Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 19/10/2007 @ 11:11:43 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ที่มา : วีระชัย ครองสามสี
หัวคอลัมน์ : ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อนแย่งกันซื้อ
ดูบรรยากาศการลงทุนแล้วต้องบอกว่าเข้าสู่แนวโน้มปรับฐาน! ภายหลังหุ้นบิ๊กแคปหลายๆ ตัวมีแรงเทขายทำกำไรต่อเนื่อง ซึ่งกดดันให้ตลาดหุ้นเกิดปรับฐานสั้นๆ อย่างน้อย 1 วัน หรือ 2 วันในลักษณะทรงตัวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานราคาให้แข็งแกร่ง ก่อนจะดีดตัวขึ้นรอบใหม่ที่มีเป้าหมาย 920 จุด ผมยังเน้นย้ำเป็นการสร้างฐานช่วงสั้นๆ เท่านั้น ฉะนั้นในช่วงหุ้นขนาดใหญ่ปรับฐานก็ควรหาโอกาสทยอยเข้าซื้อสะสมเก็บเล็กผสมน้อยแบบไม่ต้องรีบร้อน หุ้นกลุ่มหลัก เช่น ธนาคารพาณิชย์ รับเหมาก่อสร้าง ขนส่งเดินเรือ พลังงาน และปิโตรเคมี แต่ถ้าซื้อเก็งกำไรไม่ควรมองข้ามหลักทรัพย์ เช่น KEST BLS ASP BSEC KGIเป็นต้น ขอพูดถึงผลพวงนโนบายควบคุมเงินทุนไหลเข้าของประเทศอินเดียซักหน่อย แฟนๆ ฟันธงมาเนีย ไม่ควรใส่ใจมากนัก เพราะจะทำให้เกิดความกังวลมันจะเป็นอย่างนั้นหรือมันจะเป็นหยั่งเงี้ยะ ผมตอบได้เลยไม่มีผลกระทบ แต่กลับจะเป็นผลดีอีกต่างหาก เพราะจะได้มีเงินไหลออกจากอินเดียเข้ามาในประเทศอื่นแทน เหมือนกรณี ธปท. ประกาศสกัดกั้นเงินทุนไหลเข้า โดยการกันสำรอง 30% ปรากฎว่าตลาดหุ้นไทยดิ่งลงวินาศสันตะโร แต่ประเทศอื่นๆ เขาวิ่งกระจาย
เนื่องจากมีเงินไหลออกจากไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ตลาดหุ้นกลุ่ม TIP อย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ทิ้งห่างบ้านเราหลายเท่าตัว ซึ่งสมัยเกิดวิกฤตปี 40 ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือแม้กระทั้งเกาหลีใต้ ดัชนีฯ เคยเท่าๆ กันอยู่เลย แต่เดี๋ยวนี้! ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ KS11 อยู่ที่ 2005 จุด ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย JKSE อยู่ที่ 2643 จุด ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ PHCOMP อยู่ที่ 3770 จุดไปแล้ว ไม่อยากพูดถึงเลย พูดเมื่อไหร่มันอาย ยิ่งเห็นตลาดหุ้นเวียดนาม VNIที่เพิ่งก่อตั้งได้ประมาณ 5 ปีเขาแซงหน้าวิ่งทะลุ 1000 จุด ขึ้นมาอยู่ที่ 1088 จุดไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันสะท้อนให้เห็นการบริหารการจัดการ การเมืองที่เข้มแข็ง นโยบายการลงทุน นโยบายการพัฒนาประเทศ แต่บ้านเรายังทะเลาะกันอยู่เลย แถมช่วงชิงอำนาจผลประโยชน์ ถ้าขืนยังเป็นอยู่อย่างนี้ แฟนๆ ฟันธงเนีย ก็คิดเอาเองก็แล้วกันว่าจะเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าที่ผ่านมา ประเทศชาติเสียโอกาส ถ้าไม่เช่นนั้นประเทศชาติพัฒนาไปไกล เศรษฐกิจขยายตัวไม่แพ้เมืองจีน อินเดีย หรือเวียดนามแน่นนอน และที่สำคัญมากๆ คนเล่นหุ้นคงร่ำรวยกันถ้วนหน้า ดูอย่างคนจีนคนเวียดนามตอนนี้เขาร่ำรวยจากการลงทุนในตลาดหุ้นเท่าไหร่แล้ว
สำหรับปัญหาของอินเดียกับบ้านเราแตกต่างกันเยอะมากเขาดิ่งลงประมาณ 9%หลังมีผลบังคับใช้ของมาตรการ แต่บ้านราดิ่งนรกเกือบ 30% แถมตอนที่เค้าใช้มาตรการ ประเทศอินเดียมีเศรษฐกิจร้อนแรง มีเงินทุนไหลเข้าถึง 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เค้ากังวลกับภาวะฟองสบู่แตก ผิดกลับบ้านเราที่ขณะนั้นเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว แต่มีเงินไหลทะลักเข้ามาเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน จึงมีความแตกต่างของจังหวะการเลือกใช้มาตรการ ส่วนที่เขียนมาทั้งหมด ผมเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยแต่อย่างใด แต่ที่เขียนให้อ่านจะได้เข้าใจ และไม่ควรกังวลกับผลกระทบบ้านเขาจะมากระทบชิ่งบ้านเรา ปัญหาใครปัญหามัน แต่ปัญหาของเขา เขาสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่าบ้านเราก็เพียงเท่านั้น กลับมาดูแนวโน้มตลาดสุดสัปดาห์เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากออกอาการเจเล็กน้อย เมื่อไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านจิตวิทยาที่ 900 จุดได้ แถมเครื่องมือทางเทคนิค RSI เกิด Negative Divergence หรือสัญญาณขัดแย้งระหว่าง SET INDEX สอดคล้องกับเครื่องมือ MACD Oscillator หลุด Zero line จึงยืนยันการปรับฐานค่อนข้างชัดเจน
คาดว่าน่าจะส่งผลให้แนวโน้มตลาดในช่วงสั้นๆ คงต้องใช้เวลาปรับฐานไปถึงวันจันทร์ หรืออังคาร โดยมีแนวรับ Uptrend line ที่ 870 จุด และหากสามารถยืนเหนือไว้ได้น่าจะเกิด Turning Point ที่มี Short Run Resistance ที่ 890 จุด และถัดไปที่ 900 จุด แต่ถ้ากรณีเกิดหลุด 870 จุดอาจจะต้องไปตั้งหลักไกลหน่อยถึง 850 จุดนะนายจ๋า! สัปดาห์หน้าทั้งสัปดาห์คงไม่มีคอลัมน์ฟันธงมาเนีย ให้แฟนคลับอ่านชั่วคราว เพราะต้องไปสำรวจเขาใหญ่ เขายายเที่ยง มันน่าสนใจตรงไหน ถึงมีการพูดทางทีวี ทางหน้าหนังสื่อพิมพ์กันจัง สุดท้ายอย่าลืมเด็ดขาดในช่วงตลาดปรับฐานก็อย่าลืมมองหุ้นที่แนะนำไว้บ้างนะก๊าบ! เช่น PTTEP PTT RRC ATC BBL KBANK BEC
ฝ่ายกลยุทธการลงทุนและวิเคราะห์ทางเทคนิค
วีระชัย ครองสามสี 0-2648-1313
Disclaimer รายงานฉบับนี้จัดทำโดยพิจารณาจากข้อมูลเท่าที่ผู้จัดทำมีอยู่และเห็นว่าเชื่อถือได้ ประกอบกับทัศนะส่วนตัวของผู้จัดทำ ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนใช้
เป็นข้อมูล ประกอบการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ ข้อความหรือทัศนะที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ไม่ว่ากรณีใดๆ ไม่ถือว่าเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง หรือรับรอง
ความถูกต้องแท้จริงของข้อมูล หรือเป็นการชักชวน ชี้นำให้นักลงทุนทำการซื้อขายหลักทรัพย์ ที่กล่าวในรายงาน[/size:bbe4655e17">
|
