May 2, 2024   10:37:11 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ฟันธง
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 05/03/2008 @ 11:08:51
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
Sideway
กลยุทธ์การลงทุน
Domestic Play

กรอบ 824-840pts
แนวโน้ม Range Trading
ปิดวานนี้ 831.41, -11.51

Todays picks
Stock Current Trading Fair Rec.
Price Range Value
LH 9.15 9.0- 9.5 10.2 Accumulate
MAKRO 99.5 99-102 120.0 Accumulate
TSTH 2.26 2.22-2.34 2.70 Accumulate
CPALL 11.10 10.9-10.5 11.60 Accumulate

Whats News

* มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายมาตรการ ไม่ว่าจะ
เป็น 1.การเพิ่มรายได้ประชาชน 2.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุน SME และ 3.มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้น
การลงทุน (ดูตารางหน้า 2)

* ดัชนีหุ้น Dow Jones ปรับลดลง 0.37% เนื่องจากความกังวลว่าจะเห็นการปรับลดมูลค่า
สินทรัพย์ ของสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยประธานเฟด คาดว่าราคาบ้านมีแนวโน้มปรับลดลงอีก และ
จะมีผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค

* ราคาน้ำมัน + ค่าระวางเรือ + ราคาถ่านหิน ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับลดลงแรง
$2.93/บาร์เรล ปิดที่ $99.52/บาร์เรล รอผลการประชุม OPEC วันที่ 5 มี.ค.นี้ แนะนำ ทยอยสะสม
เมื่อราคาอ่อนตัว สำหรับ PTT และ PTTEP สำหรับค่าระวางเรือปรับสูงขึ้น 115 จุด แนะนำ ทยอย
สะสม สำหรับ TTA

Market Roundup and Trend: ระยะสั้นยังมองปรับลดลงไปที่ 800-815 จุด มากกว่าที่จะปรับสูงขึ้นแรง
วานนี้ SET ปรับสูงขึ้นในช่วงเปิดตลาดเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มีการ Sell on
Fact ออกมาหลังมีมาตรการประกาศออกมา (ไม่ต่างจากที่คาดไว้) ปิดตลาดปรับลดลง 11.51 จุด ปิดที่
831.41 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่น 19,502 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,669 ล้านบาท
ขณะที่นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 269 ล้านบาท สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่อง แม้ว่า
ครม.จะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายๆ มาตรการออกมาเมื่อวาน โดยราคาน้ำมันที่ปรับลดลงเกือบ
$3/บาร์เรล จะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTT, และ PTTEP ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริม
ทรัพย์ (ลดภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.1% และลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองเหลือ 0.01%) วัสดุ
ก่อสร้าง พาณิชย์ (เพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพิ่มลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันชีวิต) ธนาคาร
จะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านภาษีที่ ครม.อนุมัติเมื่อวานนี้ และคาดว่าจะมีแนวโน้มแข็ง
กว่าตลาดในช่วงนี้

Investment Strategy: ทยอยสะสม Domestic Play เมื่อราคาอ่อนตัว ที่ SET ระดับ 800-815 จุด
กลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ยังเป็นการทยอยขายหุ้นเมื่อราคาปรับสูงขึ้นเหมือนเมื่อ 2-3 วันก่อน และยัง
ไม่เห็นประเด็นเข้าไล่ซื้อหุ้นเมื่อราคาปรับสูงขึ้น เนื่องจาก 1.หุ้นใหญ่เริ่มเข้าสู่ช่วงการขึ้นเครื่องหมาย XD
2.ยังต้องติดตามสถานการทางการเมืองต่อ ไม่ว่าจะเป็นกรณีอนุกรรมการสืบสวนกรณียุบพรรคมัชฌิมาฯ หรือ
ชาติไทย (พิจารณาอีกครั้ง 11 มี.ค.นี้) รวมไปถึงกรณีให้ใบแดงคุณยงยุทธ และ 3.นักลงทุนสหรัฐฯ เริ่ม
กลับมามีความกังวลต่อปัญหาหนี้เสีย ที่ส่งผลให้สถาบันการเงินสหรัฐฯต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ต่อเนื่อง

...โดยกลุ่มหุ้นที่เรามองว่าจะมีแนวโน้มแข็งกว่าตลาดช่วงนี้ คือ กลุ่มหุ้น Domestic Play อย่างกลุ่มอสัง
หาฯ วัสดุก่อสร้าง พาณิชย์ และธนาคาร ที่ได้รับผลดีโดยตรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ดูหน้า 2)

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายภาษี จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นในระยะกลาง...แต่ระยะสั้นกลุ่มหุ้นที่ได้
รับผลดีปรับสูงขึ้นรับข่าวไปแล้ว (New)
วานนี้ ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ก.คลัง โดยแบ่งเป็นมาตรการย่อยๆ ดังนี้
1. มาตรการภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
a. ปรับเพิ่มเงินได้สุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิม 100,000 บาท/ปี
เป็น 150,000 บาท/ปี
b. ปรับเพิ่มวงเงินยกเว้นและการหักค่าลดหย่อนเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิต จาก
เดิม 50,000 บาท/ปี เป็น 100,000 บาท/ปี
c. เพิ่มวงเงินการหักค่าลดหย่อนเงินได้ จากการลงทุน LTF และ RMF จากเดิม
300,000 บาท/ปี เป็น 500,000 บาท/ปี

