ที่มา : ไก่ทอง

หัวคอลัมน์ : โอกาสดี ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว

ทิศทางการลงทุนระยะสั้นราคาหุ้นส่วนใหญ่ยังอยู่ในแนวโน้มของการปรับฐานราคาโดยดัชนีหุ้นมี่แนวรับบริเวณ 850 จุดสำหรับการเข้าเก็งกำไรแบบตีกลับทางเทคนิค หากยังเชื่อมั่นว่าแนวโน้มตลาดทั่วไปยังคงดีอยู่ แต่หากคาดว่าตลาดยังคงต้องใช้เงื่อนเวลาในการปรับฐานาราคาอีกระยะหนึ่งคงต้องพิจารณากันเป็นรายตัว เพราะเวลาตลาดทำ ?Grand Sale? มองดี ๆ คือโอกาสที่กำลังเกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ถือเงินสดนั่นเอง ส่วนเข้าเร็วเข้าช้านั้นอยู่ที่ฝีมือของนักลงทุนแต่ละคนว่าอ่านเกมเป็นอย่างไร

มุมมองทางเทคนิคระยะสั้นคาดว่าทิศทางการปรับตัวลงที่กำลังดำเนินอยู่ยังไม่สมบูรณ์ โดยนักลงทุนอาจจะหาจังหวะสำหรับการสะสมหุ้นเพื่อทดสอบว่าตลาดหุ้นแข็งพอสำหรับการเข้าเก็งกำไรรอบใหม่บริเวณ 850 ? 860 จุด หากพิจารณาโดยอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ แต่ในทางปฏิบัตินั้น การประยุกต์การเข้าตลาดอาจจะต้องอ้างอิงว่าดัชนีหยุดทำจุดต่ำใหม่หรือยัง นั่นหมายความว่าดัชนีไม่ทำจุดต่ำ ๆ กว่าจุดต่ำวันก่อนหน้า หรือการที่ดัชนีลงมาต่ำและสามารถฟื้นขึ้นมาปิดสูงนั้นอาจจะเป็นสัญญาณชี้นำอีกตัวหนึ่ง ว่าอาจจะมีการตีกลับของราคาหุ้นหรือการเปลี่ยนทิศทางในอนาคต

สำหรับเงื่อนไขที่อ้างอิงสำหรับทางด้านเทคนิคในรอบนี้คือ การอ่อนตัวของดัชนีไม่ควรอ่อนตัวต่ำกว่าระดับ 857 จุดสำหรับดัชนีปิด แต่หากระหว่างชั่วโมงการซื้อขายหากดัชนีมีการปรับตัวต่ำกว่าระดับ 857 จุด แต่ราคาขึ้นมายืนโดยสร้างภาพทางด้าน Candle เป็นรูป Doji Hammer พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นกว่าเฉลี่ย นั้นอาจจะสามารถประยุกต์ได้ว่าตลาดจะใช้แนวดังกล่าวเป็นจุดกลับตัวระยะสั้น ตรงกันข้ามหากดัชนีปิดต่ำกว่าจุด 857 นั้น อาจจะสร้างภาพว่ารอบที่ผ่านมานี้ดัชนี 918 -924 จุด อาจจะเป็นยอดดอยอินทนนท์ได้ในช่วงสั้น เพราะรูปแบบหลักเริ่มเพี้ยนไปจากแนวโน้มขาขึ้น เพราะมีการเกิดสัญญาณ Error ลงมา ซึ่งกรณีแย่ ๆ ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ไม่ควรต่ำกว่า 840 จุดโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 5 -10 พฤศจิกายนนี้คาดว่าอาจจะเป็นจุดที่ดัชนีควรจะพบจุดต่ำของรอบนี้ได้แล้ว ดังนั้นนักลงทุนควรรอจังหวะการเข้าตลาดหลังจากผ่านการปรับตัวมากกว่า 10 ? 13 วันทำการจะปลอดภัยกว่า

อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ หากเน้นกลยุทธ์เล่นหุ้นประเภท ?เกษตรกร? ที่ชอบสวนเกษตร อาจจะใช้จังหวะที่หุ้นปรับตัว เลือกลงทุนในหุ้นรายตัว โดยมีแนวคิดสองแนวคิดคือ อิงหุ้นกลุ่มหัวขบวน หรือหุ้นเก็งกำไร หากเล่นหุ้นกลุ่มทิ่อิงหัวขบวน อาจจะยังคงเน้นตัวหุ้นที่อยู่ใน SET 50 ซึ่งข้อกังขาในเรื่องผลประกอบการ ฐานะการเงิน หรือ เงินปันผลนั้นจะไม่ค่อยมีปัญหา ปัญหาอย่างเดียวคือ ราคาหุ้นที่นักลงทุนเข้าซื้อแข่งกับตลาดได้หรือไม่ ส่วนหุ้นกลุ่มเก็งกำไรนั้น อาจจะต้องคำนึงถึงสภาพคล่อง ฐานะการเงิน และพฤติกรรมการลงทุน รวมทั้งบทบาทของทางการอาจจะเป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อความเสี่ยง แต่จากการสังเกตพบว่าหุ้นประเภท เก็งกำไร หรือ Money Game มักจะมีอิทธิพลสูงในภาวะที่ตลาดหุ้นไร้ตัวเลือก หรืออยู่ในภาวะซบเซาเนื่องจากการปรับฐานราคา

IRPC หากเทียบกับหุ้นกลุ่มราคาประมาณต่ำกว่า 10 บาท แต่ไม่ต่ำกว่า 5 บาท แล้ว IRPC หากมองในแง่ฐานะการเงิน ผู้ถือหุ้น หรือสภาพคล่องจัดเป็นหุ้นประเภทน่าสนใจสำหรับนักลงทุนประเภทที่อดทนได้ แต่อาจจะไม่ทันใจหากเทียบกับหุ้นอย่าง LIVE TRUE STEC LH ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่บ่อยครั้งเหตุผลในการซื้อขายหุ้นไม่ใช่เหตุผลทางวิชาการ หรือองค์ประกอบด้านธุรกิจเพียงด้านเดียว ตรงกันข้ามอาจจะต้องใส่วงเล็บไว้ว่า ?หุ้นบางประเภท?เหมาะสำหรับเก็งกำไรเท่านั้น ซึ่งต้องย้อนถามวัตถุประสงค์การลงทุนให้ชัดเจนเสียก่อนที่จะตัดสินใจ แต่หากเน้นการเกาะเล่นรอบแคบ ๆ มีเงินปันผลรออาจจะให้ IRPC เป็นหุ้นน่าสนใจสำหรับกรอบการเก็งกำไรแคบ ๆ ระหว่าง 6.50 ? 7.20 บาท สำหรับในภาวะที่บรรยากาศโดยรวมซบเซาไปก่อน และความเสี่ยงทางลงแคบ ส่วนทางขึ้นยังมีโอกาส

IEC หากบรรยากาศการลงทุนโดยรวมไม่เป็นใจบ่อยครั้งที่หุ้นเกรด Junk กลับมามีบทบาทเด่นขึ้น เพราะหุ้นดี ๆ ผ่านการเก็งกำไรเต็มพิกัด ทำให้หุ้นกลุ่ม Garbage Stocks ซึ่งต้องมีคำนิยามกำกับเป็นเพลงว่า ?โปรดอย่าถาม ว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต....? อย่างเช่นหุ้นที่มีชื่ออย่าง LIVE IEC NEP EMC จะขึ้นบ้างไม่ได้ เพราะหุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีที่ยืนในตลาดเหมือนกัน แต่การเก็งกำไรหุ้นประเภทนี้ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะความเสี่ยงของหุ้นประเภทนี้มีหลาย ๆ อย่าง เช่น เสี่ยงเรื่องผลประกอบการ(ขาดทุน) เสี่ยงเรื่อง การถูกขึ้นเครื่องหมายห้ามเน็ต และถูกตรวจสอบ เสี่ยงต่อการที่เงินดี ๆ อาจจะกลายเป็นกระดาษ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเสี่ยงเกี่ยวกับความผันผวนของราคาหุ้นมากเป็นพิเศษ ดังนั้นหากคิดจะเสี่ยงต้องดูสภาพคล่องจริง ๆ ว่า ?เขาเล่นกันหรือยัง? หากเล่น เล่นด้วย แต่ต้องเลิกให้ทันหากเขาหยุดเล่น สำหรับกรอบการเก็งกำไรอยู่ระหว่าง 0.95 ? 1.10 บาท แต่หากต่ำกว่า 0.95 บาทอย่าลืมคาถา ?หลวงพ่อโกย? Stop loss order ควรทำงานทันทีครับ

BBL หุ้นธนาคารพาณิชย์แถวหน้าที่ราคาหุ้นเริ่มเดินทางมาสู่บริเวณ ?น่าสนใจ? เพราะเป็นเกรดหุ้นดีที่การหาจังหวะซื้อมีผลต่อความสามารถในการแข่งขัน อาจจะมีความรู้สึกว่าเหมือนนถูกสาป เพราะราคาหุ้นไม่ไปไหน แต่หากมองทางยาวคาดว่ายังเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนและสถาบันเสมอ ดังนั้นกรอบการลงทุนระยะสั้นอยู่ระหว่าง 116 ? 128 บาท ดังนั้นราคาที่อ่อนตัวนั้นถือว่าเป็นโอกาสมากกว่าวิกฤติก็พอจะอนุมานได้ครับ(แสดงความคิดเห็น Email : cnantawat@yahoo.com )

:lol: