kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 10/03/2008 @ 08:38:50 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต SET กลับมาอยู่ในช่วงการพักฐาน โดยมีเป้าหมายการพักฐานไปที่ 800 - 815 จุด ในสัปดาห์นี้
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : หลังปรับสูงขึ้นทดสอบเป้าหมายระยะสั้นของเราที่ 850 - 860 จุดในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน รับปัจจัยบวกจากการประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% แต่เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศโดยเฉพาะดัชนีหุ้น DOW JONES ที่ปรับลดลงแรงในสัปดาห์ก่อน
เนื่องจากความกังวลปัญหาการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ของสถาบันการเงิน ส่งผลทำให้ SET ปรับลดลง 2.86% จากสัปดาห์ก่อน ปิดตลาดที่ 821.57 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติเริ่มขายหุ้นสุทธิออกมา 4,751 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET สัปดาห์นี้ (เราเตือนไว้ในสัปดาห์ก่อนว่าระวังแรงขายทำกำไรบริเวณ 850 - 860 จุด) คาดว่าจะอยู่ในช่วงการพักฐานต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน โดยมีเป้าหมายการพักฐานที่บริเวณ 800 - 815 จุด โดยกลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มแข็งกว่าตลาด คือ กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ อย่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มธนาคาร และกลุ่มพาณิชย์ ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้การพักฐานแรงกว่าที่เราคาดคือ การปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ของสถาบันการเงินสหรัฐ และความสำเร็จในการเพิ่มทุนของบริษัทประกันหุ้นกู้อย่าง MBIA, หรือ MBAC
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง ธนาคาร และกลุ่มพาณิชย์ เป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีโดยตรงต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ
ที่ประชุม ครม.สัปดาห์ก่อนอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านนโยบายการคลังหลายนโยบาย ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา จาก 100,000 บาท เป็น 150,000 บาท, เพิ่มอัตราค่าลดหย่อนจากการทำประกันชีวิตจาก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท หรือ การปรับลดภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาฯ และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ซึ่งเรามองว่าหุ้นกลุ่มอสังหาฯ จะได้รับผลดีโดยตรงจากมาตรการนี้
เนื่องจากผู้บริโภคจะเร่งการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยภายในปีนี้เพื่อรับผลประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการโอน และการจดจำนองที่ลดลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ เราให้ LH, QH, AP, PS, LPN เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม ทั้งนี้กิจกรรมการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจะเป็นผลดีต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (TSTH) ด้วยเช่นกัน ขณะที่กลุ่มธนาคารจะได้รับผลดีจากการปล่อยกู้สินเชื่อเพิ่มขึ้น โดย SCB เป็นธนาคารที่มีจุดเด่นในการปล่อยสินเชื่ออสังหาฯ ส่วนกลุ่มพาณิชย์ (MAKRO) จะได้รับผลดีจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ผ่านการเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา
ถือหุ้นในสัดส่วน 80% ต่อเนื่อง?พอร์ตจำลองมีอัตราผลตอบแทน -1.93% มากกว่าตลาดที่มีอัตราผลตอบแทน -2.86% อยู่ 0.9%
สายเกินไปถ้าจะลดพอร์ต เนื่องจากมองระดับ DOWNSIDE จากปัจจุบันไม่มากนัก โดยมีเป้าหมายการพักฐานที่ 800 - 815 จุด ขณะที่ SET คาดว่าจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นอื่น เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเป็นแรงกระตุ้นตลาดระยะสั้นๆ....
สำหรับพอร์ตจำลองสัปดาห์ที่ผ่านมามีอัตราผลตอบแทน -1.93% ต่ำกว่าตลาดที่ปรับลดลง -2.86% อยู่ 0.9% โดยตั้งแต่จัดทำพอร์ตจำลองเมื่อ 4 ก.ย. 2549 มีอัตราผลตอบแทน 70.5% ดีกว่าตลาดที่มีอัตราผลตอบแทน 17.1% อยู่ 45.6% สำหรับสัปดาห์นี้เราแนะนำถือหุ้น BEC, KBANK, MAKRO, PS, PTT, TSTH, และ UMS ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ตลาดอ่อนตัว เลือกซื้อเป็นตัวๆ ดีกว่า
คงมีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกผิดหวังกับความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะแทนที่ข่าวดีจะเป็นปัจจัยจิตวิทยาหนุนให้ตลาดหุ้นขึ้น แต่กลับตรงกันข้าม ตลาดปรับตัวเกือบทั้งสัปดาห์ ซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งของตลาดหุ้น ที่จะซื้อหุ้นเมื่อมีข่าวลือ และขายหุ้นเมื่อความจริงถูกเปิดเผยออกมาแล้ว (BUY THE RUMOR , SELL THE FACT) โดยดัชนี SET ขึ้นไปสูงสุดที่ 849.91 จุด ไม่ถึง 860 จุดอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะลงมาต่ำสุดที่ 816.42 จุด ปัจจัยลบหลักคือ ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญทั้งอเมริกา ยุโรป เอเชีย ที่ปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์หลังจากไม่ผ่าน 12700 จุด ปรับตัวลงทั้งสัปดาห์กว่า 500 จุด หรือ 4.3% ซึ่งเป็นสาเหตุกระทบต่อดัชนี SET ไม่สามารถขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะมีข่าวดีหนุนตลาดก็ตาม ในขณะที่ดัชนี SET ขึ้นไปถึงระดับ 850 จุด แต่แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มซื้อน้อยลง และจะต้องระวังเปลี่ยนเป็นแรงขายมากขึ้นก็ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนี SET ปรับตัวลงต่อไปที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน 804 จุด หรือต่ำกว่าได้
เราคาดว่าดัชนี SET ที่ปรับตัวลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้บ้างในสัปดาห์นี้ แต่คาดว่าจะยังไม่ผ่าน 830 จุด ในขณะที่ยังมีความเป็นไปได้ที่จังปรับตัวลงต่อไป จนถึงบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้นครั้งสำคัญ โดยเผื่อการปรับตัวลงต่ำกว่า 804 จุดได้เล็กน้อย แต่คาดว่าจะไม่หลุดแนวรับถัดไป 788 จุด
แนวรับ 805 795 775
แนวต้าน 830 842 862
หุ้นที่น่าสนใจทางเทคนิค
STPI ราคาปิด 8.15 บาท : ราคาหุ้นเคยทำจุดสูงสุดไว้ที่ 9.20 บาท ปรับตัวลดลง 16% มาทำจุดต่ำสุดที่ 7.70 บาท เป็นการลงมาปิด GAP และเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยมีรูปแบบเป็น DOUBLE BOTTOM สัปดาห์นี้คาดว่าจะขึ้นทดสอบแนวต้าน 8.40-8.45 บาท
AYS TALK :บล.กรุงศรีอยุธยา
:lol: [/size:64835f6e68">
|