2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุน SME ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
a. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแก่ห้องหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคล และมีเงินได้ไม่เกิน
1,200,000 บาท/ปี (ตั้งแต่ 2551-2553)
b. ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือบริษัทในส่วนที่มีกำไรสุทธิไม่เกิน
150,000 บาท

3. มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
a. ให้บุคคลธรรมดา หรือบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน สามารถหักค่าใช้จ่ายเพื่อการได้มาซึ่ง
เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือวัสดุ ที่มีผลต่อการประหยัดพลังงานได้ 1.25 เท่าของค่าใช้จ่าย (เครื่องจักรต้อง
ติดตั้งใช้งานภายในปี 2553)
b. สามารถหักค่าสึกหรอหรือค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินเบื้องต้นประเภทเครื่องจักร เพื่อใช้ใน
การผลิตสินค้า ในอัตรา 40%
c. สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อราคาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ได้ภายใน 3 รอบระยะ
เวลาบัญชี
d. ลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับบริษัทที่นำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนใน SET (เหลือ 25% 3
ปี) หรือ MAI (เหลือ 20% 3ปี)
e. บริษัทจดทะเบียนใน SET ในส่วนที่เป็นกำไร 300 ล้านบาทแรก คิดภาษีอัตรา 25%
สำหรับ MAI คิดอัตราภาษี 20% ของกำไร 20 ล้านบาทแรก เป็นเวลา 3 ปี
f. มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ โดยการ ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3% เป็น 0.1% และ
ลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดจำนอง เหลือ 0.01%

เรามองว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ ก.คลัง โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นภาคอสังหา จะทำ
ให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นการเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ต้องการจะซื้อ
อสังหาริมทรัพย์มาอยู่ในปี 2551 ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของปี 2551 ออกมาดี โดยเฉพาะบริษัท
บ้านและที่ดินที่มีสต็อกบ้าน หรือสามารถสร้างบ้านได้เร็ว อย่าง PS, LH, QH, และ AP ขณะที่กลุ่มวัสดุก่อ
สร้างจะได้รับผลดีจากกิจกรรมการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย แนะนำ TSTH สำหรับกลุ่มธนาคารอย่าง SCB
ที่เน้นการปล่อยสินเชื่อบ้านจะได้รับผลดีจากมาตรการนี้ด้วย
สำหรับมาตรการเพิ่มรายได้ในกับบุคคลธรรม แม้จะมีผลต่อกำลังซื้อไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีกับ
กลุ่มพาณิชย์ อย่าง BIGC, MAKRO, CPALL โดยเราให้ MAKRO เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม มูลค่าพื้นฐาน 120
บาท

ตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก

* ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลดลง ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 0.37% และดัชนี S&P 500 ปิดลด
ลง 0.34% โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังเมอร์ริลล์ ลินช์ คาดการณ์ว่า ซิตี้
กรุ๊ปจะขาดทุนราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และส่งผลให้หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 4.3% นอกจากนี้หุ้นกลุ่มการเงิน
ยังได้รับผลกระทบจากการที่วาโชเวียปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของวาณิชธนกิจสหรัฐ 4 แห่ง รวมถึง
แบร์ สเติร์นส โดยระบุว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกของวาณิชธนกิจเหล่านี้จะอยู่ในระดับย่ำแย่ที่สุดใน
รอบหลายปี ขณะเดียวกันนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่ามีแนวโน้มที่การ
ผิดนัดชำระหนี้จำนองและการยึดทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้น

* ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลง สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย ปิดลดลง
2.93 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 99.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากการที่นักวิเคราะห์
คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และระบุว่าอุปทานน้ำมันเบนซินอยู่ใน
ภาวะล้นตลาด โดยเป็นผลจากการนำเข้าปริมาณมากและจากการเพิ่มอุปทานเอธานอล ทั้งนี้สำนักงาน
สารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐจะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันในวันนี้ โดยตลาดคาดว่าสต็อก
น้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

* ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงจากแนวโน้มเศรษฐกิจซบเซา ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับตะกร้า
สกุลเงิน ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เตือนว่า มีแนวโน้มที่การผิดนัด
ชำระหนี้จำนอง และการยึดทรัพย์จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ราคาบ้านจะร่วงลงอีก และเรียกร้องให้มีการดำเนิน
มาตรการอย่างจริงจังเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันนักลงทุนเชื่อว่าแนวโน้ม
เศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่จะยังคงกดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อดอลลาร์

* ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดเพิ่มขึ้น 115 จุด มาอยู่ที่ 7,993 จุด ค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัว
ขึ้น หลังจากที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ ธ.ค. 50 เนื่องจากปัจจัยลบที่เข้ามากระทบระยะสั้นสิ้นสุดลง
กล่าวคือธุรกรรมการผลิตในประเทศจีนกลับมาดำเนินการต่ออีกครั้ง หลังหยุดชะงักไปในช่วงวันหยุดยาว
และช่วงที่ภาวะอากาศแปรปรวน ทำให้คาดว่าความต้องการถ่านหินและสินแร่เหล็กจากจีน จะกลับเข้าสู่
ภาวะปกติ (ถ่านหินและสินแร่เหล็ก เป็นสินค้าที่ขนส่งโดยเรือเทกองในสัดส่วน 60% ของสินค้าทั้งหมด)
ตลอดจนท่าเรือขนส่งสินแร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุดของบราซิล กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ หลังจากหยุดซ่อมแซม

บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา [/size:f6dc431d37">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com