Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 20/11/2007 @ 11:45:36 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ที่มา : วีระชัย ครองสามสี
ลงจนน่ากลัว! เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ตลาดทำท่าจะดี ดีอยู่แป๊ปเดียว กลายเป็นดีแตก เละเป็นโจ๊ก เมื่อหลุดแนวรับสำคัญที่ 840 จุด ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยลงหนักกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ทุกคนตั้งคำถาม! มันเกิดอะไรขึ้น มันเกี่ยวกับการตรวจสอบหุ้นการเมืองหรือไม่ หรือเป็นเพราะต่างชาติลดพอร์ตในตลาดหุ้นไทย และหากประเด็นแรกเป็นปัจจัยหลัก แถมไม่มีความชัดเจน ต้องบอกตรงๆ กับแฟนๆ ฟันธงมาเนีย ว่าความหวังเห็นตลาดมีจุดต่ำสุดในวันที่ 20 พ.ย. ริบหรี่ ชนิดธงหักครับพี่น้องที่บอกว่าจุดต่ำสุดอยู่วันที่ 20 พ.ย. นี้
แต่ถ้าฟลุ๊กว่าวันนี้ลงมาแถว 830 จุด หรือ 820 จุด แล้วมีเด้ง ความหวังแม้จะริบหรี่ แต่ก็มีลุ้นเหมือนกันนะพี่! นี่จะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายกันแน่ หลังนายแรนดอลล์ ครอสเนอร์ ประธานฝ่ายประสานงานของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด กล่าวว่า คณะกรรมการตลาดเสรีของเฟดอาจไม่จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจหลุดพ้นจากชะลอตัวในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ถ้าขืนเศรษฐกิจชะลอตัวไปอีก 2-3 ปี ประเทศคู่ค้ามีหวังเดี้ยงกันเป็นแถว รวมถึงประเทศไทยที่ส่งออกไปสหรัฐพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ส่วนนี่ก็ถือเป็นข่าวไม่ดีผลการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปค ได้สิ้นสุดการประชุม
โดยผลการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีกลุ่มโอเปคไม่มีการหารือกันเรื่องการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน และไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเรื่องผลผลิตน้ำมันในระยะสั้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในการประชุมครั้งหน้าที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลุ่มโอเปคจะไม่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิต อ้าวต้องจับตาราคามันจะเด้งกลับหรือไม่ สำหรับปัญหาในประเทศไทย สิ่งที่น่าจับตามองผลจากกรุงเทพธุรกิจโพลล์ ที่สำรวจหอการค้าทั่วประเทศ ชี้ภาคธุรกิจเฉียด 60% ตัดสินใจชะลอลงทุนต่อเนื่อง หลังประเมินรัฐบาลใหม่อยู่ได้แค่ 2 ปี เมื่อประเมินภาพโดยรวมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่เผชิญกับวิกฤตการณ์ซับไพร์ม และราคาน้ำมันแพง เชื่อว่าจะส่งผลต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลกในชะลอตัวตามไปด้วย แม้ว่านายกรัฐมนตรียาสึโอะ ฟูกูดะ ของญี่ปุ่น เขาไม่เห็นว่าปัญหาที่เกิดจากวิกฤตการณ์ตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ปล่อยกู้ให้แก่ลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำหรือซับไพร์ม จะทำให้เศรษฐกิจโลกประสบกับภาวะถดถอย เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่ได้อยู่ในภาวะอ่อนแอ และจะได้รับการแก้ไขในไม่ช้า ขอให้มันจริงเถอะ
! ย้อนกลับมาประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทย หลังจากดัชนีหลุดแนวรับที่ 840 จุด ชนิดกู่ไม่กลับดิ่งไปถึง 831 จุด และยังไม่มีทีท่าจะหยุดหรือชะลอตัวลงแต่อย่างใด (เห็นแล้วกลุ้มใจแทนนักลงทุน) ผลพวงจากการดิ่งเหวของหุ้นพลังงานขนาดใหญ่ไม่ว่าหุ้นกลุ่มน้ำมัน หุ้นกลุ่มโรงกลั่น หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งล้วนเดี้ยงสนิทประเภทจอดไม่ต้องแจว ผสมกับแรงเทขายหุ้นกลุ่มปูนซิเมนต์ที่ไม่ได้นัดหมายก็เดี้ยงตามไปด้วย ซึ่งล้วนมาจากผลงานของนักลงทุนต่างชาติที่เทขายอย่างต่อเนื่อง ล้วนกระหน่ำซ้ำเติมตลาดหุ้นไทย เมื่อมองดูราคาหุ้นแต่ละตัวต้องยอมรับว่าปรับตัวลงมาลึกมาก และเริ่มมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยงนะก๊าบ จึงน่าจะเป็นโอกาสของการทยอยเก็บสะสมไว้บ้างแบบเก็บเล็กผสมน้อย และรอลุ้นการดีดตัวกลับในรอบหน้า
โดยหวังว่านักลงทุนต่างชาติจะซื้อคืนหุ้นที่เขาขายออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่ากลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ธนาคารพาณิชย์ ขนส่งเดินเรือ และปัจจัยมนุษย์เงินเดือนเตรียมทยอยซื้อ LTF RMF เพื่อลดภาษีกับบรรดา บลจ. ต่างๆ ซึ่งบรรดา บลจ. ก็จะเอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น และการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค. นี้ จะช่วยหนุนด้านจิตวิทยา! สอดคล้องกับเครื่องเทคนิค RSI ส่งสัญญาณ Oversold แล้ว แถมดัชนีฯ วานนี้ปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงมาก จึงมีลุ้นเกิด Technical Rebound สั้นๆ โดยมีแนวต้านที่ 840 ? 845 จุด แต่ถ้าหลุด 830 จุดมีหวังลงถึง 820 จุดเป็นแน่แท้ หุ้นน่าสอย SMM สำหรับทางเทคนิคราคาหุ้นมี Technical Rebound พร้อมกับปริมาณวอลุ่มสนับสนุน สอดคล้องกับเครื่องมือ RSI มีสัญญาณ Positive คาดว่าหากมีวอลุ่มสนับสนุนต่อเนื่องมีลุ้นปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 0.80 บาท และถัดไปที่ 0.85 บาท พร้อมตัดขาดทุนหากหลุด 0.74 บาท
ทันหุ้น[/size:199bd6215b">
|
