้ว จึงอาจทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นได้ไม่มากนัก

:CKดูด้อยกว่าอิตัลไทย
หุ้น CK แนะนำถือลงทุน แม้ว่า CK ดูด้อยเมื่อเทียบ ITD แต่ได้รับผลดีจากการที่มีกำไรจากรายการพิเศษช่วงครึ่งปีแรก โดยประมาณการกำไรปกติไว้ 338 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1,212 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับงานโครงการใหม่ๆค่อนข้างน้อยจึงทำให้ปีหน้างานอาจชะลอตัวต่อเนื่องจากปีนี้ก็เป็นได้เช่นกัน
โดยยังไม่ได้ประเมินกำไรปีหน้า เนื่องจากต้องรอดูว่าจะมีงานโครงการใหม่ๆเข้ามาอีกหรือไม่ และงานที่อาจประมูลได้จะสามารถทำกำไรให้ได้มากน้อยเพียงใดและให้ราคาเหมาะสมปีหน้า 10.15 บาท
...ทำให้หุ้น CK เหมาะกับการถือลงทุนไว้ก่อน...

:PTTEPใกล้แนวต้าน170บาท
หุ้น PTTEP ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงต่อเนื่องจากสถิติ 6วัน(5ต.ค.ปิด 133 บาท)จากนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจนล่าสุด 168 บาท เพิ่มขึ้น 35 บาทหรือ 26.31% นัยสำคัญมาจากปัจจัยราคาน้ำปรับปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดีการปรับขึ้นมาถือว่าเข้าเขตขายแล้ว ที่สำคัญ PTTEP มีความเสี่ยงที่น่าเป็นห่วง คือปัญหาภายในประเทศพม่า อาจกระทบต่อธุรกิจก๊าซธรรมชาติ หลังรัฐบาลไทยถูกบีบให้แสดงท่าทีแข็งกร้าวกับพม่า
ดังนั้นจึงแนะนำขายทำกำไร หลังจากราคาปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน 168-170 บาทแล้ว ส่วนแนวรับ 155 บาท

:BSECปรับเพิ่มเป้าหมาย
หุ้น BSEC ตัวเลขกำไร Q3 อยู่ที่ 64.41 ล้านบาทเพิ่มขึ้นกว่า 57.35% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนกำไร 40.94 ล้านบาท ส่งผลราคาหุ้น BSEC มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับข่าวดี เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นผลประกอบการที่ดีขึ้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ BSEC มีกำไร มาจากค่าหน้านายที่เพิ่มขึ้นจากมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นและแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 น่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยปีที่แล้วอยู่ที่ 15,700 ล้านบาทต่อวัน แต่คาดว่าปีนี้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยจะอยู่ที่20,000 ล้านบาทต่อวัน

หากไม่มีข่าวลบมาทำลายบรรยากาศการลงทุน ประกอบกับเป็นช่วงการเลือกตั้งน่าจะส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 24,000-25,000 ล้านบาทต่อวันได้และหากมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้น ทำให้ BSEC มีรายได้เพิ่มขึ้นตามด้วย

พร้อมกันนี้ประมาณการกำไรเดิมปีนี้อยู่ที่ 207 ล้านบาท ลดลงจากกำไรก่อนซึ่งอยู่ที่247 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อน BSEC มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 3.6% โดยปีนี้อยู่ที่ 3.4-3.5%ประกอบกับรายได้จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายพนักงานปรับเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 30%

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้นักลงทุน"ถือหรือเทขายทำกำไร"ประเมินแนวรับ 4.60บาทและแนวต้าน 4.72 บาท