April 29, 2024   8:49:42 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : OVER SOLD!
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 20/11/2007 @ 08:28:04
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โมนิก้า" สำรวจ และพิเคราะห์แรงเทขายหุ้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนก็พบว่า แรงเทขายที่ออกมาคราวนี้มากเกินไปจริงๆ หลังสัญญาณทางเทคนิคทั้งในส่วนของ ModifieldStochastic และ RSI ต่างชี้ชัดว่าหุ้นลงมากจนเกินงาม จึงน่าจะได้เวลาเก็บหุ้นเข้าพอร์ตอีกรอบ

*โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มบลูชิพมีแรงเทขายหุ้นออกมาเต็มๆ ตลอด 2 สัปดาห์ ทั้งที่มีปัจจัยพื้นฐานอันแข็งแกร่งรองรับ แต่แรงเทขายทำกำไรดังกล่าวก็ไม่ยอมหยุดสักที "โมนิก้า"มองเป็นโอกาสทองมากกว่าวิกฤติ ซึ่งที่ผ่านมามีคนได้กำไรจากการลงทุนแบบสวนกระแสตามทฤษฎี วอร์เรน บัฟเฟตต์ เพียงไม่กี่คน

*เดี๊ยนถึงอยากเตือนสตินักลงทุนรายย่อยอย่าได้ ตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพราะเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้เลวร้ายจนย่ำแย่สุดๆ รวมทั้งกูรูสำนักต่างๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีโอกาสฟื้นตัวในไม่ช้า หากสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มนิ่ง ซึ่งจะทำให้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมีความชัดเจน และต่อเนื่องขึ้นเป็นกองไงหล่ะค่ะ

*งานนี้จึงอยู่กับนักลงทุนรายใดจะมองเห็นโอกาสของการลงทุนได้ก่อนกัน เพราะขืนมัวสนใจแต่เกมการตลาดก่อนเลือกตั้ง มีหวังไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันพอดี เนื่องจากแต่ละพรรคชูนโยบายขายฝันเหมือนกันหมด และคงมีแต่คนสิ้นคิดที่เชื่อตามคำพูดลอยๆ เดี๊ยนถึงไม่อยากให้นักลงทุนนับวันรอการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2550

*เนื่องจากหน้าที่สำคัญของนักลงทุน คือ ต้องหาทางทำกำไรให้ได้ทุกวิถีทาง เพราะขืนนั่งรอให้ปาฎิหาริย์เกิดขึ้น ก็คงสายเกินแกงอีกตามเคย...ยิ่งช่วงนี้มีการจุดพลุประเด็นการควบรวมหุ้นกลุ่มเหล็ก อย่างออกหน้าออกตา ยิ่งไม่ควรละสายตาจากหุ้นกลุ่มเหล็กนะจะบอกให้

*เด่นสุดแห่งวงการคงไม่มีใครเกินหน้า GSTEEL ของเฮียสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูลเพราะแหล่งข่าวสองสลึงรายงานแบบเกาะติดสถานการณ์ว่า NSM ต้องถูกเจ้าพ่อธุรกิจเหล็กเทคโอเว่อร์อย่างแน่นอน หากเจ้าพ่อเหล็กต้องการแปลงหนี้เป็นทุน ก็จะทำให้บริษัทของเขาถือหุ้นเบ็ดเสร็จ 33% แบบนี้...ร้อยทั้งร้อยก็ต้องควบรวม เจ้าค่ะ

*หากต้องการได้ความชัดเจนรายละเอียดทั้งหมด สายสืบสองสลึงก็รายงานว่า ให้ไปตรวจสอบกับที่ปรึกษาทางการเงินที่มีอักษรย่อนำหน้าว่า T ก็จะรู้รายละเอียดทั้งหมดของการาควบรวมในครั้งนี้...เพราะรายละเอียดในแฟ็กชีสจะมีทั้งเรื่อง สินทรัพย์ หนี้สินและ ส่วนทุนจะเป็นเท่าไหร่ ภายหลังการควบรวมเสร็จสิ้น

*ที่น่าสนใจก็คือ ตัวเลขที่ทำออกมาดันให้ GSTEEL กลายเป็นผู้ผลิตเหล็กต้นน้ำเบอร์หนึ่งของไทยในทันที ทั้งในส่วนของ กำลังการผลิต รายได้จากการขาย และผลกำไร ราคาหุ้นในกระดานถึงขยับพรวดเดียวขึ้นมาปิดที่ 0.84 บาท บวกไป 0.04 บาท ...งานนี้คนที่เหนื่อยสุดเห็นจะเป็น SSI เพราะตั้งแต่ต้นปียังไม่มีพัฒนาการใหม่ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนให้รายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้นเลยนะซี

*สำหรับในรายของ TSTH อันนี้ไม่ข้องเกี่ยวกับใครทั้งสิ้น เพราะเป็นผู้นำธุรกิจเหล็กเส้น ส่วนในสองรายแรกเป็นผู้นำเหล็กรีดร้อน ถึงไม่มีปัญหาอะไรน่าเป็นห่วง ยิ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบริษัทผลิตเหล็กชั้นนำของโลก ยิ่งไม่ต้องวอรีกับการแข่งขันภายในประเทศไทยราคาหุ้นถึงยืนหยัดอยู่ที่ 1.74 บาท ได้อย่างแข็งแกร่ง

*น่าเป็นห่วงก็คงมีแต่บริษัทเหล็กปลายน้ำยิบย่อย เพราะทุกครั้งที่มีข่าวเรื่องการควบรวมเกิดขึ้น หุ้นเหล่านั้นมักฉวยโอกาสเกาะกระแสขึ้นมาเป็นประจำ ครั้งนี้ก็เป็นคิวของRICH กระชากขึ้นมาปิดที่ 12.60 บาท บวกไป 0.60 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรน่าสนใจ หรือน่าเข้าไปข้องแวะ...ครั้นมีการจุดพลุ และสร้างกระแส แรงซื้อถึงไหลบ่ามาจากทั่วสารทิศไงหล่ะ

*ร้ายลึกคงเป็นในรายของ IEC เพราะราคาหุ้นวิ่งกุเรง กุเรง ขึ้นมาติดในกระดาน Most Active ทั้งที่ตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3 ขาดทุนป่นปี้กว่า 200 ล้านบาทแต่พอมีคนหยิบยกตัวเลขผลกำไรจากการปั่นหุ้นปั่น 40 ล้านบาทขึ้นมาเป็นสตอรี่ ราคาหุ้นก็วิ่งระเบิดระเบ้อขึ้นมาปิดที่ 1.10 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไปถึง 17 % "โมนิก้า"ถึงคิดว่าคนที่เข้าไปเล่นหุ้นเป็นพวกสิ้นคิดไงหล่ะ

*เหมือนกับในรายของพี่แสบ(อดีตชื่อ แมงป่อง PONG) PSAP ผลประกอบการไตรมาส 3 ขาดทุนกว่า 100 ล้านบาท แถมฐานะทางการเงินก็อ่อนแอ่ลงเรื่อยๆ "โมนิก้า" ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมนักลงทุนถึงกระโจนเข้าไล่ราคาหุ้น จนพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.57บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไปถึง 19 % ซึ่งยืนแท่นอันดับ 1 ในกระดาน MostGainer ได้อย่างน่าประหลาดใจ เข้าตำรา ตาดีได้ ตาร้ายเสีย อีกแล้วครับท่าน

*สำหรับในรายของ TRAF "โมนิก้า" ไม่อยากจะเซ่ดว่าเป็นผลพ่วงจากนักลงทุนรายไหนเข้ามาทำราคา เพราะลำพังแค่ตัวบริษัทก็ไม่มีอะไรจรรโลงจิตใจ แต่พอได้เมเจอร์ฯ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อะไรต่อมิอะไรก็ดีขึ้นเป็นกอง แถมยังมีสตอรี่ใหม่ๆเข้ามาสร้างความเชื่อมั่นแบบนี้...สงสัยจะไล่ราคากันอีกนาน เพราะมีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ราคาปิดที่ 6.40 บาท บวกไป 0.30 บาท จึงถือว่าน้อยเกินไป

*ย้ำกันอีกครั้งว่า...ดัชนีปรับตัวเข้าเขตซื้อมากเกินไป และหุ้นหลายตัวก็ปรับตัวลงมากเกินไปด้วยเช่นกัน โอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลงแรงจนทะลุแนวรับ 800 จุด จึงไม่น่าจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์นี้นะค่ะ


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com