*แรงเทขายจำนวนมากที่พุ่งเป้ามายังหุ้น PTT กลายเป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้ดัชนีผันผวนอย่างหนักตั้งแต่ต้นสัปดาห์ จนดูเหมือนว่าความผันผวนดังกล่าวยากเกินจะควบคุมได้ เพราะตลาดหุ้นมีแต่เรื่องชวนปวดหัวไม่ได้เว้นวัน ยิ่งใกล้ถึงวันที่ 14 ธันวามคม ซึ่งเป็นวันตัดสินชะตากรรมว่า จะได้อยู่ในตลาดหุ้นหรือไม่ได้อยู่ ยิ่งเร่งให้นักลงทุนทำตัวเป็นนักเก็งกำไรกันมากขึ้น

*เนื่องจากหุ้นบลูชิพโดนกระหน่ำเทขายอย่างหนักจนโงหัวไม่ขึ้น ขณะที่หุ้นเก็งกำไรต่างสลับหมุนเวียนขึ้นมาเฉิดฉายในกระดาน Most Active ไม่ซ้ำหน้า นักลงทุนถึงได้เฮโลเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเก็งกำไรกันอุตลุด...โดยหารู้ไม่ว่านั้นเป็นหลุมพลางหลอกไปออกของราคาสูงเจ้าค่ะ

*"โมนิก้า" ถึงอยากให้นักลงทุนทำตัวหนักแน่น และอย่าได้หลงเข้าไปเล่นหุ้นเก็งกำไรเป็นอันขาด เพราะหุ้นเก็งกำไรแต่ละตัวที่ขึ้นแรงๆ พื้นฐานดูไม่ได้เลยสักตัว แถมอนาคตก็ยังสุ่มเสี่ยงต่อการถูกเทคโอเว่อร์เสียเหลือเกิน จึงไม่มีความจำเป็นต้องเอ่ยถึงให้เปลื้องน้ำลาย

*เหมือนกับในรายของ PAE "โมนิก้า" เพิ่งจะพูดไปหยกๆ ว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงนั้นมาจากการดันราคาของใครบางคนที่ได้ประโยชน์จากเกมราคาหุ้นเท่านั้นและก็เป็นจริงดังที่ว่าไว้ทุกประการ เพราะผู้บริหารก็ออกมายอมรับว่ากำลังจะขายหุ้นบิ๊กล็อต17% ในราคาหุ้นละ 1.10 บาท แก่พันธมิตรต่างประเทศเจ้าค่ะ

*เมื่อข่าวจริงปรากฎชัดเจน และประจักษ์ต่อสายตา ราคาหุ้นก็เลยร่วงเป็นนกปีกหักลงมาถึงที่ 1.18 บาท ก่อนจะดีกลับมาปิดที่ 1.31 บาท ลบไป 0.04 บาท "โมนิก้า" ถือเป็นเรื่องปกติของหุ้นพื้นฐานกลวงโบ๋ หรือเรียกให้สุภาพนิดหนึ่งก็คือ sales on fact นั่นแหล่ะค่ะ

*TYONG อีกรายที่ต้องจับตาดูมากเป็นพิเศษ เพราะราคาหุ้นทะยานขึ้นมาอย่างมีเงื่อนงำ ทั้งที่พื้นฐานของหุ้นก็งั้นๆ และเพิ่งเป็นการปรับตัวขึ้นได้ครั้งแรก หลังจากปรับตัวลดลงอย่างบูรณาการเป็นเวลาหลายเดือน "โมนิก้า" จึงสงสัยว่าหุ้นตัวนี้มีอะไรนักหนาราคาหุ้นถึงได้วิ่งสวนกระแสขึ้นมาปิดที่ 1 บาท อย่างไร้เหตุผล

*ยิ่งภาวะการลงทุนผันผวนอย่างหนักแบบนี้ด้วยแล้ว "โมนิก้า" ยิ่งไม่เห็นด้วยที่นักลงทุนจะเอาตัวเข้าไปเสี่ยง เพราะในตลาดหุ้นมีหุ้นตัวอื่นให้เล่นถมเถไป เหตุไฉนถึงต้องเข้ามาไล่ซื้อหุ้นตัวนี้อย่างเป็นเอาตายด้วยเล่า...ยกเว้นเป็นพวกชอบลองของ อันนี้ก็ไม่ว่ากันหรอกค่ะ

*ถึงกระนั้น "โมนิก้า" ก็อยากให้นักลงทุนดูตัวอย่างหุ้นข้าวโพดกระป๋อง APUREไว้ให้ดีๆ เพราะก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างหวือหวา ทั้งที่พื้นฐานของบริษัทสุดแสนจะขี้เหร่ แต่คุณท่านหลานเธอก็ดันราคาขึ้นไปถึง 4 บาท...พอหนึ่งเดือนให้หลังราคาหุ้นกลับรูดลงมาปิดที่ 2.32 บาท พร้อมแรงเทขายอื้อซ่าสุดๆ แสดงว่าหุ้นกำลังจะลงต่ออย่างไม่มีเงื่อนไขแน่นอนเจ้าค่ะ

*ประกอบกับฐานแนวรับจริงๆ ของหุ้นอยู่ลึกถึง 1 บาท "โมนิก้า" ถึงอยากให้คนที่ติดหุ้นตัวนี้ "ตัดขายหุ้นขาดทุน" ทันที เพราะทนถือหุ้นต่อไป ก็มีแต่เจ็บตัวมากขึ้นเรื่อยๆ นะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับหุ้นแม่ลูก SAM และ SAM-W1 เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงแค่หุ้นเก็งกำไรแก้ขัดทางอารมณ์ของนักลงทุนขาใหญ่ เพราะตั้งแต่หมดแรงเชียร์ และขาดกองหนุนสนับสนุน ราคาหุ้นก็ร่วงหล่นราวกับดอกพิกุลร่วงหล่นจากต้นแบบนี้ "โมนิก้า" มองไม่เห็นความจำเป็นต้องรีบเข้าไปรับหุ้นเลยจริงๆ

*เนื่องจากราคาปิดที่ 2.12 บาท ลบไป 0.22 บาท หรือลงไปถึง 9% และปิดที่1.67 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไปถึง 10% ตามลำดับ...กูรูที่ไหนมองก็ต้องบอกว่ายังไม่ถึงเวลาเข้าไปรับหุ้นทั้งนั้นแหล่ะ เพราะผลขาดทุนเรื้อรังเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ทำให้บริษัทค้าเหล็กรายนี้เป็นบริษัทขี้โรคในทันทีพะยะค่ะ

*ส่วนในรายของ TPIPL กลายเป็นหุ้นที่มีปัญหาทางด้านฐานะทางการเงินในทันที เพราะคำสั่งศาลที่สั่งให้บริษัทจ่ายค่าปรับมากถึง 6.90 พันล้านบาท กระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทอย่างหนัก ขณะที่โบรกเกอร์ต่างๆ ออกมาโขยกซ้ำด้วยการแนะนำให้ขายหุ้นออกไปก่อนแบบนี้ไงหล่ะ...ราคาหุ้นถึงได้ร่วงติดฟลอร์ 30% หรือลงไปถึง 3.95 บาทก่อนจะมาปิดที่ 9.25 บาทอย่างน่าอนาถใจ...งานนี้ต่อให้ถูกขนาดไหนก็ไม่น่าเล่นเจ้าค่ะ

*พลิกล็อคสุดๆ คงเป็นในรายของ LIVE ฐานะทางการเงินไม่ได้เลิศเล่อเพอร์เฟ็คแต่อย่างใด เหตุไฉนราคาหุ้นถึงขยับขึ้นวันละ 30-40 สตางค์แบบไร้เหตุผล ขนาด"โมนิก้า" ลองสอบถามจากสายสืบสองสลึงว่ามีข่าวดีอะไรซ่อนไว้หรือเปล่า ก็ได้รับคำตอบยืนยันว่าไม่มีชัวร์ป๊าบ...แถมเหน็บกลับด้วยการบอกว่าให้ไปดูค่า P/E คำนวณก็ไม่ได้และค่า P/BV ก็สูงถึงระดับ 12 เท่า มันน่าลงทุนหรือไง...ราคาปิดที่ 10.90 บาท ถึงดูว่าเว่อร์เกินไปไงหล่ะ

*ตบท้ายกันที่อดีตหุ้นขวัญใจยอดนิยม CWT เรื่องผ่านมาตั้ง 3 ปี กลต. เพิ่งจะมาตรวจพบว่า กระทำความผิดเรื่องการปั่นหุ้น โดยสั่งปรับ นายบุญชัย ไชยธีรัตต์ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 5.70 ล้านบาทนั้น มีคนฝาก "โมนิก้า" ถามว่าไม่ทำงานช้าไปเหรอจ๊ะ...ถ้าได้คำตอบ กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะค่ะ

*ภาวะการลงทุนช่วงนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก ถ้าคิดจะลงทุนจริงๆ ให้รอผ่านวันที่ 14 ธ.ค.2550 ไปก่อนจะดีกว่านะค่ะ


:lol: