May 16, 2024   10:30:28 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเก็งกำไรยังไงก็คึก
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 15/11/2007 @ 06:13:15
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นเก็งกำไร ที่มีลักษณะเด่นอยู่ที่ราคาถูก ซื้อง่าย ขายคล่อง เปลี่ยนมือไปมาเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้หุ้น ยังคงครองใจนักลงทุนทุกยุคทุกสมัย ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของตัวเอง และแม้ว่าผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัทจะออกมาอย่างไร ก็แทบไม่มีผลต่อการซื้อขายของนักลงทุน เพราะหุ้นกลุ่มนี้เป็นที่รู้กันว่า แนวต้านมักแพ้แนวเงินเสมอ

* นลท.หันลุยหุ้นเล็กช่วงเศรษฐกิจซบ
ประเด็นสำคัญประการหนึ่ง ที่หุ้นขนาดเล็กถึงกลาง กลับมาได้รับความนิยมจากนักลงทุนในระยะนี้ เห็นจะไม่มีอะไรเกินแผนปรับกลยุทธ์ใหม่ของนักลงทุนหลายราย ที่หันมาลงทุนระยะสั้นแทนระยะกลางและยาว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่สดใส และเชื่อว่าน่าจะลากยาวไปตลอดจนถึงปีหน้า ตามประเทศสหรัฐอเมริกา ยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของโลก ที่โดนปัญหาซับไพร์มถล่มอย่างหนัก

ดังนั้น นักลงทุนที่ไม่มีเงินเย็นเพียงพอ จึงได้หันมาปรับพอร์ตการลงทุนของตัวเองใหม่ ซึ่งส่วนหนึ่งได้หันมาให้ความสนใจกับหุ้นเก็งกำไรอย่างมาก เพราะบรรดาหุ้นเก็งกำไรเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่ทำกำไรให้กับนักลงทุนภายในเวลาอันรวดเร็ว ขณะเดียวกัน อาจทำให้นักลงทุนขาดทุนในเวลาอันรวดเร็วได้เช่นกัน แต่นักลงทุนยุคเศรษฐกิจพอเพียง มักจะมีจุดตัดขาดทุนอยู่ในใจแล้ว นั่นคือ ต้อง cut loss ทันทีเมื่อราคาหุ้นที่ซื้อไว้ปรับลดลง 5% เพราะต้องท่องไว้ หุ้นเก็งกำไรต้องไม่เอากลับบ้าน จึงทำให้แต่ละรายขาดทุนไม่มาก หลังจากนั้นจะเล็งเลือกซื้อหุ้นตัวใหม่ ที่ดูแล้วมีแนวโน้มสดใสกว่าเดิม เพื่อเดินหน้าสร้างกำไรรอบใหม่ต่อไป

* เลือกหุ้นจากขาใหญ่-ข่าวดี-โบรกเกอร์เชียร์-เทคนิคสวย
สิ่งสำคัญที่นักลงทุนเลือกหุ้นเก็งกำไร มีหลายประการด้วยกัน ที่สำคัญ คือ มีกระแสข่าวว่าใครจะทำราคา, มีสตรอรี่ดีๆ อะไรรองรับบ้าง, มีโบรกเกอร์ค่ายไหนเชียร์ซื้อบ้าง และสัญญาณเทคนิคเหมาะแก่การเก็งกำไรหรือไม่ โดยไม่สนใจว่าผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทนั้นจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน หากผลการดำเนินงานบริษัทใดออกมาดีจริงๆ แล้ว ยิ่งจะทำให้ราคาหุ้นเหล่านี้ปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อไปอีก

สำหรับหุ้นเก็งกำไรที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/50 สิ้นสุด 30 กันยายน 2550 ออกมาแล้ว ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นได้มาก แต่ที่เด่นๆ และมีกำไรเพิ่มขึ้น ได้แก่ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL ที่มีกำไร 54.02 ล้านบาท จาก 19.56 ล้านบาทในไตรมาส 3/49 เพิ่มขึ้น 176.17%, บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC มีกำไร 54.27 ล้านบาท จากไตรมาส 3/49 ขาดทุน 19.06 ล้านบาท ดีขึ้น 384.73%, บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS มีกำไร 38.35 ล้านบาท จาก 13.88 ล้านบาทในไตรมาส 3/49 ดีขึ้น 176.29%

ขณะที่อีกหลายบริษัทยังไม่ดีขึ้น อาทิ บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUCC กำไรลดเหลือ 8.85 ล้านบาท จาก 18.14 ล้านบาทในไตรมาส 3/49 ลดลง 51.21%, บริษัท พรีเมียร์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PT เหลือกำไร 15.75 ล้านบาท จาก 34.89 ล้านบาทในไตรมาส 3/49 ลดลง 54.85%, บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC ยังขาดทุน 215.42 ล้านบาท แต่ถือว่าดีขึ้นจากขาดทุน 598.63 ล้านบาท หรือดีขึ้น 60.01%, บริษัท สยามทูยู จำกัด (มหาชน) หรือ S2Y งบการเงินเฉพาะขาดทุนเพิ่มเป็น 17.42 ล้าบาท จากขาดทุน 7.58 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 129.81%

* หุ้นเล็กมักคึกช่วงดัชนีฯ ผันผวน ขายทิ้งบิ๊กแคป
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี เปิดเผยว่า ในช่วงภาวะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ผันผวน โดยยังมีแรงเทขายในหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญออกมา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทำให้เชื่อว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ จะเป็นวันสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2550 จึงเชื่อว่า บริษัทฯ ใดมีผลประกอบการที่ดี ก็น่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาดันให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ดี นักลงทุนสามารถเล่นรอบเก็งกำไรได้ แต่ก็ให้ระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งมองว่าหุ้นบางบริษัทราคาก็ยังมีการปรับเพิ่มอยู่ทั้งที่ผลประกอบการออกมาไม่ดี ฉะนั้น นักลงทุนที่สนใจลงทุนต้องพร้อมรับมือความเสี่ยงได้

* ตลาดซบหุ้นเล็กเก็งกำไรได้

นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า จากภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้น ทำให้ช่วงนี้หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กได้รับความสนใจจากนักลงทุน แม้ว่าผลประกอบการของบริษัทนั้นจะออกมาไม่ดีก็ตาม แต่อย่างไรก็ดี มองว่าด้วยสภาพตลาดฯ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ยักลงทุนยังสามารถเข้าเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กได้อยู่
ทั้งนี้ มองว่าที่หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กได้รับความสนใจ เป็นเพราะสามารถเข้าซื้อ และขายออกได้เร็ว ทำให้มีการแกว่งตัวของราคาหุ้นได้สูง ประกอบกับเมื่อราคาหุ้นเริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัว และสามารถไปได้ก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แรง

โดยแนะนำให้เก็งกำไรหุ้น บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ให้แนวรับไว้ที่ 7.50 บาท แนวต้านให้ไว้ที่ 8 บาท, บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN ให้แนวรับไว้ที่ 8 บาท แนวต้าน 8.50 บาท, บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MLINK แนวรับให้ไว้ที่ 1.05 บาท แนวต้าน 1.20 บาท และ บริษัท ไทยง้วนเมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ TYM ให้แนวรับไว้ที่ 2.90 บาท แนวต้าน 3 บาท

* ต้องดูสัญญาณเทคนิครายวัน
ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยผู้จัดการ บล.แอ๊ดคินซัน เปิดเผยว่า ในช่วงที่หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ไม่ค่อยคึกคัก เป็นผลมาจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงในประเทศมีการขายทำกำไรออกมา จึงทำให้หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กนั้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนแทน

โดยมองว่า ที่หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดเล็กได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากมีการซื้อง่าย ขายเร็ว ทำให้ได้กำไรได้เร็ว ประกอบกับมีการแกว่งตัวของราคาหุ้นมาก ทำให้หุ้นมีสภาพคล่อง นอกจากนี้ ราคาหุ้นนาดเล็กส่วนใหญ่ค่อนข้างราคาถูก โดยราคาส่วนมากจะไม่เกิน 10 บาท ต่อหุ้น ดังนั้น จึงเป็นตัวที่ดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาเล่นเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก

"คนที่เล่นหุ้นใหญ่ก็จะไม่เล่นหุ้นเล็ก และคนที่เล่นหุ้นเล็กก็จะไม่เล่นหุ้นใหญ่ โดยคนที่เล่นนั้นจะถูกแบ่งแยกการเล่นจากความชอบส่วนตัว รวมถึงเรื่องของราคา ซึ่งคนที่เล่นหุ้นเล็กแม้ได้กำไรเร็วและได้เยอะ แต่เวลาขาดทุนทีก็เยอะเหมือนกัน ขณะที่หุ้นใหญ่แม้จะได้น้อย แต่ถ้าเลือกไม่ผิดตัวก็เสียน้อยเหมือนกัน" นายมงคล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถแนะนำหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดเล็ก เนื่องจากต้องรอพิจารณาถึงเรื่องทางเทคนิคเป็นรายวัน

* หุ้นเล็กซื้อได้จำนวนมาก แต่ต้องระวังแรงขายทำกำไร
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า หุ้นเก็งกำไรก็ยังคงได้รับความนิยมจากนักลงทุนอย่งต่อเนื่อง โดยสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนสนใจ น่าจะมาจากการที่ราคาหุ้นค่อนข้างถูก จึงทำให้สามารถเข้าซื้อได้ในจำนวนหุ้นที่ค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการนำเงินจำนวนเดียวกันไปซื้อหุ้นขนาดใหญ่จะได้จำนวนหุ้นที่ค่อนข้างน้อยกว่า ทั้งยังเหมือนกับว่านักลงทุนมีจำนวนหุ้นที่ค่อนข้างมากในพอร์ต

ทั้งนี้ แม้ที่ผ่านมาหลายบริษัทจะประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2550 และส่วนใหญ่ก็ออกมาในทิศทางที่น่าพอใจ แต่ราคาหุ้นก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมารับข่าวดีดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว จึงอาจจะเจอกับแรงขายทำกำไรออกมาในระยะสั้นๆ นี้ และผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2550 ถือว่าออกมาในช่วงที่บรรยากาศการลงทุนในดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยก็ค่อนข้างซบเซา เนื่องจากยังคงได้รับปัจจัยกดดันจากปัญหาซับไพร์มในประเทศสหรัฐฯ ที่ยังคงมีอยู่ในขณะนี้

"ในระยะนี้ราคาหุ้นขนาดใหญ่ก็ปรับตัวลดลงมาเช่นเดียวกัน และถ้าหากว่าหุ้นขนาดเล็กลงตามมาด้วย ก็คงจะขาดทุนกันหมด" นักวิเคราะห์ กล่าว

อย่างไรก็ดี ยังคงมีหุ้นขนาดเล็กที่ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในระยะสัปดาห์นี้ จึงแนะนำซื้อเก็งกำไรได้เช่น บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH ประเมินแนวรับ 1.71 บาท ส่วนแนวต้าน 1.82 บาท แนวต้านถัดไป 1.90 บาท และ บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (LIVE) โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 8.40 บาท และแนวต้าน 8.95 บาท รวมทั้ง LH ที่มีแนวโน้มขึ้นเช่นกัน จึงแนะนำซื้อเก็งกำไรได้หากราคาหุ้นไม่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 7.50 บาท โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 7.75-7.80 บาท

* ตลท.ชี้หุ้นเก็งกำไรร้อนแรงช่วงนี้เป็นเรื่องปกติ

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สาเหตุที่หุ้นเก็งกำไรมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ค่อนข้างดี และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในต่างประเทศด้วย

"หุ้นเก็งกำไรที่ขึ้นมาช่วงนี้ก็เป็นธรรมดาเพราะเป็นไปตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ พอตลาดหุ้นเลิกคึกคักหุ้นเก็งกำไรก็จะหายไปเอง และในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง" นางภัทรียา กล่าว

นอกจากนี้ หากช่วงนี้นักการเมืองมีการซื้อขายหุ้นที่ถืออยู่ในมือก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะนักการเมืองก็เป็นนักลงทุนเหมือนกัน แต่การซื้อหรือขายหุ้นจะต้องมีความโปร่งใส และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำรายการที่ชัดเจน เพื่อนักลงทุนรายย่อยจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินตลาดไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ ที่จะเข้าไปตรวจสอบ แต่ถ้าหาก ปปง. ต้องการข้อมูลจากโบรกเกอร์ก็สามารถให้โบรกเกอร์ส่งข้อมูลให้ได้

"การเข้าไปซื้อหรือขายหุ้นของนักการเมืองก็ควรที่จะบอกชื่อเสียงเพื่อความโปร่งใส และรายงานข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ นักการเมืองก็เป็นนักลงทุนเหมือนกัน" นางภัทรียา กล่าว

* ระบุกำลังจับตาหุ้นร้อน SAM-WIN
อย่างไรก็ตาม ตลท. ยังคงจับตาหุ้นที่วิ่งอย่างร้อนแรงตามปกติ ทั้งกรณีราคาหุ้นของ บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (SAM) ที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์ดูข้อมูลอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือเป็นปกติของการทำงานอยู่แล้ว เมื่อราคาขึ้นหรือลงก็จะต้องไปพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น แต่คงไม่มีการขึ้นเครื่องหมายใดๆ ที่เกี่ยวกับการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าว เนื่องจากในช่วงนี้เป็นการแค่ดูตามปกติเท่านั้น
รวมทั้ง นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่เปิดเผยถึงหุ้นร้อนอย่าง บริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (WIN) ว่า ควรที่จะมีการชี้แจงข้อมูลการซื้อขายหุ้นที่ถูกต้องให้กับนักลงทุนรายย่อยได้รับทราบข้อมูลด้วย นอกจากนี้ ที่ผ่านมา WIN ก็มีการชี้แจงข้อมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว


//////////////////////////////////

ตารางแสดงข้อมูลผลการดำเนินงานกลุ่มหุ้นที่เหมาะเก็งกำไรในไตรมาส 3/50 เทียบกับไตรมาส 3/49
หลักทรัพย์ กำไร (ขาดทุน) กำไร (ขาดทุน) เปลี่ยนแปลง(%)
Q3/50(ลบ.) Q3/49(ลบ.)
NNCL 54.02 19.56 176.17
EMC 54.27 (19.06) 384.73
TKS 38.35 13.88 176.29
TUCC 8.85 18.14 (51.21)
PT 15.75 34.89 (54.85)
PE 2.89 7.30 (60.41)
IEC (215.42) (598.63) 60.01
*S2Y (17.42) (7.58) (129.81)

หมายเหตุ * หมายถึงงบเฉพาะกิจการ

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com