May 7, 2024   7:21:16 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จับตาแนวต้าน 822 จุด
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 27/03/2008 @ 07:30:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ยังคงมีแนวโน้มผันผวนในกรอบแคบ ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ และความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในประเทศ

สภาพตลาดวันวาน : ภาคเช้าการอ่อนตัวลงบ้างของตลาดหุ้นต่างประเทศบางแห่ง และการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าหลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนตัวลงอีกรอบ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย (+0.34 จุด) ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มหลักออกมาในช่วง 15 นาทีแรก กดดันให้ดัชนีลดลงเกือบ 4 จุด หลังจากนั้นก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง หนุนให้ดัชนีแกว่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 820 จุดอีกครั้ง แต่ไม่อาจผ่านขึ้นไปได้ โดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารออกมาเป็นระยะๆ จากการขายทำกำไรระยะสั้นและจากความกังวลต่อการยุบพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล 2 พรรค ซึ่งที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. จะมีการประชุมหาข้อสรุปในเบื้องต้นในช่วงเย็น ส่งผลให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่องจนหลุดจากแนวรับบริเวณ 816 จุด และปิดตลาดภาคเช้าที่บริเวณ 813.54 จุด ลดลงจากวันก่อน 6.77 จุด (-0.82%)

ภาคบ่าย : มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มหลักเป็นระยะๆ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและธนาคาร รวมทั้งกลุ่มสื่อสาร หนุนให้ดัชนีค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น และเมื่อมีแนวโน้มว่า กกต.จะส่งการตีความข้อกฎหมายเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมืองไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา จึงมีแรงซื้อเข้ามาอีกรอบ หนุนให้ดัชนีผ่านแนวต้านที่บริเวณ 815 จุดขึ้นไปได้ และปิดตลาดที่ระดับ 817.57 จุด ลดลงจากวันก่อน 2.74 จุด (-0.33%) โดยมีปริมาณซื้อขายลดลงเหลือ 1.5 หมื่นล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง

แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้

1.ปัจจัยการเมืองในประเทศ : หลังที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. มีมติให้ กกต. นำกรณียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา จะทำให้ความกดดันยืดเยื้อต่อไป ในขณะที่ประเด็นการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้ประเด็นทางการเมืองยังคงมีแรงกดดันต่อจิตวิทยาการลงทุนภายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าต่อไป เนื่องจากจะทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดการเผชิญหน้าของกลุ่มการเมืองต่างๆ มากขึ้น หลังจากกลุ่มพันธมิตรมีมติคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะเริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง โดยมีการประชุมสัมมนาในวันศุกร์นี้

2. ทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ : ผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมี.ค.2551 ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ทำให้เกิดความกังวลอีกครั้งว่าผู้บริโภคสหรัฐอาจจะชะลอการบริโภคลงต่อเนื่อง ซึ่งจะกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลก ทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดเงินเริ่มมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอีก จึงต้องจับตาดูว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่จะทยอยประกาศในวันพุธถึงวันศุกร์นี้ จะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.2551 กับตัวเลขผู้ว่างงานรายสัปดาห์ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด

3.ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ : แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในการประชุมปลายเดือน เม.ย. ของธนาคารกลางสหรัฐ และแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ คงจะกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงในระยะยาว อย่างไรก็ดีเนื่องจากคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่จะออกมาในช่วงสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า ส่วนใหญ่ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากงวดเดือนก่อน จึงคาดว่าในระยะสั้น ค่าเงินดอลลาร์จะผันผวนในกรอบแคบลงบริเวณ 98-101 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคา Commodity ต่างๆ ไม่มากนัก ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ จึงมีแนวโน้มไม่ผันผวนมากเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ยังคงมีแนวโน้มผันผวนในกรอบแคบ ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ และความกังวลต่อปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยดัชนีจะแกว่งตัวระหว่างแนวรับ 812-814 จุด กับแนวต้าน 822-824 จุด

นักลงทุนระยะสั้น : ทยอยขายทำกำไรบ้าง ที่บริเวณแนวต้าน รอซื้อคืนในวันศุกร์

นักลงทุนระยะยาว : ถือต่อ และทยอยซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร ที่บริเวณแนวรับ

Stock Hilight: โกสินทร์ ศรีไพบูลย์

ที่มา:บล.ยูโอบีเคย์เฮียนฯ

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com