May 16, 2024   6:38:25 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นถูกจนไม่กล้าซื้อ.....?
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 26/11/2007 @ 09:42:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : ไก่ทอง

หัวคอลัมน์ : หุ้นถูกจนไม่กล้าซื้อ.....?

แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะสั้นเริ่มเสถียรมากขึ้น แต่ความกังวลเกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนระยะสั้นยังดำเนินต่อไปทำให้นักลงทุนยังคงใช้กลยุทธ์ ?รอดูทิศทางตลาด หรือเลือกลงทุนเป็นรายตัว?
เพื่อเตรียมตัวพร้อมสำหรับรอบการเก็งกำไรรอบใหม่โดยมีกรอบในการลงทุนระหว่างดัชนี 795 ? 840 จุด
และคาดว่าจะมีจุดหยุดการขาดทุนเกิดขึ้นหากดัชนีทดสอบแนวต้านบริเวณ 840 ไม่ผ่านและอ่อนตัวต่ำกว่าระดับ
800 จุดอาจจะก่อให้เกิดการขายอีกครั้งเพื่อทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 775 จุดก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่ชัดเจน

ในช่วงก่อนวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะหาจุดต่ำสุด และคาดว่าเดือนพฤศจิกายนอาจจะเป็นเดือนที่บอบช้ำที่สุดสำหรับการลงทุนของตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักมาจากปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทั่วโลก รองลงมาคือ ตลาดหุ้นส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับจุดสูงสุดของปีเมื่อเดือนตุลาคม

ดังนั้นจึงก่อให้เกิดการขายทำกำไรกระจายไปยังหุ้นทุกตลาดและแทบจะทุกกลุ่มซึ่งเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญโดยมีแนวรับบริเวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันเป็นจุดเสี่ยงสำหรับเล่นตีกลับทางเทคนิคแนวโน้มของตลาดหุ้นนิวยอร์คทางเทคนิคแล้ว ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ยังค่อนข้างอันตรายมาก เพราะรูปแบบการเคลื่อนไหวของดัชนีดูเหมือนว่าจะพบจุด Peak ของตลาดบริเวณ 14000 จุดโดยตลาดหุ้นนิวยอร์คทำรูปแบบ Double tops พร้อมทั้งทำ Bearish Divergence ของสัญญาณ Indicators ลูกที่ 3 และปรับตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 200 วันเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งในทางเทคนิคหมายความว่าตลาดหุ้นอเมริกากำลังเดินแนวโน้มหมีระยะแรก ๆ แบบชัด ๆ ซึ่งหากตลาดหุ้นดาวโจนส์วันศุกร์ไม่สามารถยืนเหนือ 13,250 จุดได้แสดงว่า จิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นหากอิงกับตลาดหุ้นอเมริกาเป็นในเชิงลบมากกว่าบวกค่อนข้างชัดเจน

ดังนั้นหากมองตัวแปรหลัก ๆ คือตลาดหุ้นต่างประเทศ แนวโน้มหลักทางเทคนิคของตลาดหุ้นไทย
และพิจารณาจากตัวแปรสำคัญ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยแล้ว

ตอนนี้คาดว่านักลงทุนมองดอกเบี้ยต่ำว่าสาเหตุมาจากเศรษฐกิจสหรัฐไม่ดี และมีความหมายเชิงกระตุ้นทิศทางตลาดหุ้นขาขึ้นเพียงรอบเล็ก ๆ เมื่อตลาดอ่อนตัวมาแรง ๆ ก็จะมีแรงตีกลับกระตุกขึ้นเป็นรอบ ๆ มากกว่า
ดังนั้นหากเล่นหุ้นระยะสั้นคาดว่ายังเป็นเพียงการเก็งกำไรการตีกลับทางเทคนิค โดยมีผลประกอบการงวดสิ้นปีเป็นตัวล่อ และคาดว่าตัวล่อนั้นไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เพราะทั้งประเทศไทยและประเทศอเมริกาต่างออกมาประกาศลด

?อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GDP? ทั้งคู่ ซึ่งหมายความว่าเราเอาผลการดำเนินงานงวด
9 เดือนเป็นตัวตั้งมากกว่าผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ที่จะประกาศออกมาในกลางเดือนมกราคม
ดังนั้นคาดว่ากลาง ๆ เดือนธันวาคม หรือต้นเดือนมกราคมอาจจะยังสามารถหาจังหวะซื้อหุ้นได้ เพราะในเดือนธันวาคมกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ลดลงเนื่องจากจำนวนวันทำการน้อย และเป็นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่วุ่นอยู่กับ การท่องเที่ยวหรือการอวยพรกัน

แต่คาดว่าภาวะเงินเฟ้อและสินค้าราคาแพงขึ้น ตลอดจนเศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ดังนั้น อาจจะทำให้ตลาดหุ้นระยะสั้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ แทนที่จะมีการฟื้นตัวแบบรวดเร็วหวือหวา เว้นแต่ก่อนวันที่ 11 ธันวาคมที่จะมีการประชุมคณะกรรมการ FOMC

หากราคาหุ้นยังอยู่ที่ต่ำอาจจะก่อให้เกิดกระแสการเก็งกำไรเรื่องทิศทางดอกเบี้ยอีกครั้งซึ่งสามารถกระตุ้นตลาดหุ้นระยะสั้นได้บ้างชั่วคราว
ดังนั้นกลยุทธ์ยังคงเน้นความปลอดภัยในการลงทุนสูงเพราะตัวแปรเหนือการควบคุมยังมีอิทธิพลต่อทิศทางการลงทุน ดังนั้นการเลือกหุ้นประเภท ?ฐานะการเงินดีแข็งแรง มีปันผล และราคาน่าสนใจ? คาดว่าจะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ลดอัตราเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง

RRC หุ้นโรงกลั่นน้ำมันราคาหุ้นได้ปรับฐานราคาลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่อนข้างสวนกับข้อเท็จจริงเรื่องราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าทำจุดสูงใหม่ ถามว่าทำให้ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนี้ ดีขึ้น หรือแย่ลงเมื่อเทียบกับราคา RRC ก่อนหน้านี้ที่เคยขึ้นไปที่ 25 บาทเป็นเวลานาน ดังนั้นการอ่อนตัวของราคาหุ้นตัวนี้จากระดับ 27 บาท หรือจากราคาเฉลี่ยประมาณ 25 บาทมาบริเวณ 20 -18 บาทเป็นการลดลงของราคาประมาณ 30% ดังนั้นการวางกลยุทธ์ซื้อเก็งกำไรหุ้นตัวนี้คาดว่าจะอยู่บริเวณแนวรับ 20 ? 2 บาท หรือประมาณ 18
บาทคาดว่าจะเป็นจุดเสี่ยงซื้อเพื่อเล่นรอบสั้น

TOP ราคาหุ้นหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 85 บาทลงมาหลังจากรอบการขึ้นจากระดับ 50 บาทไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 99.50 บาท ดังนั้นระยะสั้นคาดว่ายังเห็นภาพการอ่อนตัวของ TOP ดำเนินต่อไป แต่อาจจะมีการตีกลับรอบเล็ก ได้บ้างตามภาวะตลาดแต่คาดว่าไม่น่าตื่นเต้นมากนัก จุดเสี่ยงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอยู่บริเวณ

ต่ำกว่า 80 บาทหรือใกล้ ๆแนว 75 บาทคาดว่าจะเป็นจุดเสี่ยงซื้อหากตลาดยืนเหนือ 800 จุดได้ และหุ้นใหญ่ฟื้นตัว
สำหรับหุ้นเกรดเก็งกำไรและปัจจัยพื้นฐานยังไม่เด่นแต่ราคาหุ้นเริ่มเข้าบริเวณเสี่ยงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นได้ในลักษณะ ?ซื้อมาขายไป? เช่น TRUE TPIPL PSL TTA เป็นต้น

ทันหุ้น[/size:35b72e26bf">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com