May 16, 2024   3:07:13 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : ตั้งลำ ก่อนขึ้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 03/12/2007 @ 08:29:47
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ก็ต้องมีการทดสอบแรงเทขายทำกำไรกันเสียบ้าง เพราะจะได้เป็นเครื่องยืนยันว่า ขาขึ้นรอบนี้เต็มไปด้วยแรงซื้อจริงๆ ไม่ใช่แรงซื้อหลอกๆ เหมือนเช่นรอบที่แล้วนั่นเอง

*ยิ่งเห็นนักลงทุนสถาบันกลับลำเข้ามาเป็นผู้ซื้อสุทธิด้วยแล้ว ยิ่งต้องลงทุนรอบคอบเป็นพิเศษ เพราะนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวชอบหันมาสวมวิญญาณนักเก็งกำไรเป็นประจำ "โมนิก้า" ถึงต้องการให้นักลงทุนซื้อหุ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับพยายามท่องคติเตือนใจ"กำไรน้อยๆ แต่ได้นานๆ" ให้ขึ้นใจ

*เนื่องจากการหวังจะได้กำไรรอบละ 10-15% ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปเพราะตลาดหุ้นถูกปกคลุมด้วยปัจจัยลบหลากหลายเรื่องเสียเหลือเกิน แถมได้ยินว่าในองค์กรตลาดหลักทรัพย์ฯ แตกกันเป็นก๊กเป็นเหล่าคล้าย แผนงานในส่วนต่างๆ จะเดินหน้าสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างไรกันหล่ะจ๊ะ

*"โมนิก้า" พูดเช่นนี้ไม่ได้ต้องการฉีกหน้าใครทั้งสิ้น แต่อยากเตือนสติคนในองค์กรให้ร่วมกันพัฒนาตลาดหุ้น เนื่องจากการมานั่งกัดกันเหมือนสุนัขข้างทาง มันอุบาทว์นัยลูกกะตาอย่างไรก็ไม่รู้...ทางที่ดีหันหาปรับความเข้าใจ และร่วมกันพัฒนาตลาดทุนให้ทัดเทียมระดับสากลจะเป็นประโยชน์กว่านะค่ะ

*เนื่องจากข่าวถอดถอน PTT ออกจาตลาดหุ้นกำลังทำลายขวัญและกำลังใจของนักลงทุนอย่างหนัก "โมนิก้า" ถึงอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในตลาดหุ้นออกมากระทุ้งถึงผลกระทบทางด้านลบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยให้มากกว่านี้ และอย่าได้ทำตัวเป็นอีแอบคอยแย่งซีนคนอื่นอีกเลยนะค่ะ

*อีกเรื่องที่ฮ๊อดฮิตไม่แพ้กันคงหนีไม่พ้นเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เพราะข่าวล่ามาแรงบอกว่าตัวเต็งอย่าง EGCO และ RATCH มีสิทธิ์ชนะประมูลค่อนข้างสูง เนื่องจากผ่านมาตรฐานเรื่องสิ่งแวดล้อม(EIA) เป็นที่เรียบร้อย จึงเหลือเพียงแต่เรื่องผลตอบแทนจะตรงตามเสป็กหรือไม่เท่านั้น

*ส่วนม้ามืดอย่าง TOP ไม่ควรมองข้ามเหมือนกัน เพราะคุณสมบัติข้างต้นที่กล่าวมาพี่ท่านมีหมดแล้ว ขณะที่ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจก็ถูกกว่าคู่แข่งเป็นอย่างมาก แถมพรายกระซิบมากำชับเดี๊ยนว่า อาจมาแรงแซงทางโค้ง เนื่องจากใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าเหมือน 2 รายแรก "โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนจ้องมองดูหุ้นตัวนี้เป็นพิเศษเหมือนกัน...ซึ่งกลางเดือนนี้ก็จะรู้ผลว่าใครได้รับงานประมูลเจ้าค่ะ

*ถัดจากหุ้นก๊ซธรรมชาติก็หันมาดูถ่านหินอย่าง BANPU บ้างดีกว่า เพราะแมงลือพูดกันว่าในปัจจุบันมีการต่อต้านเรื่องการใช้ถ่านหินอย่างหนัก หลังจากสร้างมลภาวะทางอากาศอย่างรุนแรง จึงอาจทำให้ความต้องการใช้ในอนาคตลดลง เดี๊ยนก็เลยมองว่าราคาปิดที่--บาท สมควรแก่การขายออกไปเป็นอย่างยิงเจ้าค่ะ

*ทางด้าน LANNA แม้จะทำธุรกิจถ่านหินเหมือนกัน แต่อย่างน้อยพี่ท่านก็มีการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจอื่นๆ ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 19.20 บาท บวกไป 0.40บาทอย่างมั่นคง อีกทั้งตัวบริษัทยังมีแผนสร้างรายได้ที่ค่อนข้างชัดเจน...อย่างไรเสียรอบนี้ก็ต้องวิ่งเกิน 20 บาทขึ้นไปเจ้าค่ะ

*สำหรับหุ้นกลุ่มแบงก์ BBL SCB KBANK และ BAY ยังตกอยู่ในวังวนของการเทขายทำกำไร ก็เลยทำให้ราคาหุ้นไม่สามารถไต่ระดับขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมได้สักที ทั้งที่นักวิเคราะห์มองว่าหุ้นเหลือแก๊ปราคาหุ้นให้วิ่งอีกมา แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ ราคาหุ้นจึงทำได้แค่ย่ำฐาน "โมนิก้า" ถึงไม่อยากให้นักลงทุนมานั่งลุ้นให้เสียอารมณ์ไงหล่ะค่ะ

*ส่วนเจ้าพ่อโทรศัพท์มือถือ ADVANC มาแปกกว่าใครเพื่อน เพราะตัวเองก็มีปัญหาเรื่องการสร้างรายได้และผลกำไร แต่ราคาหุ้นกลับแบวิ่งขึ้นมาเงียบๆ จนล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดที่ 92.50 บาท บวกไป 1.50 บาท ครั้นจะแนะนำให้ไล่ตามไปเลย สัญญาณทางเทคนิคก็ดันมาฟ้องว่าหุ้นเข้าเขตซื้อมากเกินไปเสียแล้ว

*ทางด้านคนที่ชอบเล่นหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ "โมนิก้า" ขอให้เหลียวตามอง SAM-W1ว่ากันว่าราคาหุ้นประเดิมสักหลาดจะขึ้นไปถึง 2 บาทเชียวน่า ประกอบกับช่วงนี้หุ้นขนาดเล็กได้รับความนิยมเป็นพิเศษ หากไม่แนะนำให้เข้าเล่นหุ้นจังหวะนี้ สงสัยจะพลาดโอกาสทองครั้งสำคัญเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ IEC จนปานนี้ยังไม่สามารถสลัดภาพหุ้นขี้โรคได้เลย แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.19 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น"โมนิก้า" จึงต้องกล่าวถึงเป็นกรณีพิเศษ หลังขึ้นมาติดในกระดาน Most Active อย่างน่าประหลาดใจเจ้าค่ะ

*ม้ามืดอย่าง TYONG เป็นหุ้นอีกตัวที่ "โมนิก้า" อยากให้นักลงทุนหันมาชายตามองได้แล้ว เพราะราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดถึงที่ 1.05 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไปถึง 22% ถือเป็นทางเลือกอันดับแรกของพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่ไม่อาจมองข้าม...เดี๊ยนถือว่าบอกหุ้นเด็ดแล้ว หากไม่ตามไปดู ก็ช่วยอะไรไม่ได้นะค่ะ

*หากสัปดาห์นี้ดัชนีสามารถยืนปักหลักศร้างฐานเหนือแนวรับ 830 จุดได้อย่างมั่นคงก็เป็นอันว่า ดัชนีพร้อมจะไต่ระดับขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่ระดับ 850 จุดนะจะบอกให้


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 03/12/2007 @ 08:31:20 :
วิเคราะห์สัปดาห์ : เริ่มกลับตัว

กองทุนในประเทศกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเข้ามาไล่ซื้อหุ้นกลุ่มบลูชิพเป็นหลัก ส่งผลให้ดัชนีดีดตัวจากระดับ 800 จุดขึ้นมาเหนือระดับ 830 จุดอย่างมั่นคง
ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคหลายตัวเริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้น เท่ากับเป็นการยืนยันว่าตลาดหุ้นได้ผ่านพ้นจากช่วงขาลงเป็นที่เรียบร้อย และรอแค่เพียงข่าวดีเข้ามาช่วยซับพอร์ตอีกนิดหน่อย ดัชนีก็จะกลับเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว
อีกทั้งแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนแต่ก่อน ดัชนีจึงไม่น่าจะอ่อนไหวตามอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศอีกต่อไป ส่งผลให้นักลงทุนหวนกลับเข้ามาช้อนซื้อหุ้นกันเป็นจำนวนมาก
แม้สัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีเรื่องถอดถอน ปตท. ออกจากตลาดหุ้นเป็นตัวถ่วงรั้งความมั่นของนักลงทุน แต่ดูเหมือนว่าผู้เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นหลายคนจะออกมาแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า จะไม่มีการถอดถอนหุ้นดังกล่าวออกจากตลาดหุ้นอย่างแน่นอน
เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายความเชื่อของนักลงทุนต่างประเทศ และจะทำให้ประเทศไทยดูแย่ในสายตาโลก จนไม่มีใครอยากจะเข้ามาร่วมลงทุน เพราะกลัวโดนจะยึดกิจการกลับคืนไปเป็นของรัฐ
ขณะเดียวกันปัญหาเรื่องซับไพร์มที่ลุกลามไปทั่วโลกก้เริ่มคลี่คลายไปทางที่ดีขึ้น จึงทำให้กองทุนต่างๆ เข้ามาตะลุยซื้อหุ้นอีกรอบ โดยกลุ่มหุ้นที่ควรเข้าช้อนซื้อมากที่สุด คือ หุ้นกลุ่มแบงก์ ปิโตรเคมี พลังงาน และสื่อสาร เพราะหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังคงความสามารถในการทำกำไรได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาได้ท่ามกลางแรงเทขายทำกำไรที่มีออกมาเป็นระยะ น่าจะทำให้การปรับตัวขึ้นรอบนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม จึงเชื่อว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว
โดยสัปดาห์นี้แนวรับสำคัญอยู่ที่ 810-800 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่ 850-860 จุด


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com