May 16, 2024   8:16:27 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : ดูกันไปเรื่อยๆ
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 12/11/2007 @ 15:12:17
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*เปิดฉากสัปดาห์ใหม่ ก็มีเรื่องปวดหัวมากมายต้องมานั่งขบคิดกันอีกแล้ว เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีการปรับราคาน้ำมันเบนซิน 95 ขึ้นอีก 30 สตางค์ ส่งผลให้ราคาขายปลีกทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ 31.99 บาทต่อลิตรแบบนี้...มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ท่านๆ คงหน้าซีดกันเป็นทิวแถว เพราะสัปดาห์นี้สินค้าอุปโภคบริโภคจะปรับราคาขึ้นกันอีกระรอกนะจะบอกให้

* ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นหลายครั้งนับตั้งแต่ต้นปี กำลังกลายเป็นตัวทำลายขวัญนักลงทุนไม่ใช่เฉพาะคนที่ถือหุ้นบริษัทก่อสร้างและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ แต่ยังลุกลามไปยังธุรกิจอื่นๆ อย่างรวดเร็วอีกด้วย ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาต่ำกว่าที่คาดมาก....งานนี้ต่อให้รู้จักแปลงวิกฤตเป็นโอกาส ก็มีสิทธิ์ขาดทุนพอๆ กันเจ้าค่ะ

*ขนาด "โมนิก้า"พยายามกระตุ้นเตือนเลิกหวาดกลัวกัน และกลับเข้ามาซื้อหุ้นตุนไว้เมื่อสัญญาณพลิกกลับ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับลำความคิดดังกล่าวเป็นการด่วน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจความผันผวนของตลาดหุ้นอย่างท่องแท้...การซื้อหุ้นครั้งนี้ถึงขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนักลงทุนรายบุคคล

*เหมือนกับในกรณีการเพิ่มทุนของ TMB ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็เม้าท์กันให้แซ่ดว่า เพิ่มทุนหนนี้ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่พอ ไอเอ็นจีฯ เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าจะทำนั้นทำนี้ พร้อมกับวางแผนปั้นธนาคารแห่งนี้ให้เป็นธนาคารชั้นนำของประเทศ โดยอาศัยเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาซับพอร์ตเท่านั้นแหล่ะ...ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 1.73 บาท บวกไป 0.03 บาทอย่างแข็งแกร่ง...คนที่เชื่อว่าแบงก์ขี้โรคแห่งนี้จะดีขึ้น และช้อนซื้อหุ้นก่อนหน้านี้ไว้เป็นจำนวนมาก ถึงรวยกันเละไงหล่ะ

*เมื่อแบงก์ขี้โรคลอยลำ และได้พันธมิตรใหม่อัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาเป็นจำนวนมากแบงก์ขนาดกลางและขนาดเล็ก ก็เลยต้องวิ่งโร่ไปชักชวนพันธมิตรต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเสริมสร้างความแข็งแกร่งตัวธนาคารกับเขาบ้าง เพราะฐานเงินทุนที่มีอยู่ตอนนี้ไม่พอที่จะแข่งขันกับแบงก์ใหญ่ๆ ...ส่งผลให้ไฮไลท์ปรับเปลี่ยนไปอยู่ที่กลุ่มแบงก์ขนาดกลางและขนาดเล็กนะซี

*สำหรับหุ้นกลุ่มพลังงาน สัปดาห์ก่อนๆ ขึ้นมาเท่าไหร่ สัปดาห์ที่แล้วก็ลงไปเท่านั้น ทำเอาคนที่ไม่ยอมปล่อยหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ หงายท้องลมใส่กันถ้วนหน้า เพราะกำไรที่ได้มาถูกเอาคืนไปอย่างรวดเร็ว ยังดีที่การอ่อนตัวลงในครั้งนี้ยังคงรักษาระดับแนวรับเก่าครั้งก่อนได้อย่างเหนี่ยวแน่น สัปดาห์นี้จึงมีลุ้นที่จะเอากำไรคืน?ขอย้ำว่า "แค่มีลุ้น" นะค่ะ

*หุ้นรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นอสังหาริมทรัพย์ กลายเป็นหุ้นต้องห้ามสำหรับเซียนหุ้นทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ไปเสียแล้ว หลังจากเจอผลพ่วงต้นทุนการดำเนินงานพุ่งขึ้นพรวดราดอย่างไม่ยั้ง ทำให้ราคาหุ้นช่วงต้นปีแดงยกแผง และอ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ เป็นเวลานาน...แม้ครั้งนี้จะดีตัวขึ้นและค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นแบบเงียบๆ แต่เดี๊ยนก้ไม่กล้าแนะนำให้นักลงทุนเข้าไล่ซื้อ(ยกเว้นพวกมีเงินเย็น อันนี้ซื้อได้เต็มที) เนื่องจากล่าสุดมาเจอราคาน้ำมันพ่นพิษเข้าจังเบ่อเร่ออีกระรอก แนวรับที่ว่ากันว่า แกร่งดังหินผา อาจอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ ไปซะดื้อๆ

*โดยเฉพาะรายของ STEC ยื้อยุดฉุดกระชากมาเป็นเวลานาน "โมนิก้า" เลยไม่แปลกใจที่ล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปได้แค่ 0.05 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 5.90 บาท หรือปรับตัวขึ้นได้ไม่ถึง 1% ส่งผลให้สัญญาณทางเทคนิคอัมพาตเป็นการชั่วคราว ไม่สามารถใช้อ้างอิงหาแนวรับที่แน่นอนได้ ซึ่งเกิดจากปัจจัยทางด้านพื้นฐานกลายเป็นกดดันทางจิตวิทยาการลงทุนไปแล้วนะซี

*เช่นเดียวกับ CK และ ITD ที่ต่างฝ่าย ต่างเป๋ไม่เป็นขบวน แต่สองรายหลังโชคดีตรงที่ยังมีแรงซื้อเข้ามาบ้างประปราย ทำให้คนที่จ้องจะทิ้งหุ้นเกิดความลังเลใจที่จะล้างพอร์ต ทำให้ทิศทางของหุ้นในช่วง 1 เดือนเต็มๆ ที่ผ่านมา แกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกละแดนลบสลับกันไป แต่ทิศทางโดยรวมก็ยังอยู่ในช่วงพักฐานเหมือนเดิม จึงป่วยการที่จะเข้าช้อนซื้อหุ้น

*ก่อนจากกันขอพูดถึงหุ้นคุณหญิงอ้อ SC ให้ซาบซ่านหัวใจอีกสักครั้ง เพราะผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าที่คนหลายคนคาดคิดไว้มาก "โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนจับตามองดูหุ้นตัวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เนื่องจากราคาหุ้นที่เดินหน้าทำราคาต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่องครั้งก่อน เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากหลังมือเป็นหน้ามือนะซีจ๊ะ ...หรืองานนี้จะเป็นลางบอกเหตุว่าอดีตท่านนายกฯทักษิณ ชินวัตร ได้ผ่านพ้นช่วงขาลงเหมือนกับหุ้นของคุณหญิงอ้อ...ชะเอิงเงยยยยย

*ทางด้าน AA ขอแขวน SP ตังแต่สัปดาห์ก่อน เพราะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ขอ ทำคำเสนอซื้อหุ้น เพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ ถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจที่ลืมตาอ้าปากได้ด้วยลำแข้งของตนเอง และไม่เห็นความจำเป็นของการอยู่ในตลาดหุ้น ราคาเสนอซื้อที่ 39 บาทจึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ...ใครมีหุ้นตัวนี้อยู่ในพอร์ต ก็ควรขายคืนเจ้าของไปได้เลย เพราระทนถือต่อไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกค่ะ

*ย้ำกันอีกครั้งว่าความหวาดวิกตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบทั้งในตลาดหุ้น และนอกตลาดหุ้น ยังคงเป็นตัวกัดกร่อนความมั่นใจในการลงทุนจนยากที่จะเลี่ยงได้ จึงไม่แปลกใจที่เห็นดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบในรอบหลายวันที่ผ่านมา


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com