May 3, 2024   2:14:27 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ดัชนีจะผันผวนมากขึ้น ขายทำกำไรระยะสั้นบ้าง
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 03/04/2008 @ 08:25:25
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คาดว่าทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ จะมีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : สภาพตลาดวันวาน : ภาคเช้าผลบวกจากการดีดขึ้นอย่างรุนแรงของตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมทั้งการลดลงต่อเนื่องของภาคน้ำมันดิบล่วงหน้า ทำให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มหลักเข้ามาตั้งแต่เริ่มเปิดซื้อขาย หนุนให้ดัชนีเปิดเพิ่มขึ้นจากวันก่อนกว่า 4 จุด จากนั้นก็แกว่งตัวในกรอบ 827-831 จุด ตลอด 1 ชั่วโมงครึ่งแรก โดยมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารและพลังงานค่อนข้างหนาแน่น จนเมื่อเข้าชั่วโมงสุดท้าย จึงมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มหลักเข้ามาหนุนให้ดัชนีสามารถผ่านแนวต้านที่บริเวณ 831 จุด ขึ้นไปได้ โดยขึ้นไปสูงสุดที่บริเวณ 832 จุด ก่อนที่จะปิดภาคเช้าที่ระดับ 831.57 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน เกือบ 1% โดยยังคงมีการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กบางบริษัทค่อนข้างโดดเด่น เช่น MIDA, PE, MME และ SMM

ภาคบ่าย : มีแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะ BANPU หลังจากราคาถ่านหินในตลาดโลกมีแนวโน้มอ่อนตัวลง หลังจีนกลับมาเริ่มทยอยส่งออกถ่านหิน รวมทั้งราคาหุ้นบริษัทย่อยของ BANPU ในอินโดนีเซียลดลงค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานบริษัทอื่นตามมาบ้าง กดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารเข้ามาเป็นระยะเช่นกัน ทำให้ดัชนีหลุดจากแนวรับบริเวณ 827 จุด ลงไปในช่วง 15 นาทีสุดท้าย และปิดตลาดที่จุดต่ำสุดของวันที่ 825.71 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนเล็กน้อย (+0.28%) โดยมีปริมาณซื้อขายหนาแน่นเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 2.2 หมื่นล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง

แนวโน้มตลาด : ขึ้นอยู่กับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ ต่อไปนี้

1.ทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ : หลังจากตลาดหุ้นเกือบทั่วโลกต่างดีดตัวขึ้น รับข่าวความสำเร็จในการเพิ่มทุนของสถาบันการเงินชั้นนำ 2 แห่งของสหรัฐ ซึ่งทำให้สถานการณ์การเงินโดยรวมเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายดีขึ้น ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐงวดเดือนมีนาคม เริ่มมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น เช่น ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มผ่อนคลายลงไปบ้าง อย่างไรก็ดีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่จะประกาศในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่คาดว่าจะยังคงชะลอตัวลง โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศและการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือนมีนาคม ซึ่งจะกดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัวลงบ้าง ตลาดหุ้นสหรัฐในระยะสั้นจึงคาดว่าจะผันผวนหรือปรับฐานบ้างตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศออกมาในแต่ละวัน

2.ค่าเงินดอลลาร์ : แนวโน้มที่คลี่คลายดีขึ้นของกลุ่มสถาบันการเงิน หลังจากการเข้าแทรกแซงด้วยมาตรการต่างๆ ของธนาคารกลางและรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงการเพิ่มทุนแก้ปัญหาสภาพคล่องของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ ทำให้แนวโน้มของตลาดสินเชื่อและเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น ภายใน 1-2 ไตรมาสหน้า ค่าเงินดอลลาร์จึงมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น ส่งผลทำให้มีการขายทำกำไรสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะน้ำมันดิบ ถ่านหินและโลหะมีค่าต่างๆ ออกมาในระยะสั้นบ้าง ผลของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง ก็คงจะกดดันราคาหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ บ้างในระยะสั้น

