*แรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่ออกมาเป็นจำนวนมากเมื่อสัปดาห์ก่อน และมีออกมาอย่างต่อเนื่องถึงสัปดาห์นี้ ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ทำท่าจะดีขึ้นกลับแย่ลงไปในพริบตา พร้อมทั้งทำให้ความฝันที่จะได้เห็นดัชนีไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 850 จุดเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

*ยิ่งผู้หลักผู้ใหญ่ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตลาดหุ้นไทยจะมีบรรยากาศอึมครึมเช่นนี้ไปอีกนานหลายสัปดาห์ เพราะเจอแรงกดันจากเรื่องราคาน้ำมัน และปัญหาซับไพร์มเริ่มแพร่ระบาดไปทั่ว ยิ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติต้องเร่งระบายเทขายหุ้นออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...สภาพตลาดหุ้นไทยถึงได้ย่ำแย่หนักแบบนี้ไงหล่ะค่ะ

*ยามนี้ถึงไม่มีใครอยากพูดถึงบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะแทบหาเรื่องดีๆ มาพูดปลอบใจไม่ได้เลยสักเรื่อง แย่ไปกว่านั้นก็คือ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่รูดลงกว่า 15% เป็นสัญญาณอันตรายที่เตือนให้รู้ว่า เงินปันผลปีนี้คงน้อยกว่าปีก่อนและราคาหุ้นในกระดานมีโอกาสปรับตัวลงอีกนะจ๊ะ

*เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวขึ้นเกินกว่าราคาเหมาะสม เมื่อตัวเลขผลกำไรออกมาไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาหุ้นในกระดานโมนิก้า ถึงมองว่าดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงปึงแนวรับ 800 จุดค่อนข้างสูงนะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้นักลงทุนหันไปเล่นหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ฆ่าเวลาไปพลางๆ เพราะตอนนี้ทุ่มเงินลงไปในหุ้นบลูชิพมากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับเป็นการเอาเงินไปละลายทิ้งในแม่น้ำมากเท่านั้น...เพราะตลาดหุ้นหมดสภาพน่าลงทุน(ชั่วคราว)นะซี

*รายแรกที่ต้องพูดถึงก่อนใครเพื่อนก็คือ TRAF เพราะท้ายสุดก็มาโดนตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามซื้อขายแบบหักลบกลบหนี้ และซื้อขายแบบมาร์จิ้นเป็นที่เรียร้อย...ทั้งที่ตอนแรกใครๆ ก็คิดว่า คงลอยนวลไปไหนถึงไหน แต่พอมาเจอคำสั่งแบบสายฟ้าแลบ ราคาหุ้นก็เลยร่วงลงมาปิดที่ 8.10 บาท ลบไป 0.15 บาทอย่างรวดเร็วแบบนี้ โมนิก้า คิดว่ารายการนี้คงไม่จบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งแน่นอนเจ้าค่ะ

* สมาคมแมงเม่าแห่งประเทศไทยถึงถอยกราดรูดกันเป็นแถว เพราะหุ้นตัวนี้สุ่มเสี่ยงต่อการถูกสอยกลางอากาศเหลือเกิน แถมหมู่นี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เอาจริงเอาจังกับเรื่องการเปิดเผยข้อมูลด้วยแล้ว โมนิก้า ถึงรู้สึกเป็นห่วงคนที่ถือหุ้นตัวนี้มากเหลือเกิน เพราะเกรงว่าจะเกิดโศกนาฎกรรมหมู่แมงเม่าอีกหนนะซี...อิอิอิ

*สำหรับหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมอย่าง SAM ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นวิ่งระบิดเถิดเทิงชนิดที่ไม่ต้องเหลียวหลังให้เสียเวลา แต่พอผ่านมาสักระยะราคาหุ้นกลับร่วงเละเทะ จนขาดทุนป่นปี้กันเป็นทิวแถว แถมสตอรี่ใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยขลังเหมือนก่อนหน้านี้ ?โมนิก้า? จึงขอเตือนพวกเสือปืนไวให้ระวังตัวมากเป็นพิเศษ ...เนื่องจากการปรับตัวขึ้นมาปิดที่2.54 บาท บวกไป 0.02 บาท อาจเป็นการลากไปออกของ และหุ้นตัวนี้ไม่ใช่หุ้นน้องใหม่ไฟแรงเหมือนแต่ก่อนแล้วเจ้าค่ะ.

*ผิดกับในรายของ LOXLEY อันนี้พอเชื่อว่ามีสตอรี่ดีๆ ที่เป็นรูปธรรมให้เห็นอย่างแน่นอน ราคาหุ้นถึงปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 2.52 บาท บวกไป 0.08 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นขนัดอีกครั้ง โมนิก้า ถึงอยากให้นักลงทุนจับตามองหุ้นตัวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะถ้าหวยออนไลน์ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ เมื่อนั้นราคาหุ้นวิ่งระเบิดเดเทิงแน่นอนเจ้าค่ะ

*ถัดจากหุ้นขนาดเล็ก ก็ลองหันมาดูหุ้นบลูชิพยอดนิยมอย่าง หุ้นกลุ่มพลังงาน กันบ้างจะดีกว่า...เพราะท้ายที่สุดก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อนักลงทุนต่างชาติถอดใจ และคิดจะเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตอีกต่อไป คราวซวยก็เยือนนักลงทุนรายย่อยที่ถือหุ้นพลังงานในทันที เพราะถ้านับตั้งแต่ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงก็ปาเข้าไป 20% แล้วนะเนี่ย...งานนี้ถ้าคิดจะรับหุ้นช่วงขาลงก็ควรทยอยซื้อแต่พองามนะค่ะ

*ยกเว้นในรายของ PTTEP โมนิก้า ย้ำเตือนเสมอว่า ราคาหุ้นระดับ 120 บาทต้นๆ นั้นถูกเกินไปสำหรับ หลุมก๊าซที่มีอยู่ในมือมูลค่าหลายพันล้านบาท และหากเปรียบเทียบกับอนาคตอันโชติช่วง เพราะธุรกิจก๊าซถูกผูกขาดแบบเบ็ดเสร็จมาแต่ไหนแต่ไรเดี๊ยนถึงมั่นใจว่า ซื้อได้วันยันค่ำ(แต่ต้องดูภาพรวมตลาดว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลงด้วยนะจ๊ะ)

*หนักไปกว่านั้นก็คือ PTT มีคนจุดประเด็นเรื่องถูกถอดถอนออกจาตลาดหลักทรัพย์ฯออกมาเล่นใช่ช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลงแบบนี้ เท่ากับกระตุ้นนักลงทุนต่างชาติเร่งระบายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก โมนิก้า ถึงหนักใจว่าราคาหุ้นจะหยุดลงได้เมื่อไหร่ เพราะปัจจัยรอบด้านไม่เอื้อให้ราคาหุ้นผงกขึ้นเลยแม้นิดเดียว...แถมในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 80 บาท จะไม่ให้กลัวได้อย่างไรกันหล่ค่ะ *ก่อนจากกันขอบอกว่าการที่ตลาดหุ้นร่วงเละเทะเป็นผลมาจากนักลงทุนไม่แน่ใจกับสถานการณ์นอกตลาด ที่สำคัญวอลุ่มจะหดตามไปด้วย และจะทำให้โอกาสของการทะยานขึ้นเต็มไปด้วยอุปสรรค เพราะแนวต้านจะซอยถี่เสียจนยากจะฝ่าขึ้นไปได้
*ทางที่ดีช่วงนี้เก็บเนื้อเก็บตัวกันสักหน่อยจะดีกว่านะค่ะ

:lol: