May 17, 2024   2:20:17 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : วัดกำลัง!
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 26/11/2007 @ 08:22:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*การซื้อกลับของนักลงทุนรายย่อยผสมโรงกับนักลงทุนสถาบัน ทำให้หุ้นบลูชิบจำนวนมากเริ่มกลับมาตั้งลำอย่างแข็งแกร่ง โมนิก้า ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะโมเมนตัมรอบเก่าที่มีการลงแรงมา 100 จุดนับแต่ปลายเดือนที่แล้ว หรือ ปรับตัวลงไปกว่า 10% น่าจะจบรอบไปแล้ว เหลือไว้แต่โมเมนตัมรอบใหม่

*สิ่งที่เราจะเห็นเช้าวันนี้ก็คือ อาจจะมีการแกว่งไกวในช่วงเช้าของหุ้นที่รีบาวนด์กลับขึ้นมา เนื่องจากบางตัวกลับขึ้นมาเร็วเกินไป จนมาอยู่ที่แนวต้านแรกพอดี ดังนั้น จึงต้องถูกขายออกไปบ้าง แต่ในการแกว่งไกวนี้ หากไม่มีใครไหวหวั่นแบบ"สติแตก"แล้วละก้อ "โมนิก้า"ขอย้ำว่า ดัชนีน่าจะยืนหยัดเหนือแนวรับ 800 จุดได้อย่างมั่นคง

*สำหรับมหกรรมการลากไปเชือด ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำอีกจนชินตา "โมนิก้า" บอกตามตรงว่ารู้สึกเฉยๆ และไม่ได้สะทกสะท้าน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในยามที่นักลงทุนต่างชาติปรับพอร์ตการลงทุน...ช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาถึงมีแรงเทขายออกมาไม่ได้ขาดสาย และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ดัชนีดิ่งเหวแบบไม่มีหูรูด

*วันนี้เดี๊ยนขอพูดเฉพาะหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมที่หายวับไปในอดีต เพราะพูดึงหุ้นกลุ่มบลูชิพมากๆ ทีไร นักลงทุนมักชอบถามว่าเดี๊ยนมีอะไรเป็นประจำ จึงขอรื้อฟื้นความทรงจำในอดีตกันเสียหน่อย เพื่อจะได้กระตุ้นสตินักลงทุนหน้ามืดตามัวบางคนได้บ้าง

*หุ้นไฟแนนซ์ตกอยู่ในชะตากรรมขาลง เหมือนกันทั้งหมด แต่รายที่น่าเห็นใจสุดๆ ก็คือ
PHATRA จนบัดนี้ยังโงหัวไม่ขึ้น ราคาหุ้นนับวันจะถอยหลังลงคลอง แถมแรงซื้อหดหายไปดื้อๆ และมีแต่แรงเทขายออกมาเพียวๆ แบบนี้ งานนี้จะเอาเงินมาทุ่มซื้อหุ้นก็คงไม่คุ้มแล้วหล่ค่ะ เพราะการเด้งขึ้นรอบนี้เป็นเพียงขึ้นเพื่อลงนะซี...

*ยิ่งมีพวกหลังเขาบางคนบอกว่า "นี่เป็นการหลุดราคาจองซื้อครั้งแรก" ยิ่งบอกให้เดี๊ยนรู้ว่า คนพวกนั้นเป็นคนไม่มีหัวคิดเสียเลย เพราะเห็นใครพูดอะไรก็เชื่อตามไปหมดเนื่องจากการอ่อนตัวจนหลุดราคาจองหนนี้เป็นรอบที่ 4 แล้วนั่นเอง..อิอิอิ

*ส่วนหุ้นแบงก์ใหญ่อย่าง BBL KBANK และ SCB ที่เกจิอาจารย์หลายสำนักทึกทักว่าต้อง ซื้อ...ซื้อ...ซื้อ...เท่านั้น เพราะของถูกๆ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว "โมนิก้า" ได้ฟังวลีดังกล่าวแล้วต้องขอยกมือสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะภาวะหน้าสิ่ว หน้าขวาน หากไม่แนะนำให้นักลงทุนรายย่อยช่วยกันซื้อ แล้วใครหน้าไหนจะเข้ามาซื้อหล่ะค่ะ

*สาเหตุที่ "โมนิก้า" กล้าแนะนำให้เข้าไปซื้อเพราะแรงเทขาย เริ่มเบาบางประกอบกับแรงขายที่มีออกมาพักหลังๆ ก้เริ่มเบาบาง โอกาสที่หุ้นจะกลับลำทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมมีมากกว่า 50% อย่างแน่นอน...งานนี้ถือว่าบอกหุ้นทีเด็ดให้มิตรรักแฟนเพลงกันอย่างถ้วนหน้า หากยังไม่เชื่อหล่ะก้อ คงต้องปล่อยไปตามเวร ตามกรรม

*SCIB ราคายังลงต่อเนื่องไม่มีหยุด "โมนิก้า" ก็เลยเป็นห่วงคนที่ชอบช้อนของถูกที่ไม่ดูตาม้าตาเรือจำนวนมากว่า ไปหลับไหลหรือหลงละเมอที่ไหน เพราะอย่างที่รู้ ธนาคารแห่งนี้มีปัญหารุมเล้าหลายด้าน แถมแผนควบรวมก็ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร มองจากมุมไหนด้านไหน ก็มีปัญหาไปหมดแบบนี้ไงหล่ะ ราคาหุ้นถึงไหลแบบไม่มีหูรูดไงหล่ะจ๊ะ

*TRUE นี้ก็อีกราย ไม่รู้เชียร์กันเข้าไปได้ยังไง ค่า P/E ก็คิดคำนวณไม่ได้ แถมสตอรี่ก็ดูพื้นๆ ไปหมดสียทุกเรื่อง ตอนนี้ทำท่าจะทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม ราคาปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 6.80 บาท ไม่ถือว่าถูกค่ะ แม้จะใกล้เคียงกับราคากอนหน้านี้ แต่"โมนิก้า"ขอพูดตรงๆว่า หลีกให้ห่างเข้าไว้ก่อนยามนี้ค่ะ...โอเวอร์ แวลลู...ไม่ใช่เพราะรักหรือชัง

*ส่วนหุ้นที่สาระวนกับการปรับโครงสร้างทางการเงินอย่าง TT&T ออกอาการหลุดโลกไปซะแล้ว หลังจากสัญญาณทางเทคนนิคฟ้องว่าหุ้นเข้าเขตขายมากเกินไป แต่หุ้นกลับไม่ยอมหยุดไถลลงสักที "โมนิก้า" เลยตั้งข้อสังเกตว่าหุ้นอาจจะลงไปลึกกว่าที่เป็นอยู่ ปิดตลาดหุ้นอยู่ที่ 1.05 บาท ยังถือว่าครึ่งผี ครึ่งคนนะจะบอกให้

*AOT ยืนหยัดเหนือแนวรับ 60 บาทอย่างแข็งแกร่ง ทั้งที่ตัวเลขผลประกอบการสุดจะห่วย นั่นหมายความว่า ฐานราคาตอนนี้กำลังจะย้อนกลับมาเป็นราคาอ้างอิงรอบใหม่ส่วนโอกาสที่หุ้นจะทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมยังเป็นเรื่องี่ต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป....งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ระวังอาการ hard landing โดยเฉพาะภาวะตัวเลขผลการดำเนินานสุดเห่ยเช่นนี้

* "โมนิก้า" บอกตามตรงว่า ภาวะตลาดหุ้นยามนี้ลุ้นขึ้นลำบากจริงๆ เพราะต้องวัดกำลังซื้อของนักลงทุนรายย่อย กับแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติว่าใครจะมากกว่ากัน ซึ่งจะเป็นตัวบอกว่าดัชนีวันนี้จะขึ้นหรือลงนะจ๊ะ


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 26/11/2007 @ 08:23:37 :
วิเคราะห์สัปดาห์ : ยังอยู่ในเขตขายมากเกินไป

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติ คือตัวแปรหลักที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวจนหลุดแนวรับ 820 จุดลงมาอย่างง่ายดาย หลังจากวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาเรื่องซับไพร์มที่เริ่มกลับมาปะทุรอบใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก
แย่ไปกว่านั้นก็คือ สถานการณ์ดังกล่าวลุกลามไปยังตลาดหุ้นทั่วโลก จนมองไม่ออกว่าเรื่องดังกล่าวจะคลี่คลายลงเมื่อใด เพราะตราบใดที่ปัญหาดังกล่าวยังฝังใจนักลงทุนเท่ากับเป็นตัวกระตุ้นนักลงทุนเร่งเทขายหุ้นออกมาเรื่อยๆ

เนื่องจากการทนถือหุ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นขาลงมีแต่ขาดทุนสถานเดียว การเทขายหุ้นทิ้งแล้วไปรอรับที่ราคาต่ำกว่า จึงเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนนำมาใช้มากสุดในยามนี้ ซึ่งมันหมายถึงดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อในอนาคต

ทั้งที่ดัชนีเข้าเขตขายมากเกินไปเป็นเวลานานหลายวัน แต่ดูเหมือนว่าแรงเทขายทำกำไรไม่ได้เบาบางลงแต่อย่างใด หลังปัจจัยลบในประเทศและต่างประเทศนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะเรื่องการถอดถอน ปตท. ออกจากตลาดหุ้นไทย ถือเป็นเรื่องที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติความเชื่อมั่นเป็นอย่างมาก จึงระดมเทขายหุ้นกลุ่มต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องจนยอดซื้อสะสมที่เคยมีกว่า 1 แสนล้านบาท ลดลงเหลือแค่ 6 หมื่นล้านบาท เพียงระยเวลาไม่กี่สัปดาห์

ด้วยจำนวนเม็ดเงินสะสมที่ลดลงอย่างรวดเร็ว และไม่น่าจะมีแรงเทขายหนักๆ ออกมาอีก จึงเชื่อว่าโอกาสนี้เหมาะที่จะเข้าช้อนซื้อหุ้นสะสมไว้ในพอร์ตเป็นอย่างมาก เพราะหุ้นหลายตัวลงมามากเกินไปแล้วนั่นเอง

สำหรับกลุ่มหุ้นที่ควรเข้าช้อนซื้อมากที่สุด คือ หุ้นกลุ่มแบงก์ ปิโตรเคมี พลังงาน และสื่อสาร เพราะหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังคงความสามารถในการทำกำไรได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีสตอรี่ดีๆ คอยซับพอร์ตตลอดเวลา

ที่สำคัญการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาได้กว่า 15 จุด ก็ยังเป้นภาวะที่ดัชนียังอยู่ในเขตขายมากเกินไป จึงเชื่อว่าการปรับตัวของดัชนีในครั้งจะส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้อีก
โดยสัปดาห์นี้แนวรับสำคัญอยู่ที่ 800-780 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่ 840-850 จุด


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com