SET
รูปแบบ Star ที่เกิดขึ้นวานนี้ อาจส่งผลให้เกิดการดีดกลับช่วงสั้น คาดว่าไม่มีนัยสำคัญอันใดต่อแนวโน้มขาลงระยะกลาง การดีดกลับยังคงมีแนวต้านหลักคือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน และ gap ช่วง 805-810 จุด นักลงทุนอาจใช้โอกาสการดีดตัวนี้ปรับลดน้ำหนักการลงทุน เนื่องด้วยหลังจากนี้ไปดัชนีมีโอกาสปรับฐานใหญ่อีกหนโดยมี Golden Cross ที่ 780 จุด ทำหน้าที่แนวรับย่อย

มุมมองระยะกลาง - MAJOR
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
MAJOR ปรับฐานระยะกลางอีกครั้งหลังจากทดสอบ Tweezers Top บริเวณ 20.00 บาท ก.ค. 50 ช่วงเวลานี้ราคาได้เคลื่อนตัวบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 10 25 75 และเส้น 200 สัปดาห์ บริเวณ 16.00-18.00 บาท นานกว่าแปดเดือน ส่งผลสำคัญต่อการเกิดฐานการเปลี่ยนแนวโน้มใหญ่ ขณะนี้พบว่า RSI และ Stochastic รายสัปดาห์มีการฟื้นตัวอย่างเด่นชัด บ่งบอกถึงโอกาสของการดีดตัวระยะกลางที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ราคาอาจทำจุดสูงสุดใหม่ได้ด้วย

หุ้นเด่น เล่นสั้น - SECC
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
Golden Cross ที่เกิดขึ้น ณ 3.50 บาท มีบทบาทสำคัญผลักดันให้ราคา SECC ดีดตัวทำจุดสูงใหม่บริเวณ 5.85 บาท เดือนที่ผ่านมา สัญญาณระยะสั้นเคลื่อนตัวเข้าสู่เขตการซื้อมากเกินไป ส่งผลเล็กน้อยให้เกิดการปรับฐานลงสู่เส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ ที่ 4.50 บาท ณ ที่นี้ ราคาทรงตัวได้เป็นอย่างดี รูปแบบ Bullish Engulfing เหนือเส้นแนวรับดังกล่าวแสดงถึงการดีดกลับครั้งใหม่ โดยมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะฝ่าจุดสูงสุดเดิมขึ้นไป

หุ้นเด่น เล่นสั้น - TGCI
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
การฟื้นตัวในโครงสร้างใหญ่ของ TGCI เพิ่งเริ่มต้นเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ณ บริเวณ Golden Cross ที่ 0.85 บาท ราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างเสถียรภาพตามแนวเคลื่อนตัวของเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์ แนวโน้มเช่นนี้จะดำเนินต่อไปโดยได้รับแรงสนับสนุนจากสัญญาณ RSI และ MACD โดยมีเป้าหมายหลักของการทดสอบคือเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ ที่ 1.70 บาท


:lol:

Highlight :
แนวโน้มตลาดหุ้น: แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่ามีโอกาสดีดกลับขึ้นยืนเหนือระดับ 800 จุด
ได้ จากการที่ดัชนีดาวโจนส์ดีดกลับขึ้นมา 261 จุด จากข่าวว่า บริษัทแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค จะเข้า
มามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในตลาดสินเชื่อจำนอง และล่าสุดโฆษกพรรคพลังประชาชนออกมาปฏิเสธกระแสการยุบ
สภาว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว นอกจากนี้ คาดว่าตลาดจะขานรับการคาดการณ์ว่า กนง.จะลดดอกเบี้ย
ลงเป็นมุมบวก ทั้งนี้ เราคาดว่า SET จะเคลื่อนไหวที่บริเวณ 802-805 จุด
หุ้นเด่นวันนี้: SCB, QH, SPALI, TSTH, CPALL, BEC, PSAP, DTAC

เหตุการณ์และการขึ้นป้าย :
- วันนี้: PD พ้นเหตุเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน, NSM ลูกหุ้นเข้า 7,517.45
ล้านหุ้น, N-PARK ลูกหุ้นเข้า 4,028.78 ล้านหุ้น
- วันพรุ่งนี้ : BH ลูกหุ้นเข้า 6.67 หมื่นหุ้น

สรุปการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหาร :
- ผู้บริหารซื้อ : UTP, TMT, SMIT, PYLON, PSL, PS, HFT, CPF, BLISS
- ผู้บริหารขาย : TICON-W2, SHIN, RICH

ปัจจัยที่ต้องจับตา :
- 25 มี.ค.51: เลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
- 28 มี.ค.51: พันธมิตรฯ นัดชุมนุมครั้งแรก
- 2 เม.ย.51: ประธานเฟดแถลงภาวะเศรษฐกิจ
- 9 เม.ย.51: กนง.กำหนดทิศทางดอกเบี้ย

Market Summary :
* "เมื่อวาน SET ปิดลบ 9.56 จุด" เมื่อวาน SET ปรับตัวลดลง 9.56 จุด ปิดที่ 798.11
จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,484 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,997 ล้านบาท
* "ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 261 จุด " ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 261.66 จุด หรือ
2.16% ปิดที่ 12,361 จุด หลังจากแกว่งตัวผันผวนในสัปดาห์นี้ โดยดัชนีได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงิน
จากการคาดการณ์ว่า บริษัทแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในตลาดสินเชื่อ
จำนอง ซึ่งจะช่วยลดภาวะสินเชื่อหดตัวที่เคยสร้างความเสียหายให้แก่ แบร์ สเติร์นส์
* "ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEXอ่อนตัว 70 เซนต์" ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน
พ.ค. ปรับตัวลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 101.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ดอลลาร์ทะยานขึ้น (ล่าสุดอยู่ที่
ระดับ 99.42 เยนต่อดอลลาร์) หลังจากนักลงทุนเทขายสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภทเพื่อถือครองดอลลาร์
ทั้งตลาดสหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์นี้เนื่องในวัน Good Friday
* "เมอร์ริล ลินช์ฯ ฟ้องบริษัทประกันหุ้นกู้ เอ็กซ์ แอล แคปิตัล 3.1 พันล้านดอลลาร์"
เมอร์ริล ลินช์ฯ ยื่นฟ้อง บริษัทค้ำประกัน เอ็กซ์แอล แคปิตัล แอสชัวรันส์ อิงค์ เพื่อยับยั้งประกันแห่งนี้จากก
การถอนการค้ำประกันสินเชื่อวงเงิน 3.1 พันล้านดอลลาร์ และมีข่าวลือว่า เมอร์ริลฯ อาจมีการปรับลด
มูลค่าในบัญชีลง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์
* "มอร์แกนฯ แถลงผลกำไรรายไตรมาสลดลง แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์" มอร์แกน
สแตนเลย์แถลงว่าผลกำไรรายไตรมาสของบริษัทลดลง หลังจากทางบริษัทปรับลดมูลค่าในบัญชีลง 2.3 พัน
ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการทางธุรกิจที่แข็งแกร่งช่วยให้บริษัทมีผลกำไรสูงกว่าคาดการณ์ใน
ตลาดอย่างมาก
* "ราคาทองปิดลงเกือบ 3% จากการขายชดเชยการขาดทุนในตลาดเงิน" ราคาทองที่ตลาด
สหรัฐปิดต่ำลงเกือบ 3% จากการที่กองทุนขายทองเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดการเงินอื่น รวมทั้ง การ
ดีดตัวขึ้นสูงของดอลลาร์และการร่วงลงของราคาน้ำมันกระตุ้นการระบายทองออกมา ล่าสุดปิดที่ 909
ดอลลาร์