3.ปัจจัยการเมืองในประเทศ : ความเคลื่อนไหวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ปัจจัยการเมืองทวีความร้อนแรงมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากมีแนวโน้มของการเคลื่อนไหวคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นควบคู่ไปด้วยเช่นกัน นอกเหนือไปจากความคืบหน้าของคดียุบพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล 2 พรรค และคดีที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ความกังวลต่อปัจจัยการเมือง จึงมีแนวโน้มกดดันทิศทางของตลาดหุ้นไทยเป็นระยะๆ เกือบตลอด 1-2 เดือนข้างหน้านี้

จากปัจจัยข้างต้น คาดว่าทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ จะมีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักๆ ดัชนีจะแกว่งตัวระหว่างกรอบแนวรับ 819-821 จุด กับแนวต้าน 829-831 จุด เช่นเดิม

นักลงทุนระยะสั้น : ขายทำกำไรบ้าง ที่บริเวณแนวต้าน และรอซื้อคืนช่วงราคาอ่อนตัว

นักลงทุนระยะยาว : ถือต่อ และทยอยซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานที่บริเวณแนวรับ

Stock Hilight:โกสินทร์ ศรีไพบูลย์

ที่มา:บล.ยูโอบีเคย์เฮียนฯ

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 03/04/2008 @ 08:40:31 :
SET Analysis : บล.โกลเบล็ก

SET 825.71 +2.35 +0.29%
H / L : Day 832.04 / 825.71
H / L : Week 832.04 / 816.72
H / L : Year 860.69 / 728.58

มีโอกาส REBOUND ขึ้นต่อตามแรงส่งการเปิด GAP

ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP ผ่านยืนแนวต้าน 1/2 ขึ้นมาเกิดเป็น BREAKAWAY GAP ทำให้ยังมี
แนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านเส้น DOWN TREND ผ่านยืนเป็นสัญญาณขึ้นต่อตามรูปแบบ V-SHAPE ในแนวไหล่
ขวา
ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP ผ่านยืนแนวต้านการกลับตัว 1/2 ขึ้นมาทันทีเกิดเป็น BREAKAWAY GAP
เป็นแรงส่งขาขึ้นที่มีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าจะเกิดแท่งเทียน SHOOTING STAR แต่คาดว่ายังมีโอกาสขึ้นทดสอบ
แนวต้านเส้น DOWN TREND ได้อีกครั้งจากสัญญาณบวกการเปิด GAP พร้อม VOLUME เพิ่มและการเรียงตัว
เส้น SMA ที่ยังคงแนวรับขาขึ้นซึ่งสอดคล้องค่าสัญญาณ RSI ,MACD ที่กลับมาแกว่งตัวในทิศทางขึ้นเดิมอีกครั้ง
ดังนั้นจากภาพที่เกิดขึ้นทำให้ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเพื่อทดสอบแนวต้านเส้น DOWN TREND ที่ 831 ผ่าน
ยืนขึ้นมาได้จะเป็นสัญญาณขึ้นต่อตามรูปแบบ V-SHAPE ในแนวขึ้นไหล่ขวาเดิมของรูปแบบหัวและไหล่ขึ้นทันที
ไม่ผ่านยืน 831 มีโอกาสพักตัวตามแรงกดดันแนวต้านเส้น DOWN TREND ที่ยังคงอยู่ กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไร
ระยะสั้น / ซื้อต่อเนื่องเมื่อผ่านเส้น DOWN TREND ที่ 831 ได้เท่านั้น
ระยะกลาง ดัชนีกลับตัวขึ้นตามแนวไหล่ขวารูปแบบหัวและไหล่ขึ้น การเรียงตัว SMA 5,10 วัน
และ RSI,MACD ที่กลับตัวขึ้นเป็นสัญญาณบวกสอดคล้องกัน ทำให้มีแนวโน้มขึ้นต่อ
กลยุทธ์ ปรับตัวซื้อบางส่วน
แนวรับ : 823 / 820
แนวต้าน : 831*** / 834

FIN 954.24 แท่งเทียน
ความเห็น: ดัชนีผ่านยืนแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมเป็นแท่งเทียนสีขาวสอดคล้องกับสัญญาณซื้อตาม
รูปแบบ การเรียงตัวเส้น SMA และค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับขึ้นสอดคล้องกันเป็นสัญญาณบวก ทำให้ดัชนีมี
แนวโน้มกลับตัวขึ้นต่อ
กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามรูปแบบ
แนวรับ 946 / 931
แนวต้าน 977 / 993

BANK 305.51 GAP
ความเห็น: ดัชนีเปิด GAP ขาขึ้นพร้อมทำจุดสูงใหม่เป็นสัญญาณบวกการขึ้นรอบใหม่ตามแนวโน้ม
ขึ้นเดิม แต่เริ่มมีความเสี่ยงขาขึ้นจากการขึ้นมาแกว่งตัวใกล้เส้นแนวต้าน BB TOP และค่าสัญญาณ RSI
เริ่มไม่ทำจุดสูงใหม่
กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรต่อเนื่องแต่เน้นเล่นรอบสั้นๆเท่านั้น
แนวรับ 301 / 296
แนวต้าน 310 / 314

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
สุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 03/04/2008 @ 08:59:04 :
Technical Analysis : บล.นครหลวงไทย

Stock Picks
( TRADING BUY ) SPALI 3.86- 4
( TRADING BUY ) PF 4.4 - 4.7
( TRADING BUY ) AMATA 17.5 - 18.5

แนวโน้ม มีแนวโน้ม sideway ในกรอบ 823-828 จุด
* SCIBS คาดว่าดัชนีตลาดจะเคลื่อนตัวในกรอบ 823-828 จุด
* สัญญาณทางเทคนิคฯเมื่อวันก่อนพักตัวทำให้แนวโน้มวันนี้เป็น sideway แต่ยังยืนค่าเฉลี่ย
10 วัน ยังไม่พบว่าเป็นสัญญาณขาขึ้นต่อ หุ้นรายตัวมีแนวโน้มแกว่งตัว แต่พบสัญญาณขาขึ้นรายตัว
* SCIBS แนะนำซื้อหุ้นที่น่าสนใจ เช่น SPALI, PF, AMATA
* SPALI แนวโน้มราคาหุ้นมีรูปแบบเตรียมปรับขึ้น มีการ breakout ป็นสัญญาณขาขึ้น
แนะนำซื้อเก็งกำไร
* PF แนวโน้มราคาหุ้นมีรูปแบบเตรียมปรับขึ้น มีการ breakout เป็นสัญญาณขาขึ้น
แนะนำซื้อเก็งกำไร
* AMATA แนวโน้มราคาหุ้นมีรูปแบบเตรียมปรับขึ้น มีการ breakout เป็นสัญญาณขาขึ้น
แนะนำซื้อเก็งกำไร

Most Active Stocks

BANPU
ราคาปิด 400
แนวรับ 392
แนวต้าน 408
แนวโน้ม SIDEWAY DOWN
BANPU ประกาศกำไรสุทธิปี 2550 ที่ 6,654 ล้านบาทเติบโต 84% yoy โดยกำไรสุทธิในปี
Q4/50 อยู่ที่ 1,983 ล้านบาท เติบโต 69% yoy และ 15% qoq

KBANK
ราคาปิด 92.5
แนวรับ 91
แนวต้าน 93
แนวโน้ม SIDEWAY
KBANK ตั้งเป้าหมายค่าธรรมเนียมจากธุรกิจรายย่อย 1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 39% จากปีก่อน
โดยธนาคารเน้นบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม

PTT
ราคาปิด 320
แนวรับ 316
แนวต้าน 324
แนวโน้ม SIDEWAY
PTT เตรียมจัดหาน้ำมันเตาจำนวน 60 ล้านลิตร เพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน เม.ย.นี้
หลังประสบปัญหาการส่งมอบก๊าซธรรมชาติให้กับ กฟผ. ล่าช้า

BBL
ราคาปิด 138
แนวรับ 136
แนวต้าน 139
แนวโน้ม SIDEWAY
BBL ขายหุ้นในบริษัทกลุ่มไทยโพลิเมอร์รวมมูลค่า 40 ล้านบาท

TOP
ราคาปิด 69
แนวรับ 68
แนวต้าน 70
แนวโน้ม SIDEWAY DOWN
SCIBS คงมุมมองเชิงบวกต่อกำไรปกติใน Q1/51 แต่คาดจะมีรายกการพิเศษจากการ
book loss จากการทำ Hedging ค่าการกลั่นช่วง 2H/51 เข้ามาประมาณ 1.5 พันล้านบาท

SCB
ราคาปิด 93.5
แนวรับ 92
แนวต้าน 94.5
แนวโน้ม SIDEWAY
SCB ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตไว้ที่ 12-15% จากปีก่อนที่เติบโต 16% และปี 49 สินเชื่อโต 22%

KTB
ราคาปิด 10.4
แนวรับ 10.2
แนวต้าน 10.5
แนวโน้ม SIDEWAY
KTB คาด NPL ลดลงใน Q2/51 หลังจบเจรจาปรับโครงสร้างหนี้หมื่นลบ.เม.ย.นี้

PTTEP
ราคาปิด 152
แนวรับ 150
แนวต้าน 154
แนวโน้ม SIDEWAY
PTTEP คาดจะเซ็นสัญญาแลกเปลี่ยนการถือครองหุ้น (swap) ระหว่างแหล่งก๊าซธรรมชาติใน
พม่าของ PTTEP กับแหล่งปิโตรเลียมในพม่าของ CNOOC จากจีนได้ภายในเดือนเม.ย.นี้

ADVANC
ราคาปิด 99
แนวรับ 98
แนวต้าน 100
แนวโน้ม SIDEWAY
อนุญาโตตุลาการสั่ง ดีพีซี บริษัทลูกเอไอเอส จ่ายดีแทค 70 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.2 พันล้าน
บาท พร้อมดอกเบี้ยค้างชำระ กรณีค้างค่าตอบแทน

BAY
ราคาปิด 24.1
แนวรับ 23.6
แนวต้าน 24.4
แนวโน้ม SIDEWAY
SCIBS ประมาณการผลประกอบการไตรมาส 1/51 ของ BAY จะออกมาเท่ากับ 1,085 ล้าน
บาท ลดลง 4.0% yoy เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 03/04/2008 @ 09:00:14 :
AFET บทวิเคราะห์รายวัน: บจก. แอโกรเวลท์
บทวิเคราะห์

* ภาวะตลาดซื้อขายเงินสด : ราคายางแผ่นดิบตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นจาก
เมื่อวาน 0.63 บาท/กก. สาเหตุจากความต้องการซื้อยางของผู้ประกอบการเพื่อส่งมอบตามสัญญา และอุป
สงค์ยางจากผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่เพราะสต็อคลดลง ขณะที่อุปทานยางมีจำกัดเพราะยังอยู่ในช่วงยางผลัดใบ
อย่างไรก็ตาม ทิศทางของราคายางยังคงผันผวนตามอัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมัน
* การซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้นสาม (RSS3) ประจำวันที่ 1 เมษายน 2551 ทั้งตลาดมีปริมาณ
การซื้อขายยรวมทุกเดือนส่งมอบ 757 สัญญา เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 270 สัญญา โดยมีสถานะคงค้างทั้งสิ้น
1,507 สัญญา เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 160 สัญญา โดยสัญญาส่งมอบเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นตัวแทนตลาดมี
ปริมาณการซื้อขาย 698 สัญญา เปิดซื้อขายกันที่ราคา 88.35 บาท/กก.ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 89.00 บาท
/กก.ลงไปต่ำสุดของวันที่ 87.50 บาท/กก.และมาปิดที่ 87.55 บาท/กก.ราคาลดลงจากวันก่อนหน้า
1.50 บาท/กก.
* Technical play : ราคายางในโตคอมปรับลดลงมาถึง 7.20 เยนหลังจากวันก่อนปรับ
เพิ่มขึ้น 7.50 เยน ทำให้สัญญาณทางเทคนิคจาก MACD ที่มีโอกาสเปลี่ยนทิศเป็นสัญญาณซื้อยังไม่ให้สัญญาณ
ออกมา อีกทั้งราคายังกลับมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นทั้ง 5 10 และ 15 วันได้อีกครั้งหนึ่ง (SMA 5
วันเท่ากับ 284.10 เยน SMA 10 วันเท่ากับ 281.31 เยนและ SMA 15 วันเท่ากับ 284.79 เยน)
ขณะที่ ADX แรงซื้อและแรงขายปรับลดลงทั้งคู่และไม่ก่อตัวเป็นเทรนด์ โดยราคาปิดเคลื่อนไหวในกรอบ
280-290 เยนมาได้ 5 วันทำการ เมื่อดูภาพรวมราคามีโอกาสขึ้น-ลงได้พอ ๆ กัน คาดการณ์แนวรับโต
คอมอยู่ที่ 275-272 เยน แนวต้าน 295-296 เยน แนวต้านถัดไป 302-303 เยน สำหรับ afet คาด
การณ์แนวรับ 86.00 บาท แนวต้าน 90.00 บาท และแนวต้านถัดไป 92.00 บาท
* กลยุทธ : ในช่วงที่นี้ราคากลับมาเคลื่อนไหวในช่วงที่กว้างมากขึ้นให้นักลงทุนระมัดระวังใน
การซื้อขายด้วย โดยปัจจัยภายนอกอย่างราคาน้ำมัน ภาวะตลาดหุ้นและค่าเงินยังมีผลกระทบต่อราคายาง
มากอยู่ เมื่อมองระยะยาวโอกาสที่ราคายางจะปรับลดลงมาก ๆ เป็นไปได้ค่อนข้างยากเพราะปัจจัยเรื่อง
ปริมาณยาง และ stock ยางในประเทศผู้ใช้ยางสำคัญอย่างจีนและญี่ปุ่นที่ลดลงอยู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนเป็นตัว
สนับสนุนอยู่ ประกอบกับปัจจัยทางเทคนิคที่มีโอกาสเปลี่ยนทิศเป็นทิศทางขาขึ้นได้ ดังนั้นนักลงทุนที่ยอมรับ
ความเสี่ยงได้สูงเมื่อราคาย่อลงมาก็น่าจะซื้อสะสมได้ แต่ถ้ายังไม่มั่นใจหรือยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากก็
อาจจะรอจังหวะซื้อก่อนก็ได้

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#4 วันที่: 03/04/2008 @ 09:02:40 :
SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้,ตลาดหุ้นสหรัฐลด-ราคาน้ำมันดิบพุ่ง


กรุงเทพ--3 เม.ย.--รอยเตอร์

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อวานนี้ร่วงลง หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคาร
กลางสหรัฐ(เฟด) กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ และถ้อย

แถลงของเขากระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไร
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดวานนี้ พุ่งขึ้น 3.85
ดอลลาร์ หรือ 3.81% มาที่ 104.83 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจาก
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเบนซิน และจากการที่ดอลลาร์ ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร

*บีโอไอ อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 7 โครงการ มูลค่ารวม 6.28 หมื่นลบ.รวมถึง
3 โครงการอีโคคาร์ ค่ายโตโยต้า,มิตซูบิชิ และทาทารวมมูลค่า 1.67 หมื่นลบ.

*ธปท.เผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง เพราะยังอยู่ใน
ประมาณการของธปท.แต่การประชุมกนง.ก็ยังให้น้ำหนักกับการดูแลเสถียรภาพด้าน
ราคาซึ่งเป็นเป้าหมายของธปท.นอกเหนือจากการพิจารณาเศรษฐกิจในภาพรวม

*กกต.ยังไม่ได้ข้อสรุปกรณีพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยเข้าข่ายถูกยุบพรรค
หรือไม่ แต่นัดให้ทั้งสองพรรคมาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ในวันที่ 8 เม.ย.นี้

*ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ คาดในช่วงไตรมาส 4/51 จนถึงต้นปี 52 จะเริ่มเห็น
บลจ.ออกกองทุน โดยใช้ดัชนี FTSE SET Index Series เป็นตัวอ้างอิง

*แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เผยว่า การจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษสำหรับ
ผู้สูงอายุในวันแรกวานนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้ขณะนี้เหลือพันธบัตรอีก
เพียงประมาณ 1 พันกว่าล้านบาทเท่านั้น จากทั้งหมด 1.2 หมื่นล้านบาท
*เอดีบีเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งไม่รวมญี่ปุ่น ขณะที่
คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโต 5.0% ในปีนี้ และ 5.2% ในปีหน้า

*ปตท.เผยขณะนี้ไทยรับก๊าซธรรมชาติจากพม่าลดลงเกือบครึ่งหนึ่งของระดับ 1.1
พันล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน หลังท่อส่งก๊าซฯจากแหล่งเยตากุนในพม่า มีปัญหาตั้งแต่ 1
เม.ย. ล่าสุดทางกลุ่มเปโตรนาส ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการอยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุ

*หนังสือพิมพ์เผย แหล่งข่าวจากบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง เผยกฟผ.สั่งให้ลด
กำลังผลิตไฟฟ้าลงครึ่งหนึ่ง หลังปริมาณก๊าซฯที่มาจากพม่าไม่เพียงพอ ทำให้ต้อง
ใช้น้ำมันเตาและดีเซลผลิตไฟฟ้า อาจส่งผลให้ค่าเอฟทีในมิ.ย.-ก.ย.สูงขึ้น

*หนังสือพิมพ์เผย กรมพัฒนาพลังงานระบุภายในเดือนเม.ย.จะเสนอแผนพัฒนาพลัง
งานทดแทนใหม่ให้กระทรวงพลังงานพิจารณา โดยจะผลักดันให้ปี 53 ใช้ E20
และ B10 เป็นพลังงานหลัก
*หนังสือพิมพ์เผย TDRI ระบุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าของรัฐ 5
แสนลบ.เป็นมาตรการที่ใช้งบประมาณไม่มาก เมื่อเทียบกับโครงการประชานิยม
*หนังสือพิมพ์เผย รมว.คมนาคมเตรียมเสนอสำนักงบประมาณขอเงินพัฒนาโลจิส
ติกครบวงจร ปี 52 อีก 1.57 แสนลบ. มีแผนลงทุนรถไฟระบบรางเป็นหลัก

*หนังสือพิมพ์เผย กรมธนารักษ์รับลูกนโยบายรมว.คลัง เตรียมลงพื้นที่สำรวจที่
ราชพัสดุตามแนวรถไฟฟ้า หวังพัฒนาเป็นเชิงพาณิชย์ เล็งที่กองทัพอากาศย่าน
ดอนเมืองกว่าร้อยไร่

*หนังสือพิมพ์เผย สศค.ห่วงดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหนี้ต่าง
ประเทศ หลังภาครัฐก่อหนี้มากตั้งงบขาดดุล โดยเดือนก.พ.ดุลการค้าเริ่มติด
ลบเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ส่วนใหญ่มาจากผลกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอ

*หนังสือพิมพ์เผย ททท.เตรียมเสนอบอร์ดตั้งงบลงทุน 160 ลบ.เพื่อตั้งสำนักงาน
การท่องเที่ยวในประเทศเพิ่ม 13 แห่ง และต่างประเทศ 4 แห่ง หวังช่วยดัน
รายได้การท่องเที่ยว

*หนังสือพิมพ์เผย ประธานสมาคมธนาคารไทย หวั่นการเมืองในประเทศที่กลับมา
ผันผวนขณะนี้ จะเป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสุดที่กระทบการลงทุนและความเชื่อมั่น

*หนังสือพิมพ์เผย สมาคมผู้ส่งออกข้าวประเมินสถานการณ์ราคาข้าว โดยคาดว่า
จะปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง หลังอินเดียประกาศหยุดส่งออกข้าวตั้งแต่วานนี้

*หนังสือพิมพ์เผย ดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอี เดือนก.พ.ลดลงมาที่ 42.5 โดย
ธุรกิจค้าส่งอุปโภคบริโภค ร้านค้าปลีก ท่องเที่ยวเป็นกลุ่มที่ดัชนีปรับลงมากสุด
ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่องทำให้ประชาชนระวังการใช้จ่าย--จบ--


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com