April 29, 2024   6:27:11 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ปั่นกันสนั่นเมือง !!!
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 24/11/2007 @ 23:22:38
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นปั่น" เกิดแต่ใด!!! ใครๆ ก็โทษ "ซับไพรม์" เป็น "เหตุ" ทำให้ "หุ้นใหญ่" ถูกต่างชาติทุบ หรือว่า "การเลือกตั้ง" เป็น "เหตุ" ทำให้ "หุ้นเล็ก" พลอยเริงร่า แท้จริง "หุ้นปั่น" เกิดแต่ "ใจ" (เร็วด่วนได้) ใช่หรือเปล่า! นี่คือ ภาวะสุญญากาศ ระหว่าง "สวรรค์" กับ "นรก" ทรัพย์สินเงินทองที่ได้ ประดุจปุยเมฆที่เลื่อนลอย ไม่มีวันอยู่คงที่


-----------------------------------
: คิดจะเล่นหุ้นปั่น มักน้อย..อิ่มง่าย "ได้แล้วเลิก" มักได้..อิ่มยาก "สุดท้ายก็เจ็บ"
----------------------------------



ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง ในตลาดหุ้นก็ยิ่งเต็มไปด้วย "ข่าวลือ" และ "ข่าวลวง" มีครบสูตรการ "ปั่น" ตั้งแต่ "Insider Trading" การซื้อขายโดยอาศัยข้อมูลภายใน "Market Manipulation" การสร้างราคาเพื่อให้ผู้อื่นหลงผิด และ "Misstatement" การปล่อยข่าวลืออันเป็นเท็จ

ดังเช่นข่าว "เสี่ย พ." ถูก Forced Sale หุ้น สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) ที่ บล.ยูไนเต็ด มีคำยืนยันว่า "จริง" แต่อีกคนหนึ่งกลับมองว่า นี่คือการ "สร้างสตอรี่" ทุบหุ้น ก่อนจะกระชากขึ้นไป (ขาย)อย่างแรง

บ้างก็ว่า หุ้น เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) เป็นของ "อาตี๋" นักการเมืองคนดัง วันเดียววิ่งจาก 3 บาท ขึ้นไป 10 บาท บ้างก็ว่าเป็นฝีมือ "ทำหุ้น" กลุ่มเดียวกันกับ หุ้น มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) ที่มีหนึ่งใน "เจ้าภาพร่วม" ที่ชื่อ "โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ"

ที่แน่ๆ หุ้น 2 ตัวนี้ ทำให้ "ชูพงศ์ ธนเศรษฐกร" กรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี และกรรมการตรวจสอบ บมจ.อีเอ็มซี (ของ ชนะชัย ลีนะบรรจง) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน "โกยคะแนน" ไปเต็มกระเป๋า

เมื่อถาม "เซียนหุ้น" กลับชี้เปรี้ยงว่า ระวังไว้ให้ดีเถอะ..วันแรกๆ มีแต่คนจ้องขาย ขาใหญ่ยังออกของไม่ได้ เขาจะรอเล่น "จังหวะสอง" รอให้พวก "หมูไม่กลัวน้ำร้อน" ตามเข้ามาก่อน แล้วค่อย "ทุบ" แล้ว "เลิก"

หุ้น ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) คนรู้จริงยืนยันว่า "เจ้ามือ" มีต้นทุนในมือ "ระดับสตางค์" นะครับ! ยังกล้าเล่นอีกหรือ 8-9 บาท (มันน่ากลัวสุดๆ)

ถามความเห็น สุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี กรณีความเคลื่อนไหวของหุ้นบางตัวที่ราคา ?สวิง? ขึ้น-ลง อย่าง ?ผิดปกติ? สวนทางภาวะตลาดขณะนี้ เขาให้เหตุผลว่า เป็นปกติที่หุ้นขนาด ?เล็ก? จะมีโอกาสถูก ?ปั่นราคา? ได้ง่าย เนื่องจากใช้เงินจำนวนไม่มาก และพฤติกรรมของผู้เล่น ก็มักจะ "เข้าเร็ว-ออกเร็ว"

นอกจากนี้ เดือนพฤศจิกายนยังเป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนต้องทยอยประกาศผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนออกมา รวมถึงแผนธุรกิจในปีหน้า ซึ่งตัวเลขที่ประกาศออกมาสามารถชี้วัดศักยภาพธุรกิจในปีนี้และปีหน้าได้ในระดับหนึ่ง โดยบริษัทที่มีผลประกอบการดี และมีแผนงานที่ชัดเจน แนะนำให้นักลงทุนเข้าไปซื้อหุ้นเก็บเอาไว้

กรณีของ "หุ้นเก็งกำไร" ที่ผลประกอบการ ?ไม่ดี? แต่ราคาหุ้นกลับวิ่งขึ้นสวนทาง รวมทั้งหุ้น "ไอพีโอ" ที่ราคาขึ้นไปเกินพื้นฐานความเป็นจริง สุภากร แนะนำว่า นักลงทุน ?ไม่ควร? เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนมาจาก ?พื้นฐานความจริง? ถึงแม้ว่าราคาจะขึ้นไปได้มาก ก็เป็นเพียงแค่ระยะสั้นๆ สุดท้ายก็ต้องลง

ได้รวบรวมรายชื่อหุ้นที่เข้าข่าย ?หุ้นปั่น-หุ้นเก็งกำไร? ที่นักลงทุนรายย่อยอาจตกเป็น "เหยื่อ" ได้โดยง่าย เริ่มตั้งแต่ "หุ้นขาประจำ? ในค่าย "เสี่ยคนดัง" อย่าง LIVE และ IEC ที่เริ่มกลับมา ?แผลงฤทธิ์? อีกแล้ว และหุ้นที่มี ?สตอรี่? สำคัญเกิดขึ้นในช่วงนี้ คือ SAM WIN RICH และ TRAF

รวมถึงหุ้น ?น้องใหม่? สามสหายที่ร่วมกันเรียกเสียง ?ฮือฮา? ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเทรด ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ ได้แก่ MILL BWG และ TNDT

หุ้นที่ครองแชมป์ ราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดของปีนี้ คือ หุ้น ทราฟฟิกคอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ (TRAF) ต้องชู 2 นิ้วให้ "สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย" ผู้ที่ไม่มี "ตำแหน่ง" แต่มี "อำนาจ" ตัวจริง จากหุ้น ?หมดอนาคต? ราคา 1.80 บาท ถูกลากขึ้นไป 8.25 บาท ได้แบบปาฏิหาริย์

จุดสังเกตุ ราคาหุ้น TRAF เริ่มปรับขึ้นอย่าง ?รุนแรง? ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม เป็นต้นมา ภายหลังได้แรงหนุนสำคัญจากข่าวการถูกซื้อกิจการ โดย เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ด้วยวิธี "แลกหุ้น" แบบไม่ต้องจ่ายสตางค์สักแดง

แท้จริงแล้ว เกมนี้เหมือนกับการ "ขี่ตั๊กแตน" ไล่จับ "ช้าง" ดีลไม่ได้ใหญ่โตถึงขนาดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ TRAF ได้มากเท่ากับราคาหุ้นที่วิ่งไปรออนาคตแสนไกล

อีกตัวที่ ?หวือหวา? สุดๆ ในช่วงนี้ หุ้น สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) โดยราคาหุ้นเริ่มมีการปรับขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นมา จาก ?ข่าวลือ? หลายชุด โดยเฉพาะข่าวความสนใจของ "กลุ่มจีสตีล" ที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์

ต่อมาก็มีข่าวความขัดแย้งของผู้บริหาร กับ "ขาใหญ่" จนกระทั่งราคาลงมาติด ?ฟลอร์? ถึง 3 วัน ในรอบ 10 วัน ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน ที่ผิดปกติก็คือ ราคาหุ้นกลับดีดขึ้นมาเกือบชนซิลลิ่ง หลังจากทุบเก็บหุ้นก้อนใหญ่ได้แล้ว เป็นพฤติกรรมการเล่นหุ้นที่ "โหด" มากๆ

หุ้น ริช เอเชีย สตีล (RICH) ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ผิดปกติ วิ่งจาก 2 บาท ขึ้นไป 12-13 บาท ระวังไว้ให้ดี "เจ้ามือ" ทยอยทิ้งแล้ว "พิมสิริ กีรติเธียรสิริ" กรรมการบริษัท "รวยเละ" ไปแล้ว

หุ้น ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) กับ หุ้น อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) หุ้น 2 ตัวนี้ ถือว่าเป็น "ลูกรัก" พ่อ-แม่ เดียวกัน แต่ IEC ถูกปลุกขึ้นมา "เล่นรอบ" เพราะไม่มีข่าวดีอะไรใหม่ ส่วน LIVE "เสี่ยเจ้ามือ" วางตัวไว้ "เล่นยาว" จากข่าวกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยพยายามขายอนาคต "น้ำบ่อหน้า" สุดท้ายหนีไม่พ้นลากขึ้นมาเพิ่มทุน ใคร "ติดดอย" รอบนี้ ให้ดูกราฟหุ้น IEC เป็นกรณีศึกษา

มูฟเม้นท์ ที่น่าจับตาอีกกลุ่มหนึ่งที่โยงการเมืองโดยตรง หุ้น วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค (WIN) และ หุ้น เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (MLINK) ที่เกี่ยวข้องกับ "ตระกูลวงศ์สวัสดิ์" และ หุ้น เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ของ "ตระกูลชินวัตร"

ความเคลื่อนไหวของหุ้น WIN ตระกูลวงศ์สวัสดิ์ เทขายหุ้นออกมา 192.50 ล้านหุ้น ให้กับกลุ่มสรยุทธ์ เพ็ชรตระกูล กับ จักร จามิกรณ์ ที่ราคาหุ้นละ 1.02 บาท รับเงินเข้ากระเป๋า 196.35 ล้านบาท หลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการ "ขายจริง" หรือ เป็นการ "ฝากหุ้น" ขณะที่ ?ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์" อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลงสนามการเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ แทน "พายัพ ชินวัตร" (คุณอา)

อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจ ก็คือ "ภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา" อดีตประธานกรรมการบริหาร บมจ.วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค คนสนิทของ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และเป็นพี่เลี้ยงให้กับ "น้องเชียร์" ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ตอนนี้ไปนั่งเป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ที่ บมจ.ลิฟวิ่งแลนด์ แคปปิตอล (LL) (เดิมคือ บมจ.นครหลวงเส้นใยสังเคราะห์ หรือ HTX) ที่เตรียมนำกลับมาวาดลวดลายในตลาดหลักทรัพย์เร็วๆ นี้

ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า หุ้น LL กลับมาเมื่อไร "ฝุ่นตลบ" อีกแน่นอน

ขณะที่หุ้น MLINK ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรที่น่าสนใจ ฐานะการเงินขณะนี้ต้องเพิ่มทุน และหาธุรกิจใหม่มาใส่สถานเดียว "ถึงจะไปรอด" ส่วนหุ้น SC เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ถึงจะเก็งกำไรก็มีฐานรองรับ

ทางด้านกลุ่มหุ้นไอพีโอทั้ง 3 ตัว คือ หุ้น ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) หุ้น เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) และ หุ้น มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ (MILL) เช็คมุมมองนักวิเคราะห์จากหลายค่าย ฟันธงว่า หมดเวลาเล่นแล้ว เพราะราคาเกินพื้นฐานความเป็นจริง ใครที่มีหุ้นอยู่ในมือ "รอขาย" อย่างเดียว ส่วนคนที่ยังไม่มีหุ้น "อย่ายุ่งกับมัน"

หุ้น TNDT ปรับขึ้นจากไอพีโอ 3.10 บาท ขึ้นไปสูงสุดที่ 11.70 บาท หุ้น BWG จากราคาไอพีโอ 3 บาท ขึ้นไปสูงสุด 10 บาท ภายในวันแรกของการเข้าเทรด หุ้น MILL ขึ้นจากราคาไอพีโอ 2.90 บาท มายืนที่ระดับสูงสุด 6.45 บาท

มีข้อสังเกตว่า หุ้นทั้ง 3 ตัวนี้ ต่างก็มีออเดอร์จองหุ้นไอพีโออย่าง "ล้นหลาม" ตั้งแต่ยังไม่ทันตั้งโต๊ะขายด้วยซ้ำ และหุ้นส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือ ?รายใหญ่" กับ "นอมินี" ถึงมือรายย่อยตัวจริงค่อนข้างน้อย และมีการ "นับหุ้น" กันเองภายในกลุ่มด้วย ทำให้มีหุ้นหมุนเวียนในตลาดค่อนข้างน้อย จึงทำราคาขึ้นไปได้ง่าย

ข้อสังเกตของหุ้นที่ถูก "ชูต" ขึ้นไปสูงมากๆ ในวันแรกที่เข้าเทรด "เจ้ามือ" มักจะรอขาย "จังหวะสอง" เพราะตอนที่ลากขึ้นไปวันแรก มีแต่ "เจ้าภาพ" เล่นกันเอง..ช่วงนี้ "เจ้าภาพ" จะบอกพระว่า อย่าเพิ่งสวด "รอแขก" (แมลงเม่า) อีกเดี๋ยว..หลวงพี่!!!

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek [/color:46d5349c80">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com