April 29, 2024   4:11:07 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ไร้เงาต่างชาติช่วงตรุษจีนตลาดฯซึมแน่
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 06/02/2008 @ 10:29:58
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เซียนหุ้นทุกสำนักเห็นพ้อง ตรุษจีนนี้หุ้นไทยซึม คึกไม่ออกแน่ เหตุ นลท.ต่างประเทศบางส่วนถอนทัพกลับบ้าน ส่งผลให้แรงซื้อต่างชาติเบาบางลง แถมตลาดหุ้นในภูมิภาคหลายแห่งปิดทำการยิ่งขาดปัจจัยชี้นำ แนะทยอยเก็บของถูกพื้นฐานแกร่ง -ปันผลงาม เช่น พลังงาน-แบงก์ และเข้าพอร์ต รอต่างชาติกลับเข้ามาซื้อขายใหม่

-KEST แนะเก็บหุ้นพลังงานแบงก์เข้าพอร์ต
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ KEST กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยส่วนใหญ่ดัชนีฯ ยืนอยู่ในแดนลบ ตามทิศทางดัชนี ดาวโจนส์ที่ปิดลดลง 108.03 จุด หลังจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย จากการที่มีนักวิเคราะห์ปรับลดคำแนะนำลงทุนในหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินลง ซึ่งสะท้อนให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ไทยเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน
ประกอบกับแรงซื้อที่เริ่มเบาบาง จากการที่นักลงทุนชะลอลงทุนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในขณะที่ยังมีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง หลังจาก 2 - 3 วันทำการที่ผ่านมาดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้น ก็ฉุดให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยวานนี้ไม่ดีเท่าที่ควร
วานนี้ดัชนีฯ ไซด์เวย์ตลอด เพราะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังก่อนหน้านี้ดัชนีฯ ขึ้นมาอย่างร้อนแรง โดยหลังจากที่ดัชนีฯ ปิดลดลงต่ำกว่า 820 จุด ก็ทำให้ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่ดีนัก และนักลงทุนรายย่อยก็เริ่มขายทำกำไรในช่วงตรุษจีน ดัชนีฯ จึงไซด์เวย์แบบนี้ และน่าจะเป็นเช่นนี้จนกว่าผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน นางสาวมยุรี กล่าว
สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ (6 ก.พ.51) คาดว่า ดัชนีฯ ยังมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องจากวันนี้อยู่ โดยดัชนีฯ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 800 - 820 จุด ขณะที่ปริมาณการซื้อขายน่าจะเบาบาง หลังจากเชื่อว่านักลงทุนชะลอการลงทุนในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคเอเชียบางส่วนปิดทำการ อาทิ ดัชนีเวทเต็ท ไต้หวัน ดัชนีเซี่ยงไฮ้ จีน ดัชนีคอมโพสิต โซล เกาหลีใต้ ส่งผลให้ดัชนีฯเคลื่อนไหวกรอบแคบและมีโอกาสปรับลดลงตลอดทั้งสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม คาดว่านักลงทุนต่างประเทศยังซื้อสุทธิอยู่ เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่มีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุน โดยในวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบัน ยังขายสุทธิ 2,000.70 ลบ. นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 2,718.53 ลบ. ขณะที่นักลงทุนทั่วไปยังขายสุทธิ 717.83 ลบ. จากมูลค่าการซื้อขาย 21,504.46 ลบ.
แนะนำนักลงทุนระยะกลางทยอยสะสมหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาหุ้นยังมี Upside เทียบจากราคาพื้นฐาน โดยหุ้นเด่นได้แก่ PTT, PTTEP, TOP ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ก็น่าสนใจ เนื่องจากได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นจากโครงการเมกะโปรเจ็ก หุ้นเด่น ได้แก่ BBL, BAY และ KTB ส่วนนักลงทุนรายย่อยที่ทุนไม่มาก แนะนำลงทุน TDEX

- ASL แนะเก็บพลังงานอย่าแตะแบงก์ เหตุอาจเจอแรงขายเตะขาพับ
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน หรือ ASL กล่าวว่าในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอาจเป็นไปด้วยความซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นที่สำคัญในเอเชียหลายแห่งปิดทำการ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เช่น ตลาดหุ้นฮ่องกง ,ตลาดหุ้นจีน,ตลาดหุ้นไต้หวัน และตลาดหุ้นเกาหลีไต้ ซึ่งส่งผลให้แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติชะลอลง
ทั้งนี้ มองว่าในช่วงตลาดหุ้นพักฐานเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะอาศัยจังหวะนี้เข้าซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับลดลง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นในระดับสูง ซึ่งในส่วนของระดับราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าต่ำกว่าราคาพื้นฐาน และต่ำกว่า P/E ที่ซื้อขายกันในตลาดภูมิภาค นอกจากนี้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีแนวโน้มจะปรับขึ้นได้อีกจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย
โดยหุ้นที่แนะนำซื้อคือ PTTEP เนื่องราคาน้ำมันยังเป็นขาขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผลธุรกิจของบริษัท และขุดเจาะหลุมหลายแหล่งมีศักยภาพสูงที่จะพบก๊าซธรรมชาติและน้ำมันซึ่งจะทำรายได้เพิ่มขึ้นในระยะยาว และหุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจคือ บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA ที่ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับขึ้นสูงทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อตันซึ่งเป็นผลจากภาวะอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 50 ปีในจีน และจากปัญหาน้ำท่วมในรับควีนแลนด์ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถ่านหินที่สำคัญของออสเตรเลีย ส่งผลให้ประมาณการผลิตลดลง นอกจากนี้บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจถ่านหินที่เหมืองแห่งใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคาดจะเริ่มผลิตได้ต้นปี 2551 นี้
ในขณะที่หุ้นที่มองว่าไม่ควรเข้าลงทุนในช่วงนี้คือ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เนื่องจากราคาหุ้นได้ปรับขึ้นไปสูงแล้วในช่วงที่ผ่านมา จึงมีโอกาสที่จะถูกเทขายทำกำไรออกมา

- ASP แนะเก็บของถูกแบงก์-พลังงานตัวหลัก รอต่างชาติกลับ
นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส หรือ ASP กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่หยุดการซื้อขายในช่วงนี้เห็นได้จากดัชนีฯมีการขายทำกำไรออกมาตั้งแต่วันนี้แล้วส่งผลให้ดัชนีฯมีการปรับตัวลดลง ซึ่งเหมาะที่จะเข้าเก็บหุ้นกลุ่มมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่มีพื้นฐานดีในช่วงราคาถูก
"ช่วงนี้หุ้นในภูมิภาคอาจจะซบเซา เนื่องจากตลาดหุ้นบางแห่ง อาทิ ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการ เนื่องจากเป็นวันตรุษจีนจึงน่าจะส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่หยุดการซื้อขายหุ้นในช่วงนี้เช่นกันและหลังจากช่วงนี้ดัชนีฯน่าจะปรับตัวขึ้นต่อได้จึงเหมาะที่จะเข้าซื้อหุ้นในช่วงดัชนีฯปรับตัวลง" นายภูวดล กล่าว
ทั้งนี้ แนะนำหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)(PTT) ให้แนวรับที่ 320 บาท และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(PTTEP) ให้แนวรับ 145 บาท ส่วนในหุ้นกลุ่มธนาคารยังน่าสนใจแนะ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) ให้แนวรับ 85 บาท,ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)ให้แนวรับ 85 บาท และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) ให้แนวรับ 118 บาท อย่างไรก็ตามประเมินแนวรับของดัชนีฯช่วงนี้ไว้ที่ 800 จุด ส่วนแนวต้านดัชนีฯอยู่ที่ 830-840 จุด

- เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เชื่อช่วงตรุษจีนหุ้นไทยปรับฐานไม่แรง
นางสาวศิริลักษณ์ ปโกฎิประภา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอาจซบเซาได้ เนื่องจากปริมาณการซื้อขายในวันนี้ที่เบาบางลง สะท้อนว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากตลาดหุ้นในเอเชียหลายแห่งปิดทำการเป็นระยะเวลาหลายวัน อาทิ ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นการปรับฐานตามปกติซึ่งไม่รุนแรงมากนัก หลังจากดัชนีฯปรับเพิ่มขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มองว่าเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะสามารถทยอยสะสมหุ้นได้ เมื่อดัชนีฯปรับตัวลดลงมาที่ 795 จุด ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อาทิ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK โดยประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 97 บาท และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 29 บาท ซึ่งหากประเมินจากราคาปัจจุบันถือว่าราคาหุ้นยังคงอยู่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน นอกจากนี้ มองว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ประกอบกับแนวโน้มผลประกอบการในกลุ่มดังกล่าวจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ยังไม่เห็นว่ามีกลุ่มไหนที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยลบมาส่งผลกระทบต่อกลุ่มต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มที่ยังมีความเสี่ยง คือ กลุ่มเดินเรือ เนื่องจากค่าระวางเรือปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันค่าระวางเรือเริ่มทรงตัว หุ้นเดินเรือจึงน่าสนใจ นักลงทุนสามารถกลับเข้ามาลงทุนได้อีกครั้ง

- TNITY มองไฟแนนซ์/พร็อพเพอร์ตี้ หลังตรุษจีนยังคึกได้
นายกมลชัย พลอินทวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ หรือ TNITY เปิดเผยถึงแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงเทศกาลตรุษจีนว่าคงจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ถึงขั้นซึมและเหงาหงอย วอลุ่มการซื้อขายในแต่ละวันคงไม่หวือหวานัก เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศ บางประเทศปิดทำการ โดยเฉพาะตลาดหุ้นของประเทศจีนทำให้นักลงทุนจากประเทศจีนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่างเริ่มทยอยปิดสถานะออกจากตลาดเพื่อเตรียมหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนั้นจึงเชื่อว่าจากความกังวลของบรรดาผู้ประกอบการรวมถึงนักลงทุนต่างกังวลเกี่ยวกับแรงซื้อจากนักลงทุนจีนที่จะหายไปในสัปดาห์นี้จึงเป็นปัจจัยหลักทำให้ตลาดหุ้นช่วงตรุษจีนไม่คึกคัก โดยให้กรอบแนวรับที่ 800-795 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 825-830 จุด
สำหรับบรรยากาศการลงทุนจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นมองว่าน่าจะเห็นความชัดเจนในสัปดาห์หน้าเพราะเป็นไซเคิลเวลาที่เหมาะสม และตลาดหุ้นต่างประเทศบางตลาดฯน่าจะเปิดการซื้อขายแล้ว ดังนั้น จึงขอแนะนำนักลงทุนที่เข้ามาซื้อเก็งกำไร เก็บหุ้นราคาถูกเพื่อรอขายในช่วงที่ภาวะตลาดเริ่มกลับมาคึกคักอีกรอบในสัปดาห์หน้าซึ่งภาวะตลาดคงจะเคลื่อนไหวชัดเจนมากกว่านี้
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ?ซื้อ? กลุ่มที่มีผลประกอบการอยู่ในทิศทางที่ดีมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและจ่ายอัตราเงินปันผลอยู่ในระดับที่ดี อาทิเช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้โดยมองว่ากลุ่มที่กล่าวมาข้างต้นจะกลับมาคึกคักได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้าส่วนกลุ่มที่ยังพอจะเก็งกำไรได้มองว่าเป็นกลุ่มขนาดเล็กแต่มีปัจจัยพื้นฐานดีซึ่งต้องใช้วิธีเลือกเล่นเป็นรายตัว ขณะหุ้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมองว่าเป็นกลุ่มพลังงานที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเนื่องจากราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะถดถอยลงมาได้อีก นอกจากนี้ ยังมองว่าหุ้นที่มีขนาดเล็กบางตัวที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมามากในช่วง1-2 สัปดาห์ถือว่ายังมีความเสี่ยงต่อการเข้าลงทุน

- GBX เตือนอย่าหลงกลเทคนิคเล่นรอบของต่างชาติช่วงตรุษจีน
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ จากบริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นช่วงตรุษจีนมีแนวโน้มทรงตัวเนื่องจากนักลงทุนจากต่างประเทศได้หยุดทำการซื้อขายเพื่อรับเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตามในระยะสั้นๆ อาจจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาบ้างเพราะแม้ตลาดเพื่อนบ้านบางประเทศจะปิดทำการทำให้นักลงทุนสถาบันบางรายหันมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ยังเปิดทำการอยู่ แต่ทั้งนี้ การเข้ามาลงทุนของนักลงทุนดังกล่าวนั้นเป็นการเล่นในลักษณะแบบเล่นรอบเพื่อปรับพอร์ต ขึ้นขายลงซื้อ ซึ่งหากตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเปิดทำการนักลงทุนเหล่านี้ก็จะกลับไป ดังนั้นจึงต้องระวังหากจะหลงกลเข้าไปเล่นรอบตาม
สำหรับกลุ่มหุ้นที่มองว่าน่าสนใจซื้อลงทุน คือกลุ่มที่มีแรงเทขายออกมาก่อนหน้านี้ คือ กลุ่มหลักทรัพย์ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ซึ่งมองว่าน่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้งโดยเฉพาะหุ้นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดไม่ใหญ่นักเนื่องจากไม่มีปัญหาเรื่องการกันสำรอง ส่วนหุ้นเก็งกำไรท่ามกลางภาวะตลาดที่ยังซึมเซาทางฝ่ายยังไม่แนะนำ ขณะกลุ่มหุ้นที่มองว่ายังมีเสี่ยงอยู่คือหุ้นที่มีขนาดเล็กไม่มีปัจจัยพื้นฐานคอยสนับสนุน

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com