Toon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 973 | วันที่: 11/01/2008 @ 09:02:37 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หุ้นไทยจ่อหลุด 800 จุด แรงกดดันรอบด้านทั้งเศรษฐกิจสหรัฐที่กดดันเป็นระลอกและการเมืองในประเทศที่ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน ฉุดดัชนีวานนี้ร่วงหนัก 20.29 จุด ปิดตลาดที่ 800.18 จุด ด้านเลขฺการสมาคมนักวิเคราะห์ ?สมบัติ นราวุฒิชัยมองเป็นผลกระทบแค่ช่วงสั้น เดือนหน้าหายใจโล่งขึ้นแน่ เพราะคาดว่าเฟดจะหั่นดอกเบี้ยลงอีกช่วยดึงเงินทุนไหลเข้า และการเมืองไทยน่าจะมีข้อสรุป มั่นใจเป้าดัชนียปีนี้ยังมีโอกาสทดสอบ
1,000 จุด ส่วนสุกิจ อุดมศิริกุล ค่ายนครหลวงไทย บอกชัดเจนเลิกหวังแจนยูอารี่ เอฟเฟกต์ แค่ประคองตัวได้ก็ดีพอแล้ว ให้ดัชนีรอบนี้ 780 จุด แนะรอเก็บหุ้นน้ำมัน-ถ่านหิน PTT-PTTEP-PTTAR-TOP-BANPU
ดัชนีตลาดหุ้นวานนี้ (10 ม.ค.) ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเช้าปรับตัวสูงสุด 817.86 จุด ก่อนที่จะปรับตัวลงมา จากแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงาน และแบงก์ โดยดัชนีปิดตลาดที่ 800.18 จุด ลดลง 20.29 จุด หรือ 2.47% มูลค่าซื้อขายรวม 1.53 หมื่นล้านบาท และต่างชาติยังคงขายสุทธิจำนวน 1,493.65 ล้านบาท
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันนั้น มองว่าเป็นแค่ปัจจัยระยะสั้น ซึ่งคาดว่าหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วเสร็จในเดือนหน้าจะสร้างความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเช่นเดียวกับเศรษฐกิจของสหรัฐที่คาดว่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่เฟดปรับลดลงดอกเบี้ยลงในช่วงปลายเดือนนี้
?ปัจจัยลบทางการเมืองในประเทศ และเศรษฐกิจของสหรัฐล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามีผลกระทบต่อการลงทุนของตลาดหุ้นไทยอย่างมาก แต่เชื่อว่าตั้งแต่ต้นเดือนหน้าเป็นต้นไปปัจจัยกดดันเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขให้ไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะสร้างบรรยากาศการลงทุนกลับมาอีกครั้งนายสมบัติกล่าว
ดังนั้นสมาคมนักวิเคราะห์จึงยังคงยืนยันประมาณการดัชนีปี 2551 ว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,000 จุด
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน โดยมองกรอบดัชนีแนวรับที่ระดับ 780 จุด และแนวต้าน 815 จุด
?ตั้งแต่ต้นปีมาปัจจัยข่าวด้านลบทั้งใน และต่างประเทศมีเข้ามาเป็นระลอก ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล คอร์ป บริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของสหรัฐกำลังประสบภาวะล้มละลาย จึงทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น ประกอบกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้อาจจะปรับตัวลดลงได้จากภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนายสุกิจกล่าว
จากการประเมินสถานการณ์แล้วพบว่าทางกองทุนในประเทศมีการลดการลงทุนในหุ้น จากภาวะทางการเมืองที่ไม่ชัดเจน และปัจจัยจากต่างประเทศที่ จึงคาดว่าในเดือนมกราคมนี้จะไม่เกิดแจนยูอารี่ เอ็ฟเฟคท์แน่นอน เพราะยังมองไม่เห็นปัจจัยบวกที่จะสนับสนุนในระยะสั้นนี้
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในแต่ละกลุ่มแล้วพบว่า ปัจจัยพื้นฐานยังคงเหนียวแน่นไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานน้ำมันอย่าง PTT , PTTEP , PTTAR , TOP และถ่านหิน BANPU ถึงราคาน้ำมันและถ่านหินจะปรับตัวลงบ้าง แต่มองว่ายังทรงตัวในระดับสูงได้ จึงเป็นจังหวะที่จะทยอยเก็บหุ้นกลุ่มนี้ในช่วงที่ดัชนีปรับตัวลงแรง
ทันหุ้น[/size:fcaf942f46">
|