SET
ดัชนีเกิดการปรับฐานลงอย่างต่อเนื่อง ภายหลังไม่อาจฝ่า Tweezers Top บริเวณ 850 จุด ไปในการทดสอบสัปดาห์ก่อน การปรับฐานมีนัยมากเนื่องจากเป็นการปรับลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 25 75 และเส้น 200 วัน ขณะที่ RSI เกิดสัญญาณขาย องค์ประกอบเหล่านี้แสดงถึงโอกาสปรับลงต่อในระยะสั้น คาดว่าจะลงไปปิด gap และสร้างฐานบริเวณ Golden Cross เดิมบริเวณ 780 จุดอีกครั้ง

มุมมองระยะกลาง - EMC
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
ตลอดปี 50 นั้น หุ้น EMC แกว่งตัวตามแนวเส้นค่าเฉลี่ย 10 25 75 และเส้น 200 สัปดาห์ ช่วง 3.00-4.00 บาท การพักฐานที่ยาวนาน ส่งผลให้เกิดฐานการเปลี่ยนแนวโน้มที่แข็งแกร่ง เมื่อไม่นานมานี้ ราคาดีดตัวอย่างรวดเร็วพร้อมด้วยรูปแบบสัญญาณต่อเนื่องในแท่งเทียนรายสัปดาห์ขณะที่ MACD มีแนวโน้มเชิงบวก ลักษณะเหล่านี้แสดงถึงช่วงการเปลี่ยนแนวโน้มหลัก แม้ระยะสั้นราคาอาจปรับลงบ้าง เส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ช่วง 4.70-4.90 บาท จะสามารถยับยั้งการปรับฐานนี้ได้ เป็นโอกาสดีของการเข้าซื้อเพิ่มเติม ในแนวโน้มระยะกลางนั้นจะมี Tweezers Top บริเวณ 7.30-7.50 บาท ทำหน้าที่แนวต้านหลัก

หุ้นเด่น เล่นสั้น - BGT
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
ภายหลังจากที่ได้พักฐานบริเวณ 3.00-3.30 บาท มาได้สักระยะหนึ่ง BGT สามารถฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ โดยอาศัยเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน เป็นฐานการดีดกลับที่สำคัญ การที่ Stochastic เคลื่อนตัวเข้าใกล้เขตการซื้อมากเกินไปอาจทำให้ราคาปรับฐานระยะสั้นได้ แต่จะไม่กระทบกับโครงสร้างใหญ่แต่อย่างใด นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเพิ่มเติมได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน บริเวณ 3.50 บาท สถานะเชิงบวกที่พบใน RSI และ MACD แสดงถึงโอกาสการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีจุดสูงก่อนเป็นเป้าหมายหลักของการทดสอบ
หมายเหตุ: บมจ. หลักทรัพย์ ซีมิโก้ มีส่วนได้ส่วนเสียในฐานะเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ของ BGT

หุ้นเด่น เล่นสั้น - UKEM
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
UKEM ดีดตัวเข้าสู่ขาขึ้นจากฐานการเปลี่ยนแนวโน้มบริเวณ 1.40-1.60 บาท เมื่อเดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังสามารถทดสอบ Tweezers Top ที่ 2.20-2.30 บาท ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สัญญาณระยะสั้นมีสถานะการซื้อมากเกินไป ซึ่งทำให้เกิดการปรับฐานย่อย สังเกตเห็นว่าราคาทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ได้อย่างมั่นคง แท่งเทียนรายสัปดาห์ที่เกิดสัญญาณต่อเนื่องแสดงถึงจุดเริ่มต้นของการดีดตัวครั้งสำคัญ ต่อไป Tweezers Top เดิมจะเป็นเพียงแนวต้านย่อยเท่านั้น


:lol:

การตัดสินกรณียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตยจะมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี หาก กกต. มีมติยุบทั้ง 2 พรรค จะมีแรงขายค่อนข้างมาก ดัชนีมีโอกาสหลุด 780 จุด เพราะเกรงว่าความเสี่ยงทางการเมืองจะเพิ่มขึ้น จากความเป็นไปได้ในการยุบพรรคพลังประชาชน แต่หากยุบพรรคใดพรรคหนึ่ง แนวรับที่ 780 จุด น่าจะแข็งแกร่งเพียงพอ หากพลิกไม่ยุบพรรค SET มีโอกาสปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ซึ่งโดนพิษซับไพร์มกระหน่ำ แต่ แนวต้านไม่น่าเกิน 830 จุด

Technical Analysis
สัญญาณขายที่พบใน RSI และรูปแบบสัญญาณต่อเนื่องเชิงลบของแท่งเทียนแสดงถึงโอกาสการปรับฐานลงต่อของดัชนีโดยมีแนวรับหลักคือ gap และ Golden Cross บริเวณ 780 จุด
หุ้นแนะนำระยะสั้น: BGT, UKEM
หุ้นแนะนำระยะกลาง: EMC


News Comment
CSL: (ซื้อ/4.00 บาท/พื้นฐาน 4.40 บาท)
คืนเงินสด ดันผลตอบแทนการลงทุนพุ่ง 24%

Flash Results
WORK: (ซื้อ/17.40 บาท/พื้นฐาน 21.00 บาท)
ปรับลดประมาณการ.. แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัว


:lol:

AMATA : ปี 51 ตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 1,700 ไร่ - ซื้อ ราคาพื้นฐาน 18.70 บาท

ตั้งเป้าปี 51 ที่ 1,700 ไร่ จากการขยายตัวของกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ AMATA เปิดเผยว่า ปี 51 คาดว่าจะทำยอดขายที่ดิน 1,700 ไร่ หลังจากปี 50 ทำยอดขายได้ 1,722 ไร่ จากการขายบิ๊กล็อตให้กลุ่มฮอลลี่ โดยกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ยังเป็นกลุ่มหลักที่จะมีการขยายกำลังการผลิตหลังหลายค่ายร่วมโครงการรถอีโคคาร์ และมีแผนจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 1 พันล้านบาท ภายในกลางปีนี้

แนวโน้มเติบโตสดใส ยังคงคำแนะนำ ?ซื้อ? เราคาดว่าแนวโน้มความต้องการที่ดินนิคมฯ ที่ยังสดใสจากการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์ (กลุ่มลูกค้าหลัก) ที่ใช้กำลัง การผลิตในระดับ 81.8% สูงสุดในรอบ 13 ปี ยังคงผลักดันยอดขายที่ดินให้อยู่ระดับสูงที่ 1,300 ไร่ (ใน 1Q08 บริษัทคาดว่าทำยอดขาย 283 ไร่ คิดเป็น 21% ของประมาณการกำไรยอดขายที่ดินทั้งปี) ทำให้กำไรปี 51 จะเติบโต 22% เป็น 1,292 ล้านบาท ส่วนการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยพื้นที่โรงงานให้เช่าปัจจุบันเพียง 36,000 ตร.ม. และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 20,000 ตร.ม. เราคิดว่ายังไม่เพียงพอต่อการจัดตั้งกองทุน 1 พันล้านบาท ได้ตามแผนในขณะนี้ ดังนั้น หากดำเนินการได้จะเป็น Upside เรายังแนะนำ ?ซื้อ? จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรต่อหุ้นที่สดใสที่สุดในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โดยยังคงราคาตามปัจจัยพื้นฐาน 18.70 บาท (DCF ที่ WACC 10.6%)

รุ่งรัตน์ สุนทรปกาสิต No. 3940, rungrats@seamico.co.th





BCP: ร่วมลงทุนในธุรกิจไบโอดีเซล ? ซื้อ ราคาพื้นฐาน 21.00 บาท

BCP ลงทุน 70% ในธุรกิจไบโอดีเซล กำลังผลิต 300,000 ลิตร/วัน โดยเป็นการจัดตั้งบริษัทร่วมค้า ?บริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด? เพื่อลงทุนสร้างโรงงานผลิตไบโอดีเซลด้วยงบประมาณลงทุน 1 พันล้านบาท ที่ อ.บางปะอิน จ.อยุธยา ทั้งนี้ BCP ถือหุ้น 70% และบริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด ถือหุ้น 30%

โครงการนี้จะเพิ่มศักยภาพธุรกิจไบโอดีเซลของ BCP โรงงานร่วมทุนผลิตไบโอดีเซล จะสนับสนุนธุรกิจหลักของ BCP ทั้งในด้านวัตถุดิบ และปริมาณการผลิต ซึ่งเราคาดว่าจะเพิ่มจาก 60,000 เป็น 100,000 ลิตร/วัน หลังจากโครงการปรับปรุงคุณภาพ (PQI) เสร็จสิ้นใน 4Q51 การผลิต B100 จะช่วยให้ BCP ขยายตลาดน้ำมันชีวภาพผ่านช่องทางค้าปลีกได้ดีขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้นำการตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 77% ในปี 50 เราเชื่อว่าบริษัทฯ สามารถเพิ่มมูลค่าเพิ่มด้วยค่าการตลาดที่สูงขึ้น โดยครอบคลุมกลุ่มลูกค้าปลีกอย่างทั่วถึง

คงคำแนะนำ ?ซื้อ? เรายังคงคำแนะนำ ?ซื้อ? สำหรับ BCP-DR ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 51 ที่ 21 บาท (PBV 1.2 เท่า) เนื่องจากเราเชื่อว่าเมื่อโครงการ PQI เสร็จสิ้น จะเพิ่มสัดส่วนน้ำมันคุณภาพสูง ซึ่งจะส่งผลบวกอย่างมีนัยต่อค่าการกลั่น และกำไรที่เป็นเงินสด (EBITDA) ตั้งแต่ปี 52 เป็นต้นไป

ธีรภัทร เมธานุเคราะห์ no. 17619, terapatrm@seamico.co.th



TMB: ได้ MD แล้ว ?บุญทักษ์ หวังเจริญ? ศิษย์เก่า KBANK - ซื้อเก็งกำไร ราคาพื้นฐาน 1.37 บาท

กลุ่ม ING เห็นชอบ คุณบุญทักษ์ หวังเจริญ ก่อนเข้ารับตำแหน่งกับ TMB ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ KBANK ดูแล 3 สายงาน ได้แก่ บรรษัทธุรกิจ, SMEs และ สายงานธุรกิจตลาดทุน โดยร่วมงานกับ KBANK มาทั้งหมด 26 ปี

แนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร? เราเชื่อว่า คุณบุญทักษ์ หวังเจริญ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่นักลงทุนยอมรับในความสามารถ ดังนั้น การเข้ารับตำแหน่ง MD ของ TMB ในครั้งนี้ น่าจะทำให้ธนาคารมีการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น นอกจากนี้ เราเชื่อว่าข่าวดังกล่าวส่งผลดีต่อจิตวิทยาการลงทุน กอปรกับราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวลงมาพอสมควรแล้ว ดังนั้น เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ?ซื้อเก็งกำไร? ที่ราคาเป้าหมาย 1.37 บาท (PBV51 ที่ระดับ 1.2 เท่า)

วิมล เจียมพูนทรัพย์ ? no 17616, wimolj@seamico.co.th

:lol: