May 16, 2024   7:37:08 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นขวัญใจรายวัน
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 05/11/2007 @ 16:04:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ ความสนใจจะอยู่ที่หุ้นรายตัวเป็นหลัก โดยเฉพาะหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการโดดเด่นและที่สำคัญหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ น่าจับตาเป็นพิเศษ หลังพบว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาให้ความสนใจมากขึ้น

:KESTพอเข้าเก็งกำไรได้
หุ้น KEST ผลประกอบการ Q3 กำไรสุทธิ 201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% จากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่าน KEST เพิ่มชึ้น 74%และจากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันที่ปรับเพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับการเลือกตั้งจะมีขึ้นแน่นอนช่วงปลายปี
ทำให้มีการปรับประมาณการมูลค่าการซื้อขายตลาดต่อวันจากเดิม 1.6 หมื่นล้านบาทเป็น 1.8 หมื่นล้านบาทและจากส่วนแบ่งตลาด KEST เพิ่มขึ้นมากใน Q3 อยู่สูงถึง 8.48%และท่าทีว่าจะยังสูงอยู่ต่อเนื่อง ทำให้สมมติฐานส่วนแบ่งตลาดทั้งปีที่ 8%
โดยคาดว่ามีกำไรสุทธิปี 50 อยู่ที่ 530 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.96 บาท และคาดกำไรสุทธิปี 51 อยู่ที่ 620 ล้านบาทกำไรต่อหุ้น 1.14 บาท ภายใต้สมมติฐานมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 20,000 ล้านบาทต่อวันและส่วนแบ่งตลาด 8%
..กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อเก็งกำไรราคาเป้าหมาย 29 บาท..

:STANLYทีเด็ดกลุ่มชิ้นส่วน
หุ้น STANLY-SAT จัดเป็นทีเด็ดหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ หลังจากแนวโน้มได้รับผลดีจาก JTEPA ระยะสั้นเชื่อว่าผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ ยังมีระยะเวลาในการปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
ที่สำคัญชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ ยังมีต้นทุนต่ำกว่าชิ้นส่วนที่นำเข้าจากญี่ปุ่น เมื่อรวมกับค่าขนส่ง การจัดเก็บสต๊อก บวกกับการบริหาร และการจัดการด้านการผลิตแบบ JustIn Time
นอกจากนั้นข้อตกลงการลดภาษีนำเข้าเหล็ก ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีการนำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่น(โดยเฉพาะเหล็กรีดร้อน)มีต้นทุนการผลิตลดลง ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ผลิตไทยมากขึ้น และเป็นโอกาสเจาะตลาดส่งออกใหม่ ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามระยะยาว ประโยชน์จากการต้นทุนการผลิตที่ลดลง อาจถูกชดเชยกับการลดราคาสินค้าให้กับลูกค้า เนื่องจากตามธรรมเนียมกลุ่มลูกค้าจะมีการต่อรองราคาสินค้าเป็นประจำ หากเห็นว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนมีต้นทุนลดลง ทั้งนี้ภาพรวมเชื่อว่ากลุ่มยานยนต์ไทยยังคงได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากญี่ปุ่น ที่คาดว่าจะมีเข้ามามากขึ้นส่งผลดีต่อกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนให้ได้รับอานิสงค์จากแผนลงทุนต่อเนื่อง
..กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อ STANLY และ SAT เป็นหลัก..

CCน่าลงทุนเป้าเกิน17บาท
หุ้น DCC ถือว่าน่าลงทุน แม้กำไรสุทธิ Q3 เท่ากับ 134 ล้านบาท เพิ่มขึ้นแค่ 4%และลดลง 10%เมื่อเทียบไตรมาสก่อน หลังยอดขายต่ำลง 11% เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น-เศรษฐกิจชะลอตัวและค่าใช้จ่ายสูงกว่า 18%
โดย DCC มีปัจจัยบวกตรง ที่รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ 39.4% ฐานะการเงินดี พร้อมปันผลสม่ำเสมอ โดยล่าสุดปันผล 0.23 บาท
สำหรับปี 51 เติบโตสูงขึ้น โดยได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 11% อัตรากำไรขั้นต้น 38.5% ที่สำคัญเตรียมปรับนโยบายปันผลจากเดิม 70% ของกำไรสุทธิมาเป็น 80% ของกำไรสุทธิ ที่จะเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกปีหน้าเป็นต้นไป

:SEAFCOต้องมองระยะยาว
หุ้น SEAFCO แนวโน้มกำไร Q3 ดูไม่สดใสนัก หากต้องตั้งสำรองหนี้เสีย เพิ่มเติมอีกกว่า 20 ล้านบาท สาเหตุเป็นเพราะภาวะฝนตกที่ยาวนาน ทำให้ดินเปียกงานก่อสร้างขลุกขลัก แต่เทียบกับไตรมาสก่อนถือว่าดีขึ้น เพราะ Q2 เป็นไตรมาสที่เลวร้ายสุดแล้วคือขาดทุนสุทธิกว่า 22 ล้านบาท จากการตั้งสำรองหนี้เสีย 30 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี Q3 ที่ผ่านมา บริษัทประมูลงานได้มากต่างจากช่วงครึ่งปีแรก อย่างสิ้นเชิง ทำให้งานก่อสร้างในมือ(Backlog)มากถึง 1,450 ล้านบาท โดยสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ปีหน้าอีก 450 ล้านบาท จึงทำให้กำไรสุทธิ Q4 จะพลิกกลับมาดีอย่างไม่ต้องสงสัย
..กลยุทธ์การลงทุนแนะนำซื้อราคาเป้าหมายเกิน 9 บาท..

ข่าวหุ้น[/size:163315a449">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com