Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 04/03/2008 @ 10:42:32 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
Sideway
กลยุทธ์การลงทุน
Buy Domestic
กรอบ 836-850pts
แนวโน้ม Range Trading
ปิดวานนี้ 842.92, -2.84
Todays picks
Stock Current Trading Fair Rec.
Price Range Value
TTA 49.0 47-50 52.0 Accumulate
QH 2.50 2.5-2.6 2.60 Accumulate
TICON 19.20 19-19.7 22.4 Buy
SSI 0.95 0.94-1.0 2.10 Trading
What s News
*เงินเฟ้อเดือน ก.พ. กระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.พ. ที่ 5.4% สูงกว่าที่
ตลาดคาดไว้ที่ 5.2% สูงสุดในรอบ 20 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมัน และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับสูงขึ้น
* นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ก.คลังจะนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าที่ประชุม ครม.วันนี้
โดยจะใช้มาตรการภาษี เช่น 1.คง VAT ไว้ที่ 7% ต่ออีก 2 ปี 2.เพิ่มการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา
และ 3.ต่อเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ บมจ.
* ราคาน้ำมัน + ค่าระวางเรือ + ราคาถ่านหิน ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับสูงขึ้น
$0.61/บาร์เรล ปิดที่ $102.45/บาร์เรล รอผลการประชุม OPEC วันที่ 5 มี.ค.นี้ แนะนำ ทยอยสะสม
สำหรับ PTT และ PTTEP สำหรับค่าระวางเรือปรับสูงขึ้น 265 จุด แนะนำ ทยอยสะสม สำหรับ TTA
Market Roundup and Trend: จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้...ถึงปรับสูงขึ้นได้ แต่โดยรวม
SET ยังไม่แข็งแรงนัก
วานนี้ SET ปรับเคลื่อนไหวแคบๆ ตลอดวัน แม้จะมีปัจจัยบวกเชิง Sentiment จากการ
ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ก็ตาม ปิดตลาดปรับลดลง 2.84 จุด ปิดที่ 842.92 จุด ด้วย
มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 29,668 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,201 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุน
สถาบันขายสุทธิ 1,958 ล้านบาท สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้คาดมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม Domestic
Play บ้าง รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังที่จะนำเข้าที่ประชุม ครม.วันนี้ โดย
มาตรการส่วนใหญ่จะเน้นมาตรการด้านภาษี ไม่ว่าจะเป็น 1.คง VAT ไว้ที่ 7% ต่อไปอีก 2 ปี 2.เพิ่มเงิน
ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา 3.ต่อเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ บมจ. และ 4.มาตรการกระตุ้น
ภาคอสังหาริมทรัพย์ เช่น ลดภาษีโอน ลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง เป็นต้น อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อเดือน
ก.พ.ที่ออกมาสูงกว่าคาด และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อในเดือน มี.ค. (น้ำมัน + สินค้าเกษตรแพงขึ้น) รวมไป
ถึงตลาดหุ้นต่างประเทศที่อยู่ในช่วงพักฐานจะเป็นปัจจัยกดดันตลาด
Investment Strategy: ซื้อ Domestic Play เมื่อราคาอ่อนตัว
วานนี้ SET ปรับลดลงเพียง 2.84 จุด ถือว่าแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลดลงแรงค่อน
ข้างมาก อย่างไรก็ตามเรามองความแข็งแกร่งของ SET ในปัจจุบันเป็นจังหวะในการทยอยขายหุ้นออกไป
บ้างบริเวณ 850-860 จุด มากกว่าที่จะไล่ซื้อ เนื่องจาก 1.กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เริ่มเข้าสู่ฤดูการขึ้นเครื่อง
หมาย XD ซึ่งจะมีผลต่อ SET ประมาณ 14 จุด ในเดือน มี.ค.(วันนี้ PTTEP, CCET, PSL ขึ้นเครื่อง
หมาย XD) 2.ตลาดหุ้นต่างประเทศน่าจะยังอยู่ในแนวโน้มการพักฐานระยะสั้นๆ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอต่อเนื่อง โดยกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มแข็งกว่าตลาด คือกลุ่ม Domestic Play ที่ได้
รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB) บ้านและที่ดิน (LH, QH,
AP, PS, LPN) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA, ROJANA) วัสดุก่อสร้าง (TSTH, SSI)
การขึ้นเครื่องหมาย XD ของกลุ่มหุ้นที่ประกาศจ่ายปันผลออกมาแล้ว มีผลต่อ SET ประมาณ 14 จุด (New)
กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่จะเริ่มขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ ซึ่งจะมีผลต่อการปรับลด
ลงของ SET ประมาณ 14 จุด ซึ่งเราถือว่าเป็นปัจจัยกดดัน SET ตัวหนึ่ง นอกเหนือจากตัวเลขเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแออย่างต่อเนื่อง
ตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก
* ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลดลง ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 0.06% และดัชนี S&P 500 ปิดลด
ลง 0.05% ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินได้รับแรงกดดันหลังจากบริษัท Thornburg Mortgage Inc ซึ่งเป็น
บริษัทปล่อยกู้จำนองชั้นนำเปิดเผยว่า บริษัทมีเงินสดไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ของบริษัท ส่งผลให้
หุ้นของบริษัท Thornburg ร่วงลง จากความวิตกว่า บริษัทอาจจะยื่นเรื่องขอพิทักษ์จากศาลในฐานะผู้ล้ม
ละลาย นอกจากนี้การคาดการณ์ผลกำไรที่ซบเซาส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง ขณะที่กันสถาบันจัดการด้าน
อุปทานของสหรัฐรายงานดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศลดลงในเดือน ก.พ. แต่ไม่รุนแรงเท่ากับที่นัก
เศรษฐศาสตร์คาดไว้
* ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย ปิดเพิ่มขึ้น
0.61 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 102.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนแอของ
ดอลลาร์กระตุ้นให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์เข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้มีปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดใน
ตะวันออกกลาง, อเมริกาใต้และไนจีเรีย เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับอุปทาน ขณะที่
เวเนซุเอลาและเอกวาดอร์ได้ส่งกองทัพไปยังพรมแดนที่ติดกับโคลัมเบีย หลังจากโคลัมเบียได้ใช้ระเบิดโจม
ตีกลุ่มกบฎที่กบดานอยู่ในเอกวาดอร์
* ดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวหลังดัชนีการผลิตลดต่ำกว่าคาด ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับยูโร และ
ตะกร้าสกุลเงิน ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตของโรงงานทั่ว
ประเทศลดลงอยู่ที่ 48.3 ในเดือน ก.พ.จาก 50.7 ในเดือน ม.ค.แต่สูงกว่าที่นักเศรษฐศาตร์คาดไว้ที่
48.0 โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวในภาคการผลิต ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ไม่มีแนวโน้ม
ที่การฟื้นตัวของดอลลาร์จะเป็นไปอย่างยั่งยืน เมื่อพิจารณาจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากใน
สัปดาห์นี้ ซึ่งอาจตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในเดือนนี้
* ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดเพิ่มขึ้น 265 จุด มาอยู่ที่ 7,878 จุด ค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัว
ขึ้น หลังจากที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ ธ.ค. 50 เนื่องจากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบระยะสั้นสิ้นสุดลง
กล่าวคือธุรกรรมการผลิตในประเทศจีนกลับมาดำเนินการต่ออีกครั้ง หลังหยุดชะงักไปในช่วงวันหยุดยาว
และช่วงที่ภาวะอากาศแปรปรวน ทำให้คาดว่าความต้องการถ่านหินและสินแร่เหล็กจากจีน จะกลับเข้าสู่
ภาวะปกติ (ถ่านหินและสินแร่เหล็ก เป็นสินค้าที่ขนส่งโดยเรือเทกองในสัดส่วน 60% ของสินค้าทั้งหมด)
ตลอดจนท่าเรือขนส่งสินแร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุดของบราซิล กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ หลังจากหยุดซ่อมแซม
นาน 2 เดือน รวมทั้งผู้ผลิตเหล็กในประเทศจีนบางราย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินแร่เหล็ก ได้ตกลงปรับเพิ่มราคา
สินแร่เหล็กกับผู้ส่งออกแล้ว (เพิ่มขึ้น 65%) ทำให้คาดว่าการนำเข้าสินแร่เหล็กที่เคยชะงักไป จะเริ่มกลับ
มาขนส่งตามปกติ คาดว่าด้วยปัจจัยเหล่านี้ จะทำให้ดัชนีระวางเรือเทกองปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
News in Brief
AKR: ส่งเอกรัฐโซลาร์เข้าเทรดปลายปีนี้
AKR เผยอยู่ระหว่างศึกษาแผนการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ของบริษัท
เอกรัฐโซลาร์ จำกัด ซึ่ง AKR ถือหุ้นอยู่ 100% คาดว่าจะเพิ่มทุนเป็น 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจด
ทะเบียนอยู่ที่ 500 ล้านบาท (ราคาพาร์ 1 บาท) แบ่งเป็นเงินเพิ่มทุนจาก AKR 200 ล้านบาท ส่วนอีก
300 ล้านบาทคาดว่าจะมาจากการออก IPO ราคา 1.50-2.00 บาท คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลัก
ทรัพย์ MAI ได้ภายในปีนี้ (ข่าวหุ้น)
BSM: คาดกำไรสุทธิปี 51 ดีกว่าปีก่อน
BSM ผู้จัดจำหน่ายวัสดุตกแต่งภายในอาคาร คาดกำไรสุทธิปี 51 ดีกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ที่ระดับ 5.65
ล้านบาท และมีรายได้โตอย่างน้อย 20% คาดยอดขายไตรมาส 1/51 จะเติบโต 20% หลังมีออเดอร์ใหม่
เข้ามา ทั้งนี้บริษัทได้มีการลงนามเบื้องต้นเพื่อจัดตั้งบรัทร่วมทุนในเวียดนาม คาดว่าต้องใช้เวลา 6 เดือน
หลังเซ็นสัญญา MOU เพื่อสรุปข้อชัดเจนเกี่ยวกับการร่วมลงทุนและการถือหุ้น (รอยเตอร์)
GEN: ปีนี้กำไร 60 ล้านปันผลครั้งแรก
GEN เผยบริษัทจะนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้นจำนวน 67.8 ล้านบาท มาล้างขาดทุนสะสมจำนวน 54
ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 50 ทำให้บริษัทมีผลกำไรสะสมจำนวน 13 ล้านบาท และหากบริษัทมีกำไรในปี 51 ก็จะ
สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ทั้งนี้มั่นใจไตรมาสแรกปีนี้จะมีกำไร 50-60
ล้านบาท (โพสต์ทูเดย์)
MILL: เล็งย้ายเข้า SET หลังซื้อกิจการ เหล็กบูรพา
MILL เตรียมย้ายเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ภายในปีนี้ หลังจากที่บอร์ดอนุมัติซื้อ
กิจการ เหล็กบูรพา เพื่อขยายขีดความสามารถแผนการดำเนินงานในอนาคต พร้อมออกหุ้นเพิ่มทุนรองรับ
173 ล้านหุ้น ระบุหากดีลแล้วเสร็จจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 8-9 แสนตันต่อปี (ทันหุ้น)
PLE: อีก 2 วันเซ็น 5 พันล้าน
PLE อยู่ระหว่างการรอสรุปผลการประมูลงานก่อสร้างอาคารสูงที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐ
อาหรับเอมิเรตส์ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท คาดว่าไม่เกิน 2 วันนี้จะรู้ผลว่าจะชนะการประมูลหรือไม่
นอกจากนี้ประมาณกลางเดือนมี.ค.จะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมประมูลงานในโครงการใหม่ๆ
บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา [/size:38410e237b">
|