Economics & Politics:
* "การส่งออกของไทยเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 16% ในขณะที่การนำเข้าโต 33%" รมว.พาณิชย์
เผยการส่งออกเดือนก.พ.มีมูลค่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 16.4% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 1.37
หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 33% เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าทุนและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปผลิตเพื่อส่งออกและ
น้ำมันที่ราคาสูงขึ้น ทำให้ไทยขาดดุลการค้า 688 ล้านเหรียญฯ
* "รมว.คลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าเข้า ครม. 25 มี.ค.นี้" รมว.คลัง
เผยจะนำเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า ในส่วนการจัดสรรงบประมาณ ในโครงการพัฒนา
ศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) 1.5 หมื่นล้านบาท การพักหนี้เกษตรกร และการเสริมสภาพคล่องให้
กองทุนหมู่บ้าน เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันอังคารที่ 25 มี.ค.นี้ และคาดว่าปลายเม.ย.เงินจะเริ่ม
ออกมาและจะเต็มที่ในเดือนมิ.ย.นี้
* "ศาลฎีกาฯมีคำสั่งรับพิจารณาคำร้องของ กกต. กรณีนายยงยุทธ" ศาลฎีกาแผนกคดีเลือก
ตั้ง มีคำสั่งรับพิจารณาคำร้องของ กกต.กรณีมีมติให้ใบแดง นายยงยุทธ ประธานสภาฯ และมีหมายแจ้งให้
นายยงยุทธิ มารับสำเนาคำร้องและเอกสารที่ศาลฎีกา ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหมาย
* "ในหลวงฯโปรดเกล้าแต่งตั้งนายทหารแล้ว" ในหลวงฯ โปรดเกล้าแต่งตั้งนายทหารรับ
ราชการจำนวน 383 ตำแหน่ง โดยการแต่งตั้งดังกล่าวให้มีผลตั้งแต่ 1 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ยืนยันว่าทุก
ตำแหน่งพิจารณาตามความเหมาะสม ไม่มีเรื่องรุ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และการแต่งตั้งครั้งนี้เรียบร้อยดีไม่มี
ปัญหา
* "นายกฯเผยจะมีการโยกย้ายเกิดขึ้นอีกหลายตำแหน่งในวันที่ 2 เม.ย.นี้" นายกฯเผยว่าจะ
มีการโยกย้ายเกิดขึ้นอีกในวันที่ 2 เม.ย.นี้ ในหลายตำแหน่งและการย้าย พล.ต.ต.ชัยยะนั้น พบว่าเคยมี
คำสั่งย้ายมาแล้วเมื่อวันที่ 17 ต.ค.50
* "รองหัวหน้า พปช. เผยหากถูกยุบพรรคฯ อาจมีการเสนอยุบสภาฯ " รองหัวหน้าพรรคพลัง
ประชาชน เผยขณะนี้ได้มีการหารือกับ ส.ส.ภาคเหนือบางส่วน เพื่อหาทางหนีทีไล่หากศาลฎีกาฯมีมติให้ใบ
แดงนายยงยุทธ และอาจนำไปส่การยุบพรรคการเมือง โดยเตรียมที่จะเสนอยุบสภา เพื่อให้ ส.ส.ของ
พรรคไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้พรรคก็มีการหารือถึงการตั้งพรรคใหม่แล้ว

Investment Theme:
"คาดว่า SET วันนี้คาดว่าจะดีดกลับขึ้นยืนเหนือระดับ 800 จุดได้"
.....แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่ามีโอกาสดีดกลับขึ้นยืนเหนือระดับ 800 จุดได้ จากการที่
ดัชนีดาวโจนส์ดีดกลับขึ้นมา 261 จุด จากข่าวว่า บริษัทแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค จะเข้ามามีบทบาท
มากยิ่งขึ้นในตลาดสินเชื่อจำนอง และช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อตึงตัว และล่าสุดโฆษกพรรค
พลังประชาชนออกมาปฏิเสธกระแสการยุบสภาว่าเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของรองหัวหน้าพรรคพลัง
ประชาชนเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลเริ่มเข้าทำงานได้ไม่นาน นอกจากนี้ คาดว่าตลาดจะขานรับการคาด
การณ์ว่า กนง.จะลดดอกเบี้ยลงเป็นมุมบวก เนื่องจากส่วนต่างดอกเบี้ยในและต่างประเทศที่ห่างกันถึง 1%
ทั้งนี้ เราคาดว่า SET จะเคลื่อนไหวที่บริเวณ 802-805 จุด ในวันนี้
......สำหรับภาพของ SET ในระยะสั้นยังมีลักษณะการเคลื่อนไหวแบบ sideway ถึงอ่อนตัว
ลงได้เนื่องจากเราคาดว่าตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับ 1) วิกฤตการณ์สินเชื่อของสหรัฐ 2) การยุบพรรค
การเมืองที่เป็นแกนนำรัฐบาล (ทั้งพรรคชาติไทย, มัชฌิมา และพลังประชาชน) 3) กระแสการยุบสภา 4)
แรงขายของต่างชาติที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การที่ SET จะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง SET ควรจะยืน
เหนือระดับ 825 จุดได้อย่างมั่นคงเสียก่อน
......กลุ่มที่เรายังแนะนำให้ซื้อ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขา
ลง และมาตการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล และกลุ่มธนาคารจากการลงทุนที่ฟื้นตัว และการ
ปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้น

มุมมองทางเทคนิค (Technical View):
"การที่ SET ไม่สามารถพลิกฟื้นโมเมนตัมของตลาดที่เกิดความเสียหายทางเทคนิคให้กลับมาดูดี
อีกครั้ง จึงส่งผลให้ SET แกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า SET จะลงไปทดสอบแนวรับที่ระดับ 787
หรือ 772 จุดในเร็วๆนี้
เรายังคงแนะนำให้ยืนดูสถานการณ์อยู่นอกตลาดต่ออีกสักระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีสัญญาณกลับตัวเกิด
ขึ้นก่อน สำหรับใครที่ชอร์ตหุ้นไว้ ก็น่าจะทยอยซื้อคืนบางส่วน เมื่อ SET อ่อนตัวลงไปถึงแนวรับระดับใด
ระดับหนึ่งที่กล่าวถึงข้างต้น"

กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุน:
กลุ่มธนาคาร(Overweight): คาดการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงและ
โครงการเมกะโปรเจค
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Overweight): ได้รับผลบวกจากดอกเบี้ยขาลงและความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ที่จะฟื้นกลับมา

หุ้นที่น่าสนใจเชิงพื้นฐาน:
ซื้อ: SCB, KBANK, QH, LH, AP, PS, BEC, MINT, CPALL

หุ้นเด่นเก็งกำไรระยะสั้นวันนี้ (ราคาเป้าหมายทางเทคนิค):
หุ้นเด่นสำหรับวันนี้ SCB (เป้าหมาย 95 บาท) QH (เป้าหมาย 3 บาท) SPALI (เป้าหมาย
5 บาท) TSTH (เป้าหมาย 2.5 บาท) CPALL (เป้าหมาย 13 บาท) BEC (เป้าหมาย 28 บาท) PSAP
(เป้าหมาย 1.3 บาท) DTAC (เป้าหมาย 50 บาท)

Company News & View:
* TRT ตั้งเป้ายอดขายโตเป็น 2,300 ล้านบาท และเราคาดว่ากำไรโต 33% จากการชี้แจง
ของผู้บริหาร TRT (ผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ารายใหญ่ในประเทศ) มีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้ 1) ตั้งเป้ายอด
ขายถึง 2,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60%YoY โดยขณะนี้มีงานในมือที่จะส่งมอบปี 08 ประมาณ 1,900 ล้าน
บาท ซึ่งยังคงเป็นงานในประเทศคิดเป็น 60% และเป็นงานของราชการเป็นส่วนใหญ่ 2) แนวโน้มอัตรา
กำไรขั้นต้นลดลงจากปีก่อนเป็น 20-25% จากเดิมปี 07 อยู่ที่ 28% เนื่องจากคาดว่าจะได้รับผลกระทบ
จากราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถปรับราคาได้ทันที นอกจากนี้ยังมีสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น(มีอัตรา

united

:lol: