May 2, 2024   6:21:29 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > BECL
 

???????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 288
วันที่: 08/03/2008 @ 19:46:04
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

:cry:

BECLขึ้นค่าทางด่วนส.ค. หนีรายได้หดจากน้ำมันพุ่ง

โพสต์ทูเดย์ ? BECL ยอมรับรายได้ปีนี้อย่างดีสุดทำได้เท่ากับปีก่อน 7,200 ล้าน เหตุกระเทือนเปิดใช้วงแหวนใต้และราคาน้ำมันพุ่ง ขอขึ้นค่าทางด่วน ส.ค.นี้

น.ส.ปาหนัน โตสุวรรณถาวร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) กล่าวว่า ปริมาณรถที่ใช้บริการทางด่วนของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะลดลงจากปีที่ผ่านมา เฉลี่ยที่ 9.27 แสนคันต่อวัน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น


นอกจากนี้ การเริ่มเปิดใช้ถนนวงแหวนรอบนอก (ด้านใต้) ของกรมทางหลวง ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2550 ทำให้ปริมาณรถที่ใช้ผ่านเส้นทางของ BECL หายไป 4-5 หมื่นคันต่อวัน เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม ในแง่ของรายได้บริษัทคาดว่าน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 7,200 ล้านบาท เนื่องจากหวังว่าการปรับเพิ่มค่าทางด่วนช่วงเดือน ส.ค.นี้ นั้นจะมาชดเชยรายได้ที่ลดลงจากปริมาณรถที่มาใช้บริการลดลง ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ส่งเรื่องไปยังการทางพิเศษแล้ว


น.ส.ปาหนัน กล่าวว่า แม้ว่าบริษัทจะมีกำไรจากการนำหุ้นบริษัท น้ำประปาไทย (TTW) เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 12.5% ของทุนชำระแล้วนั้น แต่ไม่ได้มากพอที่จะเข้ามาผลักดันการเติบโตของรายได้ของบริษัทให้เพิ่มขึ้นได้ เพราะจำนวนหุ้นที่เสนอขายมีเพียง 37 ล้านหุ้นเท่านั้นเอง


?ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ไม่ปกติของบริษัท ซึ่งปกติจะโตปีละ 2-3% ในแง่ของจำนวนรถที่มาใช้บริการ เพราะผลจากการเปิดใช้วงแหวนด้านใต้และราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น? น.ส.ปาหนัน กล่าว


บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำให้ซื้อหุ้น BECL และให้มูลค่าตามพื้นฐาน 27 บาท หลังกำไรสุทธิไตรมาส 4 ทำได้ 444.24 ล้านบาท ซึ่งดีกว่า คาดว่าทำให้รวมทั้งปี 2550 มีกำไรสุทธิ 1,406.50 ล้านบาท


สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 1,777.16 ล้านบาท และรายได้ที่ 7,679 ล้านบาท รวมผลกระทบของวงแหวนนอกด้านใต้ ซึ่งไม่เสียค่าผ่านทางจนกว่าจะติดตั้งระบบเก็บเงินเสร็จราวปลายปี 2551 และการได้ปรับขึ้นค่าทางด่วนเดือน ก.ย. 2551


?ในปี 2551 คาดว่าการใช้ทางด่วนจะติดลบ 0.16% โดยมีรถใช้บริการเฉลี่ย 9.83 แสนคันต่อวัน และยังคงคาดว่าจะได้ปรับขึ้นค่าผ่านทางในเดือน ก.ย. 2551?


ล่าสุดราคาหุ้น BECL ปิดที่ 21.20 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 1.85%
8)

 กลับขึ้นบน
มิชิโกะ
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 288
#1 วันที่: 10/03/2008 @ 18:54:11 :
วันนี้เปิด 21.00 บาท ปิด 20.50 บาท...ลดลง 0.50 บาท
XD 26 มีนาคม 51 : 0.60 บาท/หุ้น

บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ระบุว่า BECL คาดว่าการทางพิเศษจะอนุมัติให้ปรับค่าผ่านทางในช่วงเดือนส.ค. และมีผลบังคับใช้จริงในเดือนก.ย 2551
เราประเมินว่าจากการแข็งขันที่รุนแรงและการที่ภาครัฐต้องการควบคุมระดับเงินเฟ้อ BECL จะ
สามารถปรับค่าผ่านทางได้เพียง 5 บาท เป็น 45 บาท ซึ่งเป็นระดับไม่เพียงพอที่จะลดผลกระทบจากการลดลงของปริมาณรถที่เราคาดว่าจะลดลงถึง 5%

บล.โกลเบล็ก : BECL แนะนำ ?ซื้อ? ราคาเป้าหมาย 25 บาท

ยื่นเรื่องต่อ กทพ.ขอปรับขึ้นค่าทางด่วนแล้ว รู้ผล ส.ค.นี้: BECL ได้ยื่นเรื่องต่อกทพ.
เพื่อขอปรับขึ้นค่าทางด่วนแล้ว ซึ่งจะรู้ผลในเดือน ส.ค.นี้ และจะมีผลใช้ค่าทางด่วนใหม่เดือน
ก.ย.51 ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าทางด่วน จะพิจารณาเปรียบเทียบกับดัชนีราคาผู้บริโภคกรุงเทพฯ
ตั้งแต่ มี.ค.46 ถึง มี.ค.51 ซึ่งหากเทียบจนถึง ม.ค. 51 CPI เพิ่มขึ้นแล้ว 17.5% และถ้าใช้ตัว
เลขนี้มาคำนวณจากฐานค่าทางด่วนปัจจุบันที่ 40 บาท จะทำให้ได้ค่าทางด่วนใหม่โดยปัดเป็น
จำนวนเต็ม 5 บาทได้ที่ 45 บาท แต่หากใช้ฐานค่าทางด่วนที่ควรจะเป็นในปี 46 ที่ 45 บาท
(เนื่องจากครั้งที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้ปรับเพิ่ม ซึ่งก็อยู่ในกระบวนการฟ้องร้องอยู่) จะทำให้ค่าทาง
ด่วนใหม่ที่ 55 บาท อย่างไรก็ตาม จากนโยบายตรึงราคาสินค้าของรัฐบาล ก็ทำให้มีโอกาสที่
BECL จะไม่ได้รับการพิจารณาปรับเพิ่มค่าทางด่วนได้เช่นกัน
ผลจากการเปิดให้ใช้ฟรีของถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ ทำให้ปริมาณการใช้ทาง
ด่วนชะลอตัว: ปริมาณการใช้ทางด่วนในเดือน ธ.ค.50 และ ม.ค.51 ลดลง 5.4% และ 2.6%
ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากถนนวงแหวนรอบนอกด้านใต้ที่เปิดให้ทดลองใช้ฟรีจนกว่าจะสร้างระบบ
เก็บเงินเสร็จราวปลายปี 51 ทำให้ปริมาณรถยนต์ที่ใช้ด่านบางนา, ดาวคะนอง, สุขสวัสดิ์ และ
บางจากลดลง และส่วนใหญ่เป็นประเภทรถบรรทุก ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อคันลดลงดัวย อย่างไร
ก็ตาม ผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวจะลดลงในปี 52 และคาดว่าปริมาณการใช้ทางด่วนจะกลับมา
เติบโตตามปกติราว 4-5% (ในกรณีไม่ได้ปรับเพิ่มค่าทางด่วน)
ปี 51 ได้รับผลกระทบเชิงลบจากวงแหวนใต้ และยังไม่แน่ว่าจะได้ขึ้นค่าทางด่วน:
อาจมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ได้ปรับเพิ่มค่าทางด่วน ดังนั้น จึงยังไม่รวมผลจากปัจจัยดังกล่าว
แต่จะรวมผลกระทบจากการเปิดใช้ของถนนวงแหวนใต้ด้านนอกและผลกระทบจากราคาน้ำมันที่
สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้ปริมาณการจราจรในปีนี้ปรับตัวลดลงราว 1-2% แต่จากค่าใช้จ่ายที่ลดลงโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับดอกเบี้ย ก็ยังส่งผลให้กำไรสุทธิยังปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 7% แต่หาก
ได้รับการปรับเพิ่มค่าทางด่วน 5 บาท คาดว่ากำไรจะปรับเพิ่มขึ้นราว 14% สำหรับการการนำ
TTW เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีนี้ คาดว่าจะได้กำไรไม่มาก โดย BECL เตรียมขาย
IPO 37.5 ล้านหุ้น ที่ต้นทุน 3.08 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม หากมีการออกหุ้นกู้เพื่อ refinance
ในปี 51 อีกจะต้องเสียค่าธรรมเนียมราว 150-225 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรปี 51
ปรับลดลง 1-5%
แนะนำ ?ซื้อ? ราคาเป้าหมาย 25 บาท: เราประเมินมูลค่าโดยไม่รวมผลจากการปรับขึ้นค่าทางด่วนในเดือน ก.ย.51 เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนว่าจะได้ปรับขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้
เราประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF ที่ WACC ราว 10.5% ได้ราคาเป้าหมายปี 51 ที่ 25 บาท และ
Div. yield ประมาณ 5% ยังคงแนะนำ ซื้อ
อย่างไรก็ตาม หากได้รับการปรับเพิ่มค่าทางด่วน 5 บาท จะได้ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท


ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 10/03/08 เวลา 10:12:17
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com