*"โมนิก้า" คาดการณ์ผิดไปเล็กน้อย เพราะเชื่อว่าดัชนีจะมีการปรับตัวไซด์เวย์ โดยลงไปบ้างเล็กน้อยก่อนขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 830 จุด แต่แรงซื้อที่คั่งค้างมาจากสัปดาห์ก่อนยังไม่หมดง่ายๆ ก็เลยดันดัชนีพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ 832.78 จุด บวกไป 8.53 จุด อย่างแข็งแกร่ง แบบนี้ถือว่าดีเกินคาดจริงๆ..จึงขอแสดงความยินดีกับบรรดา"เขียวยกแผง"ด้วยนะคะ

*แรงซื้อที่เข้ามาค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ ซึ่งมากกว่าหมื่นล้านบาท แถมยังกระจายไปยังหุ้นกลุ่มต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่เริ่มกลับมามีมากขึ้น...ตามรูปการณ์แล้ว น่าจะเป็นเพราะความเชื่อว่า ?ดัชนีปรับตัวลงมากเกินไป? นะค่ะ

* พิจารณาจากกลยุทธ์ของการลุยหุ้นของนักลงทุนรายย่อยและกองทุนในประเทศน่าจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนบรรดานักลงทุนต่างชาติให้หยุดทำการขายได้เสียที เนื่องจากมีคนพร้อมจะซื้อ ซึ่งจนถึงวันนี้สัญญาณดังกล่าวก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ...งานนี้ถ้านักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้ออีกครั้ง ก็เป็นอันมั่นใจได้ว่า กลยุทธ์นี้ได้ผลค่ะ

* สิ่งที่แน่นอนและประจักษ์สายตานักลงทุนทุกรายก็คือ แนวรับที่ 800 จุด แข็งแกร่งเกินคาดหมาย หลังมีแรงช้อนซื้อเข้ามารับหุ้นไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเมื่อมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่ม แบงก์ ปิโตรเคมี และพลังงาน ยิ่งทำให้ขาลงของตลาดหุ้นจบสิ้นลงอย่างเป็นทางการ
...แสดงว่าอาการวิตกจริตของนักลงทุนหายเป็นปลิดทิ้งแล้วแน่นอน

* ที่สำคัญ หุ้นที่เคยเป็น benchmark อย่าง PTT BANPU และ PTTEP กลับมาทำหน้าที่ประคับประคองดัชนีอีกครั้ง หลังจากละทิ้งภารกิจอย่างไม่สมควรเร็วเกินคาดหมายถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับทำให้ทิศทางของดัชนีเด่นชัดขึ้นเป็นทวีคูณโมนิก้า ถึงอยากให้นักลงทุนฉวยโอกาสนี้ซื้อหุ้นเต็มที

* KBANK และ SCB ก่อนหน้านี้อาจเป็นบัดดี้กันในช่วงขาลง ควงแขนกันร้องเพลง"สาละวันเตี้ยลงๆๆๆ...ต่อเนื่องมานานเดือน แต่พอตลาดหุ้นเริ่มกลับเป็นขาขึ้นอีกหน งคู่ก็ควงแขนกันขึ้นอีกรอบอย่างแข็งแกร่ง...งานนี้ไม่ต้องามถึงว่าจะเล่นหุ้นตัวไหนดีกว่ากันเพราะเดี๊ยนเองก็ชอบทั้งคู่...ตอนนี้ก็ยังชอบทั้งคู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเจ้าค่ะ

*วุ่นวายไม่เลิกก็คงเป็นหุ้น TMB ไปๆ มาๆ ดันจะมีรายการปลด กรรมการผู้จัดการใหญ่ ขึ้นมากระทันหัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่อะไรในก่อไผ่ จู่ๆ นักลงทุนรายย่อยจะมารวมตัวเพื่อเรียกร้องให้ปลดผู้บริหารรายนี้ โมนิก้า คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เพราะเข้าทำนอง ทีทับไม่ร้อง ทีท้องให้รับ ...ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนรับไม่ได้จริงๆ

*ยับเยินไม่แพ้กันก็คือ SCIB จนบัดนี้ โมนิก้า ยังไม่เห็นผู้บริหารโผล่มาให้ข่าวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวธนาคาร ทั้งที่ข่าวลือทางด้านลบแพร่สะพัดไปทั่วห้องค้า...งานนี้ก้เลยไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วตัวธนคารมีปัญหาแต่ไหนแต่ไร หรือบอร์ดบริหารชุดนี้ไร้ประสิทธิภาพกันแน่...เพราะก่อนหน้านี้แย่งชิงเข้ามาเป็นผู้บริหารกันอุตลุด แต่เข้ามาแล้วก้ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น น่าสมเพชจริงๆ !!!

* AOT พยายามออกอาการขยันอีกวันหนึ่งในช่วงครึ่งชั่วโมงแรง แต่เอาเข้าจริงก็แหกค่ายซ้อมมวยเหมือนสมรักษ์ คำสิงห์ เสียอีกแล้ว...ราคาหุ้นถึงฝ่าแนวต้านที่ บาทไม่ได้ ก็ลงมาหอบแฮ่กๆเหมือน"หมาหอบแดด"อยู่ที่ 60.50บาท ใครที่คิดจะขายเหนือราคา 65 บาทในวันนี้ คงต้องผิดหวัง..รออีก 2 สัปดาห์อาจได้เห็นนะจ๊ะ

*หมู่นี้ โมนิก้า ต้องพูดถึงหุ้นเจ้าจำปี THAI เป็นประจำทุกวัน เพราะราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกลายเป็นตัวกดดันผลประกอบการเต็มๆ ราคาหุ้น็เลยอืดถึดถืออย่างแรง ...งานนี้ไม่ต้องนั่งลุ้น นอนลุ้น ให้เสียเวลา เพราะโอกาสที่หุ้นจะทะยานขึ้นแรงๆเหมือนก่อนหน้านี้เป็นเพียงความฝันลมๆ แรงๆ ของคนที่ไม่ยอมรับความจริงนะซี

* ช่วงนี้ หุ้นสื่อสารกลายเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยจะเอาไหนกัน เพราะผลประกอบการพลาดเป้าที่ตั้งไว้ค่อนข้างเยอะ ตัวอย่างเห็นได้ง่ายก็ ADVANC ที่ราคาร่วงมานานวัน พอจะขยับขึ้น ก็มีขีดจำกัด จะกลับไปเหนือ 90 บาทค่อนข้างแสนเข็ญ ถ้าวันนี้ขยับขึ้นแรงๆต่ออีกวัน โมนิก้า ขอแนะนำให้ขายทำกำไรออกไปก่อนได้เลย เพราะราคาหุ้นแถว 100บาทก็เล่นเอาคนถือหุ้นลุ้นจนหืดขึ้นคอนั่นเอง

*ทางด้าน BEC ไม่มีที่พึ่งยามยาก และไม่มีตัวช่วยให้เลือกมานัก แต่อาศัยตัวเลขผลประกอบการที่แจ่มแจ๋วเป็นตัวค้ำยัน ราคาหุ้นถึงได้ทำ all time new high เป็นประจำในช่วงที่ดัชนีปรับตัวเป็นขาขึ้น "โมนิก้า" จึงต้องบันทึกและจดจำไปอีกนาน แนวต้านใหม่อาจขวางกันการทะยานขึ้นอยู่ก็จริง แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และต่อให้เอาช้างมาฉุดก็คงจะเอาไม่อยู่... เพราะหุ้นอยู่ในช่วงขาขึ้น
*ใครที่ยังไม่กลับเข้าตลาดหุ้น แล้วบังเอิญตกขบวน "ซื้อของถูก ละก้อ โทษ "โมนิก้า" ไม่ได้นะคะ...ของดีไม่มีบ่อยค่ะ


:lol: