*ดัชนีตลาดเปิดขึ้นมาก็ปิดลบอย่างรวดเร็วเหนือความคาดหมาย แม้จะมีแรงซื้อกลับขึ้นมาในช่วงชั่วโมงแรก และทำท่าจะบวกกลับขึ้นไปได้ แต่สุดท้ายก็หมดแรงเอาดื้อๆ เหมือนไม่ยอมรับรู้โลกภายนอกเขาหายตื่นตระหนกกันหมดแล้วนั้น!!!.

* ?โมนิก้า? มองว่าไม่มีอะไรมากมาย แค่แรงซื้อน้อยเกินไป แถมยังเคาะซื้อกันเปาะๆ แปะๆ อย่างไร้จุดหมายปลายทาง สงสัยจะเอาแค่ประคองดัชนีไม่ให้หลุดแนวรับ 830 จุด... ยุทธวิธีตั้งรับอย่างนี้ กรุงศรีอยุธยาแตกมาแล้ว2 ครั้ง ยังไม่เข็ดอีกรึ????

*แม้ข่าวร้ายที่แพร่กระจายทั่วตลาดหุ้นในห้วงเวลาหลายวันมานี้ ล้วนแต่เป็นข่าวเก่าๆ ซึ่งตลาดหุ้นดูดซับไปได้หมดแล้วในเชิงคุณภาพ แต่อย่าลืมว่าข่าวเก่าๆ แบบนี้ ทำดัชนีรูดมหาราชมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...ดังนั้นอย่าได้ประมาทเรื่องพรรณนี้เป็นอันขาดเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นอย่าได้มองย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตว่า ทุกอย่างเข้าสูตรหมด และถึงเวลาแห่งการพลิกกลับของดัชนีตลาดหุ้นได้เกิดขึ้นอีกหน เพราะนั่นเป็นเพียงแค่ทฤษฎีที่ยังต้องรอการพิสูจน์เสียก่อน จึงไม่ควรทำตัวกระดี๋กระด๊า หรือตื่นตระหนก จนเกินงามนะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหารทีพีไอ โดนศาลสั่งจำคุก 3 ปีในข้อหาปั่นหุ้น เท่านั้นแหล่ะ...น้ำตาคลอดเบ้าตาทันที ?โมนิก้า? ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพร้ซ์สุดๆ เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าวันนี้จะได้เห็น ?น้ำตาจรเข้? เนื่องจากที่ผ่านมาคุณพี่มีท่าทีแข็งกร้างต่อคนรอบ้างอย่างโจงแจง จู่ๆ ครั้งนี้ต่อมน้ำตาดันมาแตกกลางวงซะงั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าฉงนใจไม่ใช่น้อย...อย่างนี้รึเปล่าที่เขาเรียกว่า ?ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา? อิอิอิ

*ผลพ่วงดังกล่าวยังทำให้งานแสดงวิสัยทัศน์ ?นโยบายพรรคในการบริหารตลาดทุน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจไทย?ของ 7 พรรคกรเมืองไทย ซึ่งมีทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชาชนพรรคประชาราช พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคชาติไทย คงกร่อยไปเยอะเลยทีเดียว...

* เนื่องจากหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย มีสิทธิ์เข้าไปนอนมุ้งสายบัวและส่อเค้าโดนปลดจากผู้บริหารบริษัทไปพร้อมๆ กันโดยไม่ข้อแก้ตัว วันนี้คงเป็นข่าวพาดหัวเศรษฐกิจหน้า 1 ทุกฉบับชัวร์ป๊าบ และคงมีคำถามตามมาว่าทำธุรกิจอีท่าไหนถึงมีสิทธิ์เข้าไปนอนในซังเต???

*สำหรับในรายของ AOT อันนี้ไม่ต้องรอการพิสูจน์อะไรอีกแล้ว เพราะผลกำไรสุดแสนจะห่วย แต่กลับมีคนพยายามเข้าช้อนรับที่ระดับ 57 บาท โดยหวังว่าจะประคองไม่ให้ต่ำใต้ 55 บาทให้ได้... น่าสรรเสริญ กับคนที่เชื่อว่าชีวิตยังมีความหวัง...แต่"โมนิก้า"ขอเตือนเอาไว้ว่า สัญญาณที่เป็นรูปธรรมบอกชัดว่า ตัวเลขกำไรทำได้แค่นี้ ราคาหุ้นคงมีแต่ทรุดกับทรุดสถานเดียวนะค่ะ..อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ในยุคน้ำมันแพง

* LH กลายเป็นหุ้นที่หมดสภาพมากที่สุดเหมือนกัน ไม่เฉพาะวันนี้อย่างเดียว เนื่องจากรายได้จากธุรกิจหลักย่ำแย่ แม้จะมี"รายได้อื่นๆ"เข้ามาเสริมเติมแต่ง ก็ต้องบอกว่าเป็นของชั่วคราว ไม่ยั่งยืนอะไร ซึ่งก็จริงค่ะ ราคา 8 บาทไม่ได้เห็นมานานหลายเดือน จนแทบลืมไปแล้วว่า ลงมาถึง 7 บาทได้อย่างไรอย่างนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่า..รอข่าวดีอย่างเดียว

* PAE ก็เช่นกัน กำไรที่ประกาศออกมาย่ำแย่จนหาที่เปรียบไม่ได้ ยิ่งเมื่อดูที่มาที่ไปแล้วต้องบอกว่า ไร้สาระค่ะ เพราะขาดทุนตั้งแต่อยู่ในมุ้ง แถมบริษัทเพิ่งผ่านพ้นกระบวนการปรับโครงสร้างหน้าแค่ปีกว่าๆ เท่ากับย้ำเตือนว่า บริษัทไม่ได้ยั่งยืนอย่างที่คิดอีกเช่นกัน ฉะนั้นการที่หุ้นทำท่าบวกได้วันก่อน น่าจะเป็นเพราะมีคนหลงผิดไม่รับรู้เบื้องหลังของข่าวเข้าไปขับเคลื่อน แต่พอหายหลงผิด ก็คงพากันกลับลำทิ้งหน้าตาเฉยลงมาแดงเถือกอีกตามเคยเจ้าค่ะ

* ?โมนิก้า? ไม่ได้ดูราคาหุ้น N-PARK เสียตั้งนาน พอมาดูอีกทีก็บว่ายังคงครองตำแหน่งหุ้นราคาเละเทะต่อไป ชนิดไม่ต้องดูราคาพาร์ 1 บาทกันเลย ล่าสุดอยู่ที่ -- บาท ขณะที่ผู้บริหารอย่าง เสริมสิน สมะลาภา ก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย จนคนตั้งคำถามว่าราคาต่ำอย่างนี้น่าซื้อมั้ย...เดี๊ยนมองว่าก็ไม่เลว แต่พอเหลือบดูค่า BV ที่ 0.28 บาทเท่านั้น ดูอย่างไรก็ขี้เหร่ค่ะ...ราคาหุ้นถูก ไม่ใช่หุ้นถูกเสมอไปนะคะ

* เช่นเดียวกัน บริษัทดี แต่หุ้นแผ่วปลายมาหลายเดือน ทั้งที่ผลประกอบการไตรมาส 3 โตกระฉูด แต่ราคาหุ้น TKS กลับยืนนิ่งอยู่ที่ 3.60บาทหน้าตาเฉย แม้ระดับราคาดังกล่าวจะเป็นการยืนยันว่าจะไม่มีทางลงต่อไปอีกแล้ว แต่ฐานราคาดังกล่าวถือว่าต่ำเกินสมควร เอาไว้ที่นี่ ค่า P/BV แค่ 1.26เท่า มันเสียราคาหมด "โมนิก้า"ยังขอยืนยันว่าของดีไม่ควรจะราคาถูกเกินเสียแบรนหมดพะยะค่ะ

*สำหรับวอแรต์น้องใหม่อย่าง SAM-w1 เปิดราคาแถว 2 บาทตามความคาดหมายทุกประการ และได้รับความสนใจจากนักลงทุนกลุ่มต่างๆ อย่างล้นหลาม ?โมนิก้า? มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นเพียงแค่ไฟไหม้ฟางวันยันค่ำ เพราะราคาหุ้นแม่ SAM อืดทึดทืออยู่ที่ 2.40 บาทกลางๆ จึงไม่มีทางที่หุ้นลูกจะวิ่งแซงหน้าหุ้นแม่ไงหล่ะค่ะ

*ตบท้ายกันที่ PTT ราคาหุ้นลบลงไปถึง 22 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 358บาท เป็นผลพ่วงมาจากข่าวถอดถอนออกจากตลาดหุ้นอย่างไม่ต้องสงสัยไม่เช่นนั้นคงไม่มีแรงเทขายหุ้นออกมาอุตลุดแบบนี้หรอก ภาพโดยรวมของหุ้นก็เลยย่ำแย่อย่างที่เห็น และกลายเป็นตัวถ่วงดัชนีร่วงลงอย่างหนัก... ?โมนิก้า?ถึงอยากให้คุณๆ อยู่ห่างหุ้นตัวนี้เป็นการชั่วคราว


:lol: