May 17, 2024   6:31:41 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ลุยโลดหุ้นถ่านหินมาแรงแทนที่น้ำมัน !
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 30/11/2007 @ 08:41:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เจอตอหุ้นบ้านปูแรงแซงปตท. อินเทรนด์กระแสทั่วโลกวิ่งหาพลังงานทดแทน ถ่านหินมาแรงสุดดีมานด์เพิ่มตลอด พ่วง UMS ลานนา ตามติดเผยราคาตลาดโลกล่วงหน้าพุ่ง 83-86 ดอลลาร์ต่อเมกตริกตัน ไม่สนใจน้ำมันที่ปรับลงแต่ถ่านหินยังแรง วงการเชื่อปีหน้าแตะ 100 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์ชี้ปีนี้หุ้น 3 ตัวนี้ปันผลเพิ่มจากปีที่แล้ว เพราะรายได้ทะยาน

เทรนด์ถ่านหินของทั่วโลกกำลังมาแรง เป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนให้ความนิยมหุ้นถ่านหินแทนที่กลุ่มน้ำมัน นักวิเคราะห์ทั้งในประเทศและต่างชาติระบุว่า พลังงานทดแทนจะกลายเป็นเรื่องที่ทั่วโลกต้องหันมามองกันมากขึ้นแทนก๊าซและน้ำมัน

ดังนั้นขณะที่ราคาน้ำมันโลกอ่อนตัวลงแต่ราคาถ่านหินกลับไม่อ่อนตัวตามราคาน้ำมัน วานนี้ปรับตัวลงอยู่ที่ 91 เหรียญดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแตะ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนถ่านหินขึ้นมาราว 83-86 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมกตริกตัน ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยจาก 80 ดอลลาร์สหรัฐ และถ้าน้ำมันกลับมาปรับสูงอีก ถ่านหินก็จะสูงตามขึ้นอีก

ผู้เชี่ยวชาญวงการถ่านหินมองว่า ราคาในตลาดโลกมีโอกาสขึ้นไปถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมกตริกตัน เพราะแต่ละประเทศหันมาใช้ถ่านหินกันมากขึ้น เช่น จีน ญี่ปุ่น และในแถบยุโรป อเมริกา รวมทั้งการนำถ่านหินไปใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า แม้กระทั่งในไทยอนาคตก็ต้องมีโรงไฟฟ้าถ่านหินมากกว่าปัจจุบัน หลังจากประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น

นอกจากนั้นโบรกเกอร์หลายสำนักในไทยเชื่อว่า หุ้นกลุ่มถ่านหินจะกลายเป็นหุ้นยอดนิยมขึ้นมาเบียดกลุ่มพลังงาน เพราะนักลงทุนรายใหญ่และสถาบันจะชอบเล่นมากกว่า เนื่องจากหุ้นมีสภาพคล่องน้อย แตกต่างจากกลุ่มน้ำมัน ที่มีผู้ถือหุ้นมาก นักลงทุนรายใหญ่จึงนิยมบ้านปู และเล่นหุ้นบิ๊กแคปไม่ต้องกลัวทางการจับตามอง หรือเจอข้อหาปั่นหุ้น

อย่างไรก็ตามหุ้นถ่านหินที่ร้อนแรงทุกตัว เช่น บ้านปู UMS LANNA แม้ที่ผ่านมาจะถูกมองด้วยว่า มีมือดีทำราคา บางกระแสในห้องค้าก็กล่าวขานกัน มีการให้หุ้นไปทำราคา คนที่เป็นไอ้โม่ง ก็มีทั้งนักลงทุนรายใหญ่ที่ชอบเล่นหุ้นใหญ่ และ เสี่ยอ. หรือ ฉายาเสี่ยซีทีเอ็กซ์ แต่นักวิเคราะห์ก็ยอมรับ หุ้นเหล่านี้มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีรองรับ เช่น ปีนี้คาดการณ์ทุกตัวจะจ่ายเงินปันผลได้มากกว่าปีที่แล้ว

วานนี้หุ้นถ่านหิน ทุกตัวราคาจึงปรับเพิ่มมาก โดยเฉพาะ บ้านปู บวก 20 บาท ปิด 436 บาท วอลุ่มซื้อขายกว่า 1.5 พันล้านบาท UMS บวก 50 สตางค์ ปิด 29.25 บาท วอลุ่มกว่า 66 ล้านบาท LANNA บวก 30 สตางค์ ปิด 18.80 บาท วอลุ่มเทรดกว่า 126 ล้านบาท

นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ UMS ทำธุรกิจจัดจำหน่ายถ่านหินในประเทศป้อนโรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก กล่าวว่า ปริมาณความต้องการถ่านหินในตลาดโลกมีมากขึ้นจริง ตามกระแสพลังงานทดแทน แต่ราคาถ่านหินจะไม่ปรับตัวหวือหวาเช่น ราคาน้ำมัน ที่เวลาขึ้น และ ลง จะแรง แต่ราคาถ่านหินจะค่อย ๆขยับ

กรรมการผู้จัดการ UMS ยอมรับว่า ประเด็นดังกล่าวทำให้ปีนี้ยอดขายบริษัททะลุเป้าที่วางไว้ และรายได้ก็มากกว่าปีที่แล้ว ส่วนปีหน้าก็เชื่อว่าจะดีกว่าปีนี้ ตั้งเป้าจะเพิ่มยอดขายขึ้น 30% แต่มั่นใจว่าจะทะลุมากกว่า 50%

ส่วนการขึ้นราคาขาย 25% นายชัยวัฒน์อธิบายว่า ตัวเลขนี้บริษัทวางเพดานไว้และทยอยขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ขยับไปแล้ว 10-15% ปีหน้าจะเหลือส่วนต่างให้ขึ้นได้อีก 10% ก็จะใช้วิธีค่อย ๆขยับไม่ขึ้นพรวดเดียว

สำหรับการจ่ายเงินปันผลนายชัยวัฒน์ยอมรับว่า ถ้าเทียบกับรายได้เพิ่มขึ้น ก็มีแนวโน้มที่จะให้มากกว่าปีที่แล้ว บริษัทมีนโยบายให้เงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิและปีนี้ในระหว่างกาลไปแล้ว 50 สตางค์

นาย อนุพนธ์ ศรีอาจ นักวิเคราะห์กลุ่ม พลังงาน บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาถ่านหินนั้นยังเป็นขาขึ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว และคาดว่าอาจะปรับตัวขึ้นไปถึง 100 ดอลลาร์ /ตัน จากปัจจุบันที่ราคาอยู่ในระดับ 80 ดอลลาร์ปลายๆ

ปัจจัยที่ เป็นตัวกระตุ้นราคาถ่านให้ให้ปรับตัวในระยะสั้นคือ ปัจจัยที่ ประเทศ ออสเตรเลีย และอินโดนีเชียผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ประสบปัญหาฝนตกหนักในประเทศ จนเป็นปัญหาในการผลิตป้อนดันตามความต้องการประกอบกับก่อนหน้านี้ประเทศที่มีความต้องการบริโภคถ่านหินอย่าง ประเทศจีน และประเทศภูมิเอเชียตะวันออกได้มีการสั่งซื้อถ่านหินสำรองล่วงหน้าเพื่อป้องกันเกิดเหตุการณ์วัตถุดิบไม่เพียงพอกับความต้องการ ซึ่งเป็นสาเหตุผลักดันราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนปัจจัยที่มีผลผลักดันราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น คือความต้องการใช้ถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้ายังเพิ่มสูงต่อเนื่องประกอบกับกำลังการผลิตปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด โดยประเทศที่ใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้า

นายอนุพนธ์ คาดว่าปีนี้ BANPU จะจ่ายปันผลทั้งปี 8.50 บาท สูงจากปีที่ผ่านมาที่จ่ายปันผล 7.50 บาท โดยที่ผ่านมาได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 3.75 บาท ฉะนั้นยังคงเหลือจ่ายงวดสิ้นปีอีกราว 4.75 บาท
ด้านบล.กิมเอ็ง แนะนำซื้อเก็งกำไร UMS ให้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 35 บาท มีปัจจัยบวกใหม่หลายประการ ที่จะช่วยหนุนราคาหุ้น

1) การขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดจาก 170 รายเมื่อปลายปีก่อนเป็น 330 รายในปัจจุบันและยังมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกประมาณ 100 รายที่มีโอกาสพัฒนาเป็นลูกค้าได้ในอนาคต ซึ่งหมายถึงรายได้และผลกำไรที่จะเติบโตอย่างโดดเด่น

2) ปรับราคาจำหน่ายถ่านหินในปีหน้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 25% ช่วยเพิ่มรายได้และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ระดับ 30% ได้

3) โครงการถ่านหินอัดก้อนที่จะเริ่มจำหน่ายเต็มที่ในปีหน้า คาดทำรายได้ให้บริษัทประมาณ 400 ล้านบาท

4) โครงการ coal gasification คาดเริ่มทำรายได้และผลกำไรให้กับบริษัทในปี 52 ต่อยอดผลกำไรให้มีการเติบโตต่อเนื่อง

5) ความต้องการใช้ถ่านหินจากตัวเลขการนำเข้าถ่านหินที่เพิ่มขึ้นถึง 39% yoy (ในช่วง
8 เดือนแรกของปี) กิมเอ็งจึงคาดว่า ปีนี้ยอดขายจะเติบโต 66%

ดังนั้นจึงปรับประมาณการผลกำไรปีหน้าเพิ่มขึ้น 35% จึงให้เป้าหมาย UMS ที่ 35 บาทและ UMS-W1 เป้าหมาย 26.50 บาท

กระแสหุ้น[/size:ee75085300">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com