April 25, 2024   2:20:29 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > JUTHAมองยาวอีก2ปีปลอดหนี้ :โดดเด่นสุดหุ้นกลุ่มเรือ-กำไรดีต่อ
 

P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
วันที่: 03/10/2005 @ 18:30:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นเรือไทย JUTHA น่าลงทุน โบรกฯ ชี้แม้จะมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น หลังจากที่ควักเงินถอยเรือลำใหม่ชื่อ จุฑาธรรมรักษา มาเสริมศักยภาพให้กองเรือบริษัท พร้อมเชียร์บิ๊กจุฑานาวีเพิ่มทุนลดพาร์ดันกำไรพุ่ง-ล้างหนี้สินหมดไว

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งเปิดเผยข่าวหุ้นธุรกิจ ว่า แม้จะมีการปรับประมาณการหุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือใหม่ แต่มองว่าหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังน่าลงทุนอยู่ เพราะเชื่อว่าจะสามารถทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะบมจ.จุฑานาวี หรือ JUTHA ที่แม้จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากภาระหนี้ในการลงทุนซื้อเรือลำใหม่อีก 1 ลำแต่ผู้บริหาร JUTHA จะสามารถลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนใน 1-2 ปีข้างหน้าได้

เท่าที่มองขณะนี้ความเคลื่อนไหวของหุ้น JUTHA ดูไม่ค่อยดี ยิ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่แนะนำแค่ให้เก็งกำไรเท่านั้น ซึ่งถ้าดูรายละเอียดของหุ้นตัวนี้แล้วคิดว่า การเพิ่มทุนลดพาร์ต่อตามที่ผู้บริหารเคยระบุไว้ว่า อาจจะทำอีก 1-2 ปีข้างหน้า น่าจะเป็นทางออกที่ดี หากผู้บริหารต้องการให้บริษัทมีกำไรโตเร็วขึ้น หรือล้างหนี้สินหมดไว เพราะนั่นย่อมหมายถึงฐานะทางการเงินของ JUTHA นอจากจะแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ยังทำให้ภาพลักษณ์ของหุ้นJUTHA น่าลงทุนกว่าเดิมด้วย นักวิเคราะห์กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานเรือลำใหม่ที่ชื่อเรือจุฑาธรรมรักษา คาดว่าจะนำมาเป็นเรือเสริมในกองเรือของบริษัทที่ปัจจุบันมีเรือทั้งสิ้น 6 ลำ โดยในเบื้องต้นน่าจะนำไปให้บริการในเส้นทางประจำระหว่างประเทศไทย-ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลี ทันทีหลังจากที่ได้รับมอบเรือลำดังกล่าวภายในเดือนพฤศจิกายน 2548 ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำรายได้ให้กับ JUTHA เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากรายได้รวม

เราประเมินเรื่องการจ่ายปันผลปี 48 ไว้ที่ประมาณ 30% ของกำไรสุทธิ จากนโยบายของบริษัทที่จะจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ และเมื่อคำนีงถึงเวินกู้ยืมที่ต้องใช้ และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นในปีนี้ จึงคาดว่าน่าจะมีอัตราปันผลตอบแทนอยู่ที่ 4.8% ถือเป็นสัญญาณที่ดีหลังจากที่บริษัทไม่ได้จ่ายปันผลมานานถึง 9 ปี เพราะผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาขาดทุนสะสม นักวิเคราะห์ กล่าว

สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา มองว่า ผลจากการลงทุนซื้อเรือลำใหม่อีก 1 ลำ ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังสูงอยู่ที่ 6.9 เท่าแต่คาดว่าผู้บริหารJUTHA จะสามารถลดอัตราหนี้สินต่อทุนลงเหลือ 3.7 เท่าในปี49 และ 2.3 เท่าในปี 50ทำให้มองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่ JUTHA จะต้องเพิ่มทุนในขณะนี้

ทั้งนี้จากกำไรไตรมาส 2/48 ต่ำกว่าที่คาดไว้แม้ว่าอัตราค่าระวางเฉลี่ยสำหรับเรือที่ให้บริการเช่าเหมาลำจะเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเรือที่ให้บริการในเส้นทางประจำจะเพิ่มขึ้น 29% แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 28.6% เทียบกับไตรมาสก่อน

ที่มาร์จิ้นจุฑานาวีลดลงเพราะได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันแพง ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นประมาณ 30% รวมทั้งบริษัทยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนในการเข้าอู่ซ่อมเรือ ทำให้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 48 และ 49 ลดลงเหลือ 122 ล้านบาทและ 138 ล้านบาท หรือกำไรต่อหุ้น 1.46 บาทและ 1.65 บาทนักวิเคราะห์ กล่าว

ที่มา:
ข่าวหุ้น

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com