May 16, 2024   8:11:30 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ให้เป็นชุด พร้อมชุดเก็งกำไร!
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 30/11/2007 @ 10:34:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ที่มา : วีระชัย ครองสามสี
หัวคอลัมน์ : ให้เป็นชุด พร้อมชุดเก็งกำไร!

โอ้โหพี่โจนส์ท่าทางเอาจริง! บ่นนิดหน่อยว่าพี่โจนส์ชอบผีเข้าผีออก อ้าว!พุ่งโชว์ซะเลยแบบจะๆ 2 วันติด นักลงทุนไทยปรบมือป๊าปๆ ได้ใจเต็มๆ มันต้องอย่างนี้ซิพี่! ขืนพี่โจนส์ขึ้นวันลงวัน บรรยากาศมันกร่อย อย่างไรก็ตาม ขอชมหน่อยอย่างทะลึ่งลงนะก๊าบ! เดี๋ยวชาวบ้านเขาจะเดือดร้อน สืบเสาะหาข่าวก็มาเจอ Beige Book ไม่ใช่ตำราที่พ่อมดน้อยแฮร์รี่ พ็อตเตอร์เค้าเรียนเวทมนต์นะครับ! แต่มันเป็นหนังสือสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด สนับสนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐลง

หลังรายงานระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงในเดือน ต.ค. และในช่วงครึ่งแรกของเดือน พ.ย. จากผลกระทบของตลาดที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัว จึงมีความเป็นไปได้ว่าการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 11 ธ.ค. นี้ เฟด อาจจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เผลอๆ อาจจะลดลงถึง 0.50% เพื่อยับยังการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีแรงไล่ซื้อหุ้นในกลุ่มที่เป็น Bargain hunter ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้หนุนให้ตลาดทั่วโลกดีดตัวรับข่าวกันอย่างคึกคัก จนลืมความกังวลเกี่ยวกับปัญหาซับไพร์มไปชั่วขณะ แต่ยังต้องระวังเพราะปัญหามันไม่จบง่ายๆ แค่ลดดอกเบี้ยนะก๊าบ! ถ้ามีข่าวไม่ดีผุดเป็นดอกเห็ดอีก

พี่โจนส์อาจจะกลับมาเดี้ยงอีกก็ได้ ขณะที่เฟดพยายามแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่บริษัทที่ได้รับผลกระทบซับไพร์มก็ต้องแก้ปัญหาของตัวเองเหมือนกัน ล่าสุด บริษัทแบร์ สเติร์นส์ โคส์ อิงค์ เตรียมจะลดตำแหน่งงานลง 650 ตำแหน่ง หรือ 4% ของพนักงานทั่วโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ลดไปแล้วราว 1,450 ตำแหน่ง ผลพวงปัญหาสินเชื่อกลุ่มซับไพร์มได้ส่งผลกระทบให้ตลาดวอลล์สตรีทต้องลดตำแหน่งงาน และตัดบัญชีหนี้สูญสินทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ฟันธงมาเนีย ขอเตือนภาพที่เห็นอาจจะดีช่วงสั้น แต่ต้องดูยาวๆ ว่าบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากซับไพร์มได้รับการแก้ไขเบ็ดเสร็จหรือไม่ เพราะมันจะมีผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ สำหรับตลาดหุ้นไทยได้อานิสงส์จากการพุ่งทะยานของตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่งผลให้ SET INDEX พุ่งกระจายทะลุแนวต้านที่ 830 จุด พร้อมทดสอบแนวต้าน EMA 75 วัน ที่ 841 จุด ส่งผลให้เกิด MACD Cross ใน Bar Chart ชัดเจน และทุกรอบที่เกิด MACD Cross บ่งชี้ถึงสัญญาณกลับตัวขึ้นรอบใหม่ เช่นเดียวกับเครื่องมือ RSI และ MACD ยืนยันสัญญาณกลับตัวขึ้นสอดคล้องกัน

นับว่าภาพโดยรวมทางเทคนิคเป็น Positive จึงเพิ่มน้ำหนักในการปรับตัวขึ้นในเดือน ธ.ค. แถม Confirm ว่าจุดต่ำสุดของดัชนีที่ 796 จุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว และหากยืนแนวต้าน EMA 25 ? 75 วัน ที่ 845 ? 841 จุดไปได้จะเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้มตลาดเป็นขาขึ้นในรอบนี้ โดยคำนวณจากตลาดใช้เวลาปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 732.78 จุด ก่อนขึ้นไปสูงสุดที่ 924.70 จุดใช้เวลา 53 วันทำการ และมีการปรับฐานลงมาที่ 796.94 จุดในวันที่ 22 พ.ย. โดยใช้เวลาปรับฐาน 15 วันทำการ ซึ่งใกล้เคียงที่ฟันธงมาเนีย คาดการณ์ไว้ว่าตลาดจะลงมาสร้างจุดต่ำสุดในวันที่ 20 พ.ย. นับตั้งแต่ลงมาต่ำสุดที่ 769.94 จุด

จะเห็นว่าตลาดค่อยๆ ปรับตัวขึ้น และหากประเมินแนวโน้มตามรูปภาพ คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในแนวโน้มขาขึ้นไปอีกอย่างน้อย 25 ? 30 วันทำการ นับตั้งแต่ผ่านจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ซึ่งจะสอดคล้องกับภาพจำลอง SET ล่วงหน้า กรณีประเมินว่าถ้า 796 จุดเป็น Bottom Out ตลาดจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้น โดยมีโอกาสขึ้นไปถึง 950 จุดในช่วงกลางเดือน ม.ค. 51 เสนอหุ้นชุด A ครับ! เพราะจะวิ่งพร้อมๆ ตลาด หรือนำตลาด เช่น KBANK SCB SCC TTA PTTEP RRC ATC PTTCH ADVANC ส่วนหุ้นน่าสอย Follow up หุ้น TRC จ๊าบสุดๆ แนวต้าน 6.00 บาท ระวังแรงขายทำกำไรหลุด 5.40 บาท เด็ดๆ STEC เทคนิคมีสัญญาณฟื้นตัว ถ้าไม่หลุด 5.00 บาท รอบนี้มีลุ้นทดสอบ 5.40 บาทครับพี่น้อง!

ทันหุ้น[/size:8dd8f3f197">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com